การเอาชนะรวด 4 นัด เหนือคู่แข่งในกลุ่ม อย่าง สิงคโปร์, เอสโตเนีย (เจ้าภาพ), บอสเนีย และ อิสราเอล ช่วยให้ไทย ประเทศเมืองร้อนได้จารึกหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ ด้วยการคว้าแชมป์กลุ่มบี และได้สิทธิ์ขยับขึ้นไปเล่นดิวิชั้นที่สูงขึ้น อย่าง ดิวิชั่น 3 กลุ่มเอ ในการแข่งขันครั้งต่อไป

นอกเหนือจากชัยชนะในทัวร์นาเมนต์ดังกล่าวแล้ว ยังน่าดีใจที่วงการไอซ์ฮอกกี้ไทยได้เห็นผู้เล่นสายเลือดใหม่ๆหลายคนที่ติดธง และทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจในทัวร์นาเมนต์นี้ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ "เกรซ" ธมิดา กุลธาดาปกรณ์ ดาวรุ่งวัย 17 ปี ในฐานะนายด่านสุดท้าย หรือผู้รักษาประตู ซึ่งทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยม และสร้างความอุ่นใจให้กับเพื่อนร่วมทีมได้เสมอยามลงสนาม และด้วยวัยเพียง 17 ปี จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า เธอมีโอกาสและเวลาพัฒนาตัวเอง รวมถึงสร้างผลงานและความสำเร็จในนามสโมสรและในนามทีมชาติไทยอีกมาก

เพราะเหตุผลใด จึงทำให้สาวน้อยรายนี้เลือกที่จะมุ่งมั่นทุ่มเทเวลาส่วนใหญ่ไปกับการเล่นกีฬาฮอกกี้น้ำแข็ง อะไรที่ทำให้เธอชื่นชอบกีฬาชนิดนี้ และเธอมีหมุดหมายหรือตั้งธงในการลงเล่นให้กับตัวเองไว้อย่างไร มารู้จักเจ้าตัวกันจากบทสัมภาษณ์นี้ ที่เธอให้เกียรติเปิดใจกับทีมข่าวกีฬาสยาม หลังจบศึกชิงแชมป์โลก 2024 ที่เอสโตเนีย

ช่วยแนะนำตัวหน่อย ?

เกรซ : "สวัสดีค่า ชื่อ ธมิดา กุลธาดาปกรณ์ ชื่อเล่นเกรซ นะคะ ตอนนี้อายุ 17 ปี  กำลังเรียนอยู่ที่โรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนเวนต์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ค่ะ"

ติดทีมชาติไปแข่งขันชิงแชมป์โลกครั้งแรก เป็นอย่างไรบ้าง ?

เกรซ : "รู้สึกตื่นเต้นและกดดันมากค่ะ นี่เป็นครั้งแรกที่เกรซได้ไปแข่งต่างประเทศ ก่อนหน้านี้มีโอกาสจะได้ไปแข่ง แต่ต้องยกเลิกไปเพราะเป็นช่วงนั้นสถานการณ์โควิด-19 ระบาด และครั้งนี้สำคัญมากๆเพราะเรามาในนามทีมชาติไทย ยิ่งตื่นเต้นและกดดันมากขึ้นไปอีกค่ะ"

ตลอดการแข่งขันมีเรื่องอะไรประทับใจบ้าง ?

เกรซ : "ถ้าเรื่องในสนาม เกรซประทับใจเรื่องการจัดการการเเข่งขันค่ะ ส่วนในทีมได้เห็นความพยายามของเพื่อนๆในสนาม การเล่นเป็นทีมทุกคนตั้งใจมากๆที่จะยิงประตูให้ได้ นอกจากการทำประตูแล้วทุกคนก็ช่วยกันป้องกันเต็มที่ เลยไม่เสียประตูค่ะ เพื่อนๆก็เป็นกำลังใจ และคอยอยู่ข้างกันทั้งในสนามแข่ง และนอกสนามแข่งค่ะ"

เพื่อนๆและพี่ๆในทีมชาติ ให้คำแนะอย่างไรบ้าง ?

เกรซ : "พี่ๆซีเนียร์ทุกคนคอยแนะนำและแชร์ประสบการณ์จากการแข่งขัน รวมถึงการรับมือต่างๆให้เกรซได้เตรียมพร้อมค่ะ ซึ่งก็ทำให้ผ่านปัญหาต่างๆมาได้ ต้องขอบคุณครูนุ้ยที่เปรียบเสมือนพี่เหมือนแม่อีกคนที่มาดูแลน้องๆ และที่สำคัญพี่ป๊อปที่เป็นครูสอนเกรซเล่นประตูคนแรกและดูแลเกรซมาจนถึงวันที่ได้มาร่วมเล่นด้วยกัน เกรซดีใจมากค่า รวมถึงพี่กิฟที่สนับสนุนเกรซมาตั้งแต่วันแรกที่เกรซเล่นประตู เเละแพรวที่เป็นกัปตัน และเพื่อนๆในทีมทุกๆคนเลยค่ะที่คอยให้กำลังใจหนูตลอดต้องขอบคุณมากจริงๆค่ะ"

เกรซมาเล่นฮอกกี้น้ำแข็งได้อย่างไร เริ่มเล่นตอนไหน ?

เกรซ : "เริ่มเล่นฮอกกี้ตอนอายุประมาณ 11 ขวบค่ะ ตอนแรกก็เล่นสนุกๆกับน้องชายค่ะ คุณแม่บอกชุดมันเท่ห์ดี ส่วนกีฬานี้ ถึงแม้จะไม่ได้เป็นกีฬาที่นิยมนักแต่ก็เป็นกีฬาที่สนุกและได้อะไรมากมายจากกีฬานี้ ยิ่งหลังจากได้เข้ามาทีมแบงคอก วอริเออร์ ทำให้เกรซได้เล่นฮอกกี้จริงจังมากขึ้น และผู้ใหญ่ในทีมทั้งแม่หน่อย พ่อคิง พ่อจุมพล สนับสนุนให้เกรซมาเล่นโกล และเล่นต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้ค่ะ"

ชอบฮอกกี้น้ำแข็งตรงไหน มองว่าเสนห์คืออะไร ?

เกรซ : "ชอบเพราะมันเป็นเกมที่สนุกและได้ท้าทายตัวเองค่ะ หลายคนพูดว่าฮอกกี้น้ำแข็งเป็นกีฬาที่เล่นยากที่สุด มันเลยยิ่งท้าทายให้เกรซลองลุยและสนุกกับกีฬานี้ และที่สำคัญอีกอย่าง ไม่ร้อนและไม่ต้องลุยแดดค่ะ"

พูดถึงตำแหน่งที่เล่นหน่อย ?

เกรซ : "สำหรับตำแหน่งโกลลี่ หรือผู้รักษาประตู เดิมทีไม่ใช่ตำแหน่งแรกที่เกรซเล่นคะ เกรซเริ่มมาจากการลองเล่นผู้เล่น และฝึกพื้นฐานสเก็ตตั้งแต่ครูบิ๊กสอน จนครูพาส่งเข้าทีมแบงคอก วอร์ริเออร์ ที่มีพี่บอสเป็นโค้ช ซึ่งก็สนับสนุนเกรซมาตลอด และอย่างที่เล่าไปค่ะ ผู้ใหญ่ในทีม ทั้งพ่อคิง แม่หน่อย พ่อจุมพล แม่จิว พี่บอส สนับสนุนให้เราลองเล่นโกลลี่"

"พอเราลองแล้วก็เริ่มสนุกกับตำแหน่งนี้ ได้ครูแก่ง ครูโน๊ตช่วยปรับเสก็ตให้แข็งแรงขึ้น ประกอบกับได้ครูที่ดีอย่างพี่ป๊อป ทำให้เรายิ่งสนุกและเริ่มต้นเดินบนเส้นทางการเป็นโกลลี่อย่างจริงจังจนวันนี้ รวมถึงโค้ชดีๆทั้งพี่ดรีม ไมเคิล จี ที่ช่วยฝึกเกรซ ถามว่าเป็นตำแหน่งที่ยากมั้ย ตอบตรงๆว่ายากค่ะ นอกจากความยากในการเล่น และต้องฝึกร่างกายให้ยืดหยุ่นและแข็งแรงมากแล้ว สิ่งที่ยากที่สุดคือการรับมือความกดดันเพราะตำแหน่งนี้ความกดดันสูงมากค่ะ"

ตั้งเป้าหมายในการเล่นไว้ตรงไหน ?

เกรซ : "เป้าหมายในการเล่นเดิมทีเกรซไม่ได้มองเป้าหมายไว้ไกลมาก แต่ตอนนี้เกรซมองเป้าหมายที่จะพัฒนาตัวเองและท้าทายตัวเองให้ก้าวไปสูงกว่านี้ เกรซอยากไปเรียนและเล่นในประเทศที่เล่นฮอกกี้น้ำแข็งระดับสูง และเป็นโกลลี่ที่ดีที่สุดในระดับเอเชียและระดับโลก ให้เห็นว่าคนไทยสู้ต่างชาติได้ไม่แพ้ใครค่ะ

มองวงการฮอกกี้น้ำแข็งไทยตอนนี้เป็นอย่างไร ?

เกรซ : "เกรซมองวงการฮอกกี้น้ำแข็งไทยตอนนี้ว่าวงการนี้กำลังเข้าสู่ยุคทองมีอนาคตที่จับต้องได้ ยิ่งถ้าได้ผู้ใหญ่ ทั้งภาคเอกชนและภาครัฐมาร่วมสนับสนุนให้วงการฮอกกี้น้ำแข็งไทยก้าวหน้า เกรซอยากให้ผลักดันเด็กๆทุกคนที่รักฮอกกี้น้ำแข็ง สามารถจริงจังและมีอนาคตในการเล่นได้ รวมถึงสนับสนุนนักกีฬาไทยให้มีโอกาสพัฒนาตัวเองไปในประเทศที่เก่งในกีฬานี้ เพื่อที่จะได้ไปเล่นและพัฒนาตัวเองจริงจัง มีทุนดูแลให้ ซึ่งก็เชื่อว่าจะยิ่งทำให้วงการฮอกกี้น้ำแข็งไทยก้าวไปได้ไกลกว่านี้ค่ะ ตอนนี้ทั้งฮอกกี้น้ำแข็งผู้ชายและผู้หญิง พร้อมจะสู้ต่อในระดับโลกค่ะ"