สมาคมกีฬายกน้ำหนักฯ เปิดโผ 4 จอมพลังทีมชาติไทย ชุดสู้ศึกโอลิมปิกปารีส 2024 โดยหญิง 2 คน ส่ง "ออย" สุรจนา คำเบ้า ชิงชัยรุ่น 49 กก.และ "ส้ม" ดวงอักษร ใจดี ขึ้นเวทีรุ่นมากกว่า 81 กก. ขณะที่ชาย 2 คนส่ง "ฟ่าง" ธีรพงศ์ ศิลาชัย แข่งขันรุ่น 61 กก.และ "เวฟ" วีรพล วิชุมา ชิงชัยรุ่น 73 กก. "เสธ.ยอด" พลตรีอินทรัตน์ ยอดบางเตย นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมกีฬายกน้ำหนักฯ เผยในส่วนของความหวัง ยังไม่สามารถตอบได้ เพราะยังเหลือเวลาอีก 2 เดือน แต่ที่ผ่านมา ต้องบอกว่า สมาคมฯ ไม่เคยทำให้คนไทยผิดหวัง
"เสธ.ยอด" พลตรีอินทรัตน์ ยอดบางเตย นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากจอมพลังทีมชาติไทย ได้ตระเวณแข่งขันทำสถิติ ให้ดีที่สุด ใน 5 รายการ ที่สหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติกำหนด โดยเป็นรายการบังคับ 2 รายการ และรายการเลือกอีก 3 รายการ มาอย่างเนื่อง ในที่สุดสามารถโควตาไปเข้าร่วมมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ปารีส 2024 ระหว่างวันที่ 26 ก.ค. - 11 ส.ค. 2567 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ได้รวมทั้งหมด 4 ที่นั่ง
ทั้งนี้โควตาดังกล่าวได้จากนักกีฬาหญิง 2 ที่นั่ง รุ่น 49 กก.และรุ่นมากกว่า 81 กก. ขณะที่นักกีฬาชาย 2 ที่นั่ง รุ่น 61 กก. และ รุ่น 73 กก. ทั้งนี้เมื่อพิจารณาจากผลงานที่นักกีฬาทำได้ รวมถึงความพร้อมด้านต่างๆแล้ว สมาคมจะส่ง 4 นักกีฬา ประกอบด้วย หญิง 2 คน ได้แก่ "ออย" สุรจนา คำเบ้า รุ่น 49 กก. อายุ 25 ปี จากจังหวัดเชียงราย และ "ส้ม" ดวงอักษร ใจดี รุ่นมากกว่า 81 กก. อายุ 27 ปี จาก จ.นครสวรรค์ ส่วนรายชื่อนักกีฬาชาย 2 คน ประกอบด้วย "ฟ่าง" นายธีรพงศ์ ศิลาชัย รุ่น 61 กก. อายุ 20 ปี จาก จ.ศรีสะเกษ และ "เวฟ" นายวีรพล วิชุมา รุ่น 73 กก. อายุ 20 ปี จ.สุรินทร์ ส่วนเจ้าหน้าที่ทีม มี นาวาโทหญิง อารีย์ วิรัฐถาวร เป็นผู้จัดการทีม, นายลุคแมน เป็นผู้ฝึกสอน และนายสุวิทย์ อริยชัยกุล เป็นนักกายภาพประจำทีม
"สำหรับความหวัง ยังไม่สามารถตอบได้ เพราะยังเหลือเวลาอีก 2 เดือนก่อนที่โอลิมปิกเกมส์จะเริ่ม แต่ที่ผ่านมา ต้องบอกว่า สมาคมฯไม่เคยทำให้คนไทยผิดหวัง" พลตรี อินทรัตน์ กล่าว
อนึ่ง สหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ กำหนดหลักเกณฑ์คัดเลือกนักกีฬายกน้ำหนัก เพื่อเข้าร่วมมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ปารีส 2024 ระหว่างวันที่ 26 ก.ค. - 11 ส.ค. 2567 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยจอมพลังแต่ละคน ต้องลงแข่งขัน เพื่อทำสถิติให้ดีที่สุด ทั้งหมด 5 รายการ แยกเป็นรายการบังคับ 2 รายการ ชิงแชมป์โลก 2023 ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย และ เวิลด์ คัพ 2024 ที่ประเทศไทย ที่เหลืออีก 3 รายการ เลือกได้จาก 5 รายการ ชิงแชมป์โลก 2022 ที่ประเทศโคลอมเบีย, ชิงแชมป์ทวีป (ในส่วนของไทย คือ ชิงแชมป์เอเชีย 2023 ที่ประเทศเกาหลีใต้), กรังด์ปรีซ์ I 2023 ที่ประเทศคิวบา, กรังด์ปรีซ์ II 2023 ที่ประเทศกาตาร์ และ ชิงแชมป์เอเชีย 2024 ที่ประเทศอุซเบกิสถาน
การแข่งขันในรอบดังกล่าว จะแบ่งซอยออกเป็นชาย 10 รุ่น และ หญิง 10 รุ่น แต่ในการคิดสถิติเพื่อไปโอลิมปิกครั้งนี้ จะถูกรวบรุ่นน้ำหนัก ให้เหลือเพียงชาย 5 รุ่น และ หญิง 5 รุ่น ซึ่งมีจัดการแข่งขันในรอบสุดท้าย เกณฑ์คัดเลือกจะดูจากสถิติของจอมพลังแต่ละคนใน 5 รายการ เมื่อแข่งขันเสร็จสิ้น ใครติด 10 อันดับแรกของแต่ละรุ่นที่รวบแล้ว จะได้โควตาไปเข้าร่วมการแข่งขันในรอบสุดท้ายทันที สัดส่วนตรงนี้เป็น 10 คนต่อรุ่น (สูงสุดชาติละไม่เกิน 6 คน (ชาย 3 คน และหญิง 3 คน) รวม 100 คน (ชาย 50 คน และหญิง 50 คน)
ทั้งนี้ยังมีโควตาตัวแทนทวีป 1 คนต่อรุ่น รวม 10 คน (ชาย 5 คน และหญิง 5 คน) ร่วมด้วยโควตาเจ้าภาพ สูงสุด 4 คน (ชาย 2 คน และหญิง 2 คน) และให้สิทธิ์ไวด์การ์ด สูงสุด 6 คน (ชาย 3 คน และหญิง 3 คน) เบ็ดเสร็จจะมีนักกีฬาเข้าร่วมทั้งหมด 120 คน (ชาย 60 คน และหญิง 60 คน)