ทีมยกน้ำหนักไทยเตรียมคัมแบ็คสู่การแข่งขันโอลิมปิกเกมส์อีกครั้งในรอบ 8 ปี หลังคราวก่อน ที่ "โตเกียว 2020" ทีมจอมพลังไทยไม่ได้เข้าร่วม เนื่องจากยังมีประเด็นพิพาทกรณีพัวพันเรื่องสารต้องห้าม
ฟ้าหลังฝนย่อมสดใส หลังกลับมาคืนสนามในช่วงปี 2021 ทีมจอมพลังไทยกลับมาทำผลงานได้ยอดเยี่ยม สมกับเป็นหนึ่งในสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทยที่เป็นความหวังเหรียญรางวัลของแฟนกีฬาชาวไทยอีกครั้ง พร้อมกันนี้ยังแจ้งเกิดจอมพลังดาวรุ่งที่มีชื่อว่า "เวฟ" วีรพล วิชุมา ขึ้นมาด้วย โดยเจ้าตัวใช้เวลาเพียงแค่ 3 ปี ระเบิดฟอร์มและกวาดเหรียญรางวัลเป็นว่าเล่นทั้งในประเทศและระดับนานาชาติและกลายเป็นกำลังสำคัญของทีมยกน้ำหนักไทยในเวลานี้
ย้อนกลับไปเมื่อต้นเดือนต.ค. 2021 วีรพล ฉายแววบนเวทียกน้ำหนักโลก ด้วยการคว้า 3 เหรียญทอง รุ่น 67 กก.ชาย ศึกยุวชนโลก 2021 ที่ซาอุดิอาระเบีย ก่อนที่ในช่วงเดือนธ.ค.จะกลับมาคว้าแชมป์เยาวชนประเทศไทย ด้วยการเหมาคนเดียว 3 เหรียญทอง ในรุ่น 67 กก.ชาย
เดือนพ.ค.ปี 2022 ในศึกเยาวชนโลก ที่กรีซ "เจ้าเวฟ" ซึ่งขยับขึ้นมาเล่นในประเภทประเภทเยาวชน ก่อนจะคว้า 2 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน รุ่น 67 กก.ชาย ในการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ดังกล่าว โดย 2 เหรียญทองมาจากท่าสแนตช์ และน้ำหนักรวม ก่อนที่ในเดือนก.ค. จะคว้า 3 เหรียญทองในศึกเยาวชนเอเชีย 2022 ที่อุซเบกิสถาน
เดือนธ.ค.ของปีเดียวกัน กับแมตช์ใหญ่ระดับชิงแชมป์โลก 2022 ที่โคลอมเบีย ในครั้งแรกกับประเภทประชาชน "เจ้าเวฟ" ในวัย 18 ปี ก็ระเบิดฟอร์มคว้า 3 เหรียญทองแดง ในรุ่น 67 กก.ชาย ซึ่งหลังจบการแข่งขันในทัวร์นาเมนต์ "เสธ.ยอด" พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย นายกกิตติมศักดิ์สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศ ถึงกับเอ่ยปากชื่นชมความสามารถของ "เจ้าเวฟ" พร้อมกับมองว่าจะเป็นความหวังของทีมยกน้ำหนักไทยในโอลิมปิกเกมส์
เข้าสู่ปี 2023 วีรพล ประเดิมด้วยการคว้า 1 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน ในศึกชิงแชมป์เอเชีย ช่วงเดือนพ.ค. ที่เกาหลีใต้ ก่อนจะมาสร้างเซอร์ไพรส์ชนิดช็อควงการยกน้ำหนักโลก กับการแข่งขันในศึกชิงแชมป์โลก 2023 ที่ซาอุดิอาระเบีย ช่วงเดือนก.ย.
ในทัวร์นาเมนต์นั้น วีรพล ในวัย 19 ปี ลงแข่งขันในกลุ่มซี รุ่น 73 กก.ชาย ซึ่งการได้ลงแข่งขันกลุ่มดังกล่าว หมายถึงนักกีฬาคนนั้นมีสถิติการยกที่ไม่สูงมาก และต้องขึ้นทำการแข่งขันก่อนนักกีฬาในกลุ่มบีและกลุ่มเอ
ทว่าเมื่อจบการแข่งขันทั้ง 3 กลุ่ม กลายเป็นว่า วีรพล ที่ยกทำสถิติได้ดี โดยยกสแนตช์ 154 กก., คลีนแอนด์เจิร์ก 195 กก. และน้ำหนักรวม 349 กก. ทำเซอร์ไพรส์คว้า 2 เหรียญทอง จากท่าคลีนแอนด์เจิร์ก และน้ำหนักรวม และ 1 เหรียญเงิน จากท่าสแตช์ได้อย่างเหลือเชื่อ โดยสถิติน้ำหนักรวม วีรพล เอาชนะนักกีฬาจีน อย่าง เว่ย หยินติง ถึง 12 กก.
เรื่องนี้กลายเป็นข่าวฮือฮาถึงขั้นวงการยกน้ำหนักโลกถึงกับต้องตีข่าวกับการที่นักกีฬาที่ลงแข่งขันกลุ่มซี จะสร้างเซอร์ไพรส์คว้าเหรียญทองในการแข่งขันได้ ยิ่งเป็นการเกิดในเวทีระดับชิงแชมป์โลกด้วย จึงนับว่าเป็น "ปรากฎการณ์" และเป็นอะไรที่น่าเซอร์ไพรส์ยิ่งไปอีก
ก่อนที่ในช่วงเดือนต.ค. กับมหกรรมกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 เวทีใหญ่ระดับทวีปของ วีรพล เจ้าตัวมาสร้างอีกหนึ่งเซอร์ไพรส์ ด้วยการเบียดจอมพลังของเจ้าภาพ อย่าง จีน, เกาหลีเหนือ และเกาเหลีใต้ คว้าเหรียญเงิน ในรุ่น 73 กก.ชาย ได้สำเร็จ โดยทำสถิติสแนตช์ 156 กก., คลีนแอนด์เจิร์ก 195 กก. น้ำหนักรวม 351 กก. ด้านเหรียญทองเป็นของ ราห์มัต เออร์วิน อับดุลลาห์ จากอินโดนีเซีย ที่ยกสถิติรวม 359 กก. (สแนตช์ 158 กก. / คลีนแอนด์เจิร์ก 201 กก.) และเหรียญทองแดง โฮ คุมเต็ก จากเกาหลีเหนือ น้ำหนักรวม 344 กก.
จากนั้นเจ้าตัวปิดท้ายปีปฎิทิน 2023 ด้วยการคว้า 1 เหรียญทอง 1 เหรียญทองแดง ในรุ่น 73 กก.ชาย ศึกยกน้ำหนักเวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2 ที่กาตาร์
น่าเสียดายในศึกเวิล์ดคัพ 2024 กับการแข่งขันในบ้าน ที่จ.ภูเก็ต ซึ่งก็ถือเป็นทัวร์นาเมนต์เก็บคะแนนโอลิมปิมปารีส สนามสุดท้ายเมื่อต้นเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา เจ้าตัวลงแข่งขันด้วย แต่ไม่สามารถเค้นฟอร์มเก่งคว้าเหรียญได้ โดยจบที่ 19 ในท่าสแนตช์ ด้วยสถิติ 147 กก. ส่วนท่าคลีนแอนด์เจิร์ก ยกรูดไม่ผ่านทั้ง 3 ครั้ง ทำให้ไม่มีสถิติทั้งในท่านี้และน้ำหนักรวม และไม่มีอันดับ
อย่างไรก็ตาม ผลงานจากการแข่งขันจากการที่เจ้าตัวได้ตระเวนแข่งขันทำผลงานและสถิติในช่วงตลอด 1-2 ปีที่ผ่านมา เพื่อให้ได้มาซึ่งผลงานที่ดีที่สุด 5 รายการ ตามที่สหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติกำหนด โดยเป็นรายการบังคับ 2 รายการ และรายการเลือกอีก 3 รายการ ก็ทำให้ทีมยกนำหนักไทยได้โควตาในรุ่น 73 กก.ชาย ในโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ฝรั่งเศส
ทั้งนี้สมาคมก็เลือกที่จะส่ง "เจ้าเวฟ" เป็นตัวแทนของทีมจอมพลังไทยชุดนี้ และเป็น 1 ใน 4 จอมพลังร่วมกับ "ออย" สุรจนา คำเบ้า รุ่น 49 กก., "ส้ม" ดวงอักษร ใจดี รุ่นมากกว่า 81 กก. และ "ฟ่าง" ธีรพงศ์ ศิลาชัย รุ่น 61 กก. ร่วมชิงชัยโอลิมปิกเกมส์รอบสุดท้าย
หากดูจากผลงานและสถิติของ "เจ้าเวฟ" ในช่วงที่ผ่านมาเทียบเคียงกับนักกีฬาชาติอื่นๆในรุ่น 73 กก.ชาย ก็ยังถือว่ามีความเป็นไปได้ที่เจ้าตัวจะเบียดขึ้นไปคว้าเหรียญรางวัลในโอลิมปิกเกมส์ 2024
ส่วนสิ่งที่ต้องเร่งปรับและทำพัฒนาให้ดีขึ้นในช่วงเวลาหลังจากนี้ เชื่อว่าสมาคมคงมองเห็น และมุ่งไปกับการเตรียมนักกีฬาทั้ง 4 คน รวมถึง "เจ้าเวฟ" ให้พร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ ทั้งการปรับเทคนิค เพื่อโอกาสเพิ่มสถิติในการยกทั้ง 2 ท่าให้มากขึ้น ควบคู่ไปกับการฝึกเรื่องของสภาพจิตใจเพื่อรับมือแรงกดดันมหาศาลในเวทีโอลิมปิกเกมส์