เปิดใจนักยิมนาสติกลีลาสาววัย 16 ปี "แสนดี" สิขรี สุทธิรักษ์ กับเส้นทางสู่แชมป์ประเทศไทย และการต่อสู้ทำตามฝันติดทีมชาติไทย
"ไร้เหรียญในขณะที่ทุกคนมีเหรียญติดมือกลับบ้านกันทุกคน" นั้นคือปมที่ติดอยู่ในใจของนักยิมนาสติกลีลาสาววัย 16 ปี "แสนดี" สิขรี สุทธิรักษ์ หลังจากนั้น "แสนดี" จึงทุ่มให้กับการฝึกซ้อม และบอกกับตัวเองเสมอว่า "อยากเก่งต้องชนะและทำให้ดีกว่าเดิม ทุ่มเท และพัฒนาตัวเองในทุกๆวัน"
แต่..ความสำเร็จและความทุ่มเทของ "แสนดี" ไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ ต้องใช้เวลานานถึง 7 ปีกับการแข่งขันจะก้าวไปถึงแชมป์ นั้นคือ แชมป์ประเทศไทยจากอุปกรณ์ห่วงในปี 2023 ที่สำคัญเป็นการคว้าแชมป์จากอุปกรณ์ที่ไม่ได้มีความถนัดมาก เพราะ แสนดี ถนัดริบบิ้นและนั่นทำให้เป้าหมายของเธอขยับขึ้นไปอีกขั้นคือการติดทีมชาติไทย ไปลุยซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ และพยายามจะลบปมในใจพาตัวเองไปคว้าเหรียญในศึกสิงคโปร์โอเพ่น รายการแรกที่ไปแข่งขัน และเป็นเพียงคนเดียวที่ไร้เหรียญ!!!
"แสนดีเริ่มฝึกยิมฯ ลีลาตอน 8 ขวบซึ่งตอนนั้นเรียนอยู่ที่ รร.นานาชาติสิงคโปร์แล้ว และเห็มมียิมฯ ลีลามาเปิดสอนที่โรงเรียนคือ Bangkok Gymnastics Club เลยมาเริ่มฝึกซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นที่ช้ามากๆ สำหรับยิมนาสติกลีลา ตัวหนูเองกว่าจะฝึกได้ร้องไห้ทุกวันเลยค่ะ เพราะมันเจ็บมากแต่ก็อยากเล่น ก่อนจะซ้อมก็ไปร้องไห้ก่อน แต่พอซ้อมแล้วก็ไม่ร้องเป็นแบบนี้อยู่ประมาณ 6 เดือน ก็เลิกร้องไห้ และหันมาตั้งใจฝึกแบบจริงๆจังๆ"
"ยิ่งมีโอกาสไปแข่งทำให้เรามีแรงบันดาลใจมากขึ้น อยากได้เหรียญเหมือนกับคนอื่นๆ ทำให้กลับมาซ้อมหนัก ยิ่งเวลาไปแข่งกลับมาแล้วไม่ได้เหรียญ จะซ้อมหนักกว่าเดิม แก้ไขในข้อผิดพลาดของตัวเอง แต่รายการที่ทำให้เราต้องทุ่มเทและพยายามมากขึ้นคือ การแข่งขันครั้งแรกในปี 2017 รายการสิงคโปร์ โอเพ่น ทุกคนได้เหรียญหมดเลย ยกเว้นหนูคนเดียวที่ไม่ได้เหรียญ ไม่เสียใจ แต่มันกลายเป็นปมในใจเรา และทำให้เรากลับมาฝึกใหม่ และไม่เคยหยุดซ้อมอีกเลย ต่อให้เจ็บก็ต้องซ้อมเพราะยิมนาสติกลีลา ถ้าเราเจ็บเล็กน้อยแล้วหยุดซ้อมไปหลายวัน เมื่อกลับมาซ้อมใหม่ เท่ากับเราต้องเริ่มต้นใหม่ เราจึงหยุดซ้อมไม่ได้"
"มาถึงตอนนี้กับการแข่งขันในปีล่าสุด 2024 หนูก็ยังไม่ได้เหรียญจากการแข่งขันสิงคโปร์ โอเพ่น แต่อันดับเราขึ้นกว่าเดิมได้อันดับ 5 ทั้ง 3 อุปกรณ์ คือคฑา,ห่วง และ บอล และแน่นอนว่าปีต่อไปจะต้องดีกว่านี้และขึ้นไปติดเหรียญจากรายการสิงคโปร์โอเพ่นให้ได้"
นั่นถือเป็นปมใจในของ "แสนดี" ที่ยังไม่ลืม และพยายามที่จะทำให้ได้ ด้วยการฝึกหนักและการฝึกฝนที่หนักหน่วงวันละ 8-10 ชม. ให้เธอมีชื่อติดโผทีมชาติชุดเล็กในปี 2022 และกำลังจะก้าวไปสู่การเป็นทีมชาติไทยชุดใหญ่ เพื่อทำตามฝันของตัวเองอีกครั้ง!!!
หลังจากที่หนูคว้าแชมป์ประเทศไทย มาครอง ก็มีฝันที่อยากจะสานต่อนั้นคือ การเป็นทีมชาติเพื่อแข่งขันซีเกมส์ครั้งที่ 33 ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพในปีหน้า แน่นอนว่า จะต้องออกจากคลับที่เราซ้อมมานานถึง 9 ปีไปเข้าแค้มป์เก็บตัว ใจหาย ย แค่ ครูเคอ บอกว่าเพื่ออนาคตต้องไป อยู่ที่ไม่สามารถเป็นทีมชาติได้เพราะที่ Bangkok Gymnastics Club มีหน้าที่สอน และสร้างเด็กๆ หากเด็กเก่ง มีศักยภาพมากพอที่ทางสมาคมฯ ต้องการไปติดทีมชาติ เราก็ต้องไป เพื่อสานฝันให้กับตัวเองได้เป็นจริงไปอีกขั้น"
"หนูตัดสินใจไปเข้าแค้มป์ทีมชาติค่ะ ช่วงแรกไปซ้อมกับพี่ๆทีมชาติก่อน หากสต๊าฟโค้ชเห็นว่าเรามีศักยภาพมากพอก็จะได้เก็บตัวยาว เป็นอีกบททดสอบที่จะต้องผ่านไปให้ได้ แสดงศักยภาพและความสามารถของตัวเองว่าเราเหมาะสมกับการเป็นทีมชาติ และหากหนูได้ไปต่อก็จะฝึกหนักขึ้น ทุ่มเทให้มากขึ้นเพื่อฝันอันสูงสุดคือโอลิมปิก ซึ่งเป็นฝันของนักกีฬาทุกคนและหนูก็เป็นหนึ่งในนั้นที่อยากจะทำให้มันให้เป็นจริง"
7 ปีกว่าจะคว้าแชมป์ประเทศไทย แต่ "แสนดี" ไม่เคยหยุดซ้อม และไม่เคยท้อ หรือถอดใจ ในวันที่แพ้ ก็กลับมาซ้อมให้หนักขึ้น เพราะสิ่งเดียวที่นักยิมสาววัย 16 ปี ยึดถือไว้ "อยากเก่งก็ต้องซ้อมและทุ่มเท เพื่อเป้าหมายที่รออยู่ข้างหน้า"!!!