ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยถึง ผลงานของทัพนักกีฬาทีมชาติไทย ในการควอลิฟายเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ถือว่าคราวนี้ทำผลงานได้ดีทั้งโอลิมปิก และพาราลิมปิก มีตัวเลขนักกีฬาที่คว้าตั๋วเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ ถ้าเทียบในภูมิภาคอาเซียนแล้วเชื่อว่านักกีฬาไทยควอลิฟายไปโอลิมปิกได้มากที่สุด ตัวเลขตอนนี้ที่เป็นทางการอยู่ที่ 27 คน แต่ว่าที่ยังไม่ประกาศอย่างเป็นทางการก็ยังมีอีกหลายชนิดกีฬา ทั้งแบดมินตัน 9 คน และยกน้ำหนัก 4 คน หรือกีฬาอื่นๆ ที่เป็นการเก็บสะสมคะแนน และอยู่ระหว่างการคัดเลือก อย่าง มวยสากลสมัครก็ยังหวังว่าจะได้เพิ่มเติม รวมๆ แล้วเชื่อมั่นว่าทัพไทยจะคว้าตั๋วโอลิมปิกแตะๆ ตัวเลข 50 คนได้แม้ตัวเลขอย่างเป็นทางการตอนนี้จะอยู่ที่ 27 คนก็ตาม

"จะเห็นได้ว่ามีหลายชนิดกีฬาที่ควอลิฟายไปได้เป็นครั้งประวัติศาสตร์ เช่น ปัญจกีฬาสมัยใหม่ที่เรายังไม่เคยเข้ามาก่อน หรือว่าแบดมินตัน 9 คนก็ถือว่าเราไม่ได้ทำได้แบบนี้มานานแล้วที่ควอลิฟายครบทุกอีเวนต์ เป็นทิศทางในการพัฒนาที่ดี ส่วนเรื่องของความหวังเหรียญทอง เหรียญเงิน เหรียญทองแดง ในการวิเคราะห์ต่างๆ เราขอมาสรุปกันอีกที แต่อย่างน้อยๆ เราจะได้เห็นนักกีฬาในหลากหลายชนิดกีฬา และจะเป็นครั้งที่มีความคึกคัก มีความตื่นเต้น เพราะนักกีฬาหลายคนอยู่ในข่ายที่ได้ลุ้นเหรียญ ไม่ว่าจะเป็นทั้งแบดมินตัน, กอล์ฟ รวมทั้งกีฬาหลักๆ ที่เราเคยได้ทั้งเทควันโด, ยกน้ำหนัก และมวยสากลสมัครเล่น ซึ่งก็เชื่อว่า นักกีฬาไทยทั้งชายและหญิงน่าจะทำผลงานได้อย่างดี" ดร.ก้องศักด กล่าว

ผู้ว่าการ กกท.กล่าวอีกว่า ส่วนทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยนั้น ต้องยอมรับว่าลุ้นเหนื่อยในการควอลิฟายโอลิมปิกเกมส์ 2024 แต่ว่าก็ยังไม่ได้ปิดโอกาส ก็อยากให้พี่น้องคนไทยได้ส่งกำลังใจในการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิง รายการเนชั่นส์ลีก 2024 ซึ่งมีผลอย่างยิ่งในการสรุปแรงกิ้งอันดับโลก เพื่อควอลิฟายโอลิมปิก และอยากให้ส่งแรงใจไปเชียร์อีกหลายชนิดกีฬาที่กำลังควอลิฟายอยู่ ด้านกีฬาเทเบิลเทนินสทีมหญิงก็เป็นอีกกีฬาที่เราภูมิใจว่า อาจจะยังไม่สามารถคาดหวังเหรียญได้ แต่อย่างน้อยมีพัฒนาการในการผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายได้ รวมทั้งกรีฑาอย่าง "บิว" ภูริพล บุญสอน ในวิ่ง 100 เมตรก็อยู่ในแรงกิ้งในข่ายที่จะได้ไปโอลิมปิก แต่ก็ต้องทำผลงานไปจนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน เรียกได้ว่ามีหลากหลายชนิดกีฬาที่คนไทยจะได้ลุ้น ได้เชียร์ และได้มีความสุข

"การเตรียมความพร้อมของนักกีฬานั้น เราไล่เป็นชนิดกีฬา ซึ่งกีฬาที่ผ่านการควอลิฟายแล้วก็จะมีแผนที่ชัดเจน ทั้งการเก็บตัวฝึกซ้อมในประเทศ และส่งตัวไปฝึกซ้อมที่ต่างประเทศด้วย เพื่อปรับสภาพต่างๆ ซึ่งเป็นไปได้ด้วยดี ก็ได้มีการประสานงานกันอย่างใกล้ชิดระหว่างการกีฬาแห่งประเทศไทย, คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย และสมาคมกีฬาที่เกี่ยวข้อง ก็คงจะแก้ไขปัญหาต่างๆ หน้างาน และการเสริมเรื่องของจิตใจ ซึ่งเราได้เซ็นเอ็มโอยูกับ มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เข้ามาช่วยในเรื่องจิตวิทยาการกีฬา ช่วยเรื่องเสริมพลังใจ นอกจากจากเรื่องการเสริมร่างกาย ตอนนี้โค้งสุดท้ายแล้วจะต้องปราศจากอาการบาดเจ็บ ซึ่งเราจะใช้วิทยาศาสตร์การกีฬาให้ครบทุกแขนงในการป้องกันการบาดเจ็บ ตรงนี้สำคัญที่สุด" ดร.ก้องศักด กล่าว