การแข่งขันตะกร้อชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทาน ม.ว.ก.คัพครั้งที่ 45 ที่ศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ รามอินทรา  เมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 ก.ค.67 เป็นการชิงชัยวันสุดท้าย ไฮไลต์สำคัญอยู่ที่การแข่งขันเซปักตะกร้อประเภททีมชุดชายรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งเป็นการโคจรมาพบกันระหว่าง กองทัพบก แชมป์รายการนี้มากที่สุด 18 สมัย และเป็นแชมป์ 2 สมัยหลังสุด เข้ามาเจอกับการท่าเรือแห่งประเทศไทย ที่ลุ้นแชมป์สมัยแรก

ทีม เอ กองทัพบก ส่งจอมฟาดอดีตทีมชาติอย่าง พรชัย เค้าแก้ว ในวัย 42 ปี ลงมาเล่นร่วมกับ ยศวัจน์ อุทัยจรูญศรี อดีตทีมชาติอีกตนในตำแหน่งตัวชง โดยมี พิชิตพงษ์ ใจกล้า เป็นตัวเสิร์ฟ พบกับการท่าเรือแห่งประเทศไทย ที่นำโดย อัษดิน วงศ์โยธา อดีตตัวชงทีมชาติ ซึ่งเล่นร่วมกับ พงศธร พงษ์อุดทา (เสิร์ฟ) และ วุฒิชัย ดาวเรืองน้อย (ฟาด) ซึ่งผลปรากฏกองทัพบก อาศัยการทำแต้มจากลูกฟาดหน้าตาข่ายของ พรชัย เป็นหลัก ก่อนชนะไป 2-0 เซต 15-12 และ 15-13 ขึ้นนำก่อน 1-0 ทีม

จากนั้นในทีม บี กองทัพบก ส่ง จันทฤทธิ์ คู่แก้ว อดีตแบ๊กทีมชาติลงมาเสิร์ฟ, ทินกร วงษาเวียง รับบทหน้าซ้ายชง กับ จตุพล ศิริอาจ เล่นหน้าขวาทำ ขณะที่การท่าเรือฯ ที่หลังพิงฝาแพ้อีกไม่ได้ส่ง ปุรเชษฐ์ ยอดแสน (เสิร์ฟ), จุฑาวัฒน์ ศรีทอง(ชง) และ ปรีชา คฤหัส(ฟาด)ลงมาสู้ คู่นี้ทั้งสองทีมสู้กันได้อย่างสูสี จนต้องดวลกันถึง 3 เซต ก่อนที่กองทัพบกจะเอาชนะไปได้ 2-1 เซต 15-8, 6-15 และ 15-11 พร้อมกับคว้าชัยไปได้ในที่สุด 2-0 ทีม

ส่งผลให้กองทัพบกครองถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นสมัยที่ 19 ขยับสถิติเป็นทีมที่คว้าแชมป์รายการนี้มากที่สุดต่อไป และยังเป็นแชมป์ 3 สมัยติดอีกต่างหาก ส่วนการท่าเรือแห่งประเทศไทยได้เพียงรองแชมป์

ส่วนประเภททีมเดี่ยวชายรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปีรอบชิงชนะเลิศ โรงเรียนกีฬาเทศบาลนครนครปฐม ชนะ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตศรีสะเกษ 2-1 เซต 17-15, 12-15 และ 15-7 ครองถ้วยพระราชทานฯสมัยแรก ด้านตะกร้อลอดห่วงกติกาไทยทีมชาย แชมป์ตกเป็นของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่รอบชิงชนะเลิศเอาชนะกองทัพบก 1,840-1,425 คะแนน ครองถ้วยพระราชทานฯสมัยที่ 4