พระเจ้าอยู่หัวพระราชทานของขวัญ ช่อดอกไม้และกระเช้าเป็นกำลังใจให้ทัพนักกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2204 โดยทุกคนต่างมีความปลื้มปิติเป็นล้นพ้น และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณประธานโอลิมปิคฯ ภูมิใจผลงานโอลิมปิก 2024 ไทยครองเหรียญรวม อันดับ 1 อาเซียน ขอบคุณแทนคนไทยทั้งประเทศ พร้อมยกย่อง "น้องเทนนิส-โค้ชเช" คว้าทอง 2 สมัยติด เป็นต้นแบบความสำเร็จ และจารึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้วงการกีฬาไทย
เมื่อ 16 ส.ค.67 เวลา 10.00 น. ที่ห้องรับรองบ้านอัมพวัน โอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ผู้แทนพระองค์ ได้อัญเชิญของขวัญพระราชทานของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานของขวัญ ช่อดอกไม้และกระเช้า ให้กับนักกีฬาที่ได้รับเหรียญรางวัลในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2024 ครั้งที่ 33 เพื่อพระราชทานกำลังใจให้แก่นักกีฬาที่ได้รับเหรียญรางวัลในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ปารีส 2024 สร้างความปลื้มปิติเป็นล้นพ้น และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ แก่นักกีฬา ผู้ฝึกสอน สมาคมกีฬาและเจ้าหน้าที่ ตลอดจนคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในโอกาสอันเป็นมงคลนี้
ต่อจากนั้น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้เป็นประธานจัดงานพิธีมอบรางวัลและเลี้ยงอาหารกลางวัน แสดงความยินดีให้แก่นักกีฬา ผู้ฝึกสอน สมาคมกีฬาและคณะเจ้าหน้าที่ ที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 33 ณ กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส
ทั้งนี้ ผลการแข่งขัน ทัพนักกีฬาไทย สามารถคว้าเหรียญทองได้ 1 เหรียญ จากเรืออากาศโทหญิง พาณิภัค วงศ์วัฒนกิจ เทควันโด รุ่น 49 กก.หญิง เหรียญเงิน จาก สิบตำรวจโท กุลวุฒิ วิทิตศานต์ จากแบดมินตันชายเดี่ยว, ธีรพงศ์ ศิลาชัย จากยกน้ำหนัก รุ่น 61 กก.ชาย และ วีรพล วิชุมา จากยกน้ำหนักรุ่น 73 กก.ชาย โดยได้ 2 เหรียญทองแดง จาก จ่าอากาศตรีหญิง จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง มวยสากล รุ่น 66 กก.หญิงและ สุรจนา คำเบ้า ยกน้ำหนัก รุ่น 49 กก.หญิง รวมทั้งสิ้น 6 เหรียญรางวัล
ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้ทำพิธีมอบของรางวัลจากคณะกรรมการโอลิมปิคฯ และได้กล่าวแสดงความยินดีพร้อมกล่าวขอบคุณ นักกีฬา ผู้ฝึกสอนสมาคม รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทุกคนแทนคนไทยทั้งประเทศเพื่อเป็นขวัญกำลังใจ ที่ได้ทุ่มเทฝึกซ้อม กระทั่งได้สิทธิเข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกในครั้งนี้ ซึ่งมีหลายสมาคมฯ ประสบความสำเร็จทำผลงานได้อย่างน่าพอใจ และทำให้นานาประเทศได้เห็นถึงศักยภาพของนักกีฬาทีมชาติไทย ซึ่งทัพนักกีฬาไทยก็ยังสามารถรักษามาตรฐานผลการแข่งขันกีฬาระดับโลกไว้ได้อย่างงดงาม และยังได้สร้างชื่อเสียงจากการได้รับเหรียญรางวัลรวม มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มประเทศอาเซียนด้วยกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลงานของ "น้องเทนนิส -โค้ชเช" ที่ได้เหรียญรางวัลโอลิมปิกเหรียญทอง 2 สมัยติดต่อกัน นับเป็นนักกีฬาคนแรกของไทย และเป็นประวัติศาสตร์ที่จะต้องถูกจารึกไว้ ซึ่งเชื่อว่าผลงานครั้งนี้ สะท้อนความสำเร็จได้ตามเป้า อันเกิดจากนโยบายสำคัญ ที่ตนให้ไว้โดยเฉพาะเรื่องการใช้ "วิทยาศาสตร์การกีฬา" เพื่อความเป็นเลิศ อย่างจริงจัง อย่างไรก็ตาม นักกีฬายังคงต้องมีการพัฒนาเพิ่มขึ้นอีก อย่างต่อเนื่อง ทุกสมาคม โดยจะต้องนำประสบการณ์จากการแข่งขันโอลิมปิกครั้งนี้ ไปปรับปรุงแก้ไข และถอดบทเรียนเพื่อสร้างผลงานให้ดียิ่งขึ้น ในรายการแข่งขันอื่นๆ ต่อไป
ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ยังได้ฝากขอให้สมาคมกีฬามุ่งใช้วิทยาศาสตร์การกีฬา ที่มีมาตรฐานสากล อย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยยกระดับผลงานของนักกีฬาทุกประเภท ให้ดียิ่งๆขึ้นรวมถึงมาตรการป้องกันการใช้สารต้องห้าม จะต้องมีการควบคุมอย่างเข้มงวด และเด็ดขาดด้วยเช่นกัน