กกท.ฟันธงเลือกตั้งยิงปืนโมฆะ สั่งตรวจสอบสมาชิกสโมสรก่อนเลือกใหม่

กกท.ฟันธงเลือกตั้งยิงปืนโมฆะ สั่งตรวจสอบสมาชิกสโมสรก่อนเลือกใหม่
การกีฬาแห่งประเทศไทยฟันธงเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬายิงปืนแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2567 เป็นโมฆะ สั่งตรวจสอบคุณสมบัติสมาชิกสโมสร 9 สโมสรที่มีปัญหา พร้อมให้กำหนดวันเลือกตั้งใหม่ภายใน 60 วัน

นายสกล วรรณพงษ์ รักษาการนายกสมาคมกีฬายิงปืนแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตนได้รับหนังสือแจ้งจากการกีฬาแห่งประเทศไทย ถึงผลการเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬายิงปืนแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งผลการเลือกตั้งในวันนั้นปรากฏว่า "บิ๊กแจ๊ส" พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ได้รับเลือกตั้งเป็นนายกสมาคมกีฬายิงปืนฯ ด้วยคะแนนเสียงโหวต 22 คะแนน แต่อย่างไรก็ตามในวันเลือกตั้งดังกล่าวเกิดเหตุการณ์วุ่นวายมากมาย ทั้งกรณีที่ 9 สโมสรสมาชิกที่ถูกตัดสิทธิเข้าประชุมโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงมีการโต้เถียงกันอย่างรุนแรงในที่ประชุม และเมื่อประธานในที่ประชุมวันนั้นคือตน สั่งปิดประชุมแล้ว แต่สมาชิกในห้องประชุมถือวิสาสะดำเนินการประชุมต่อจนมีการเลือกตั้งออกมา 

ล่าสุดการกีฬาแห่งประเทศไทย โดยนายมีชัย อินวู๊ด รองผู้ว่าการฝ่ายบริหาร ในฐานะนายทะเบียนสมาคมกีฬาประจำกรุงเทพมหานคร ได้ส่งหนังสือลงวันที่ 25 มีนาคม สรุปความเห็นเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ดังนี้ 

1. การที่สมาคมได้แต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัครนายกสมาคมและคุณสมบัติสโมสรสมาชิกที่มีสิทธิเลือกตั้งนายกสมาคมกีหายิงปืนแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ พ.ศ. ๒๕๖๖ โดยมีบุคลากรของกกท. เข้าร่วมเป็นคณะทำงานในคำสั่งดังกล่าว ซึ่งฝ่าฝืนคำสั่งของกกท. ที่แจ้งต่อสมาคมไม่อนุญาตให้บุคลากรภายใต้สังกัดของกกท.มาร่วมเป็นคณะทำงาน คำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานขอสมาคมจึงเป็นคำสั่งแต่งตั้งที่มิชอบตามคำสั่งของกกท. เมื่อเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบ การทำหน้าที่ตรวจสอบคุณสมบัติและผลที่ได้จากการตรวจสอบคุณสมบัติของคณะทำงานจึงไม่ชอบตามไปด้วย ทำให้รายชื่อสมาชิกผู้มีสิทธิเข้าร่วมการประชุมใหญ่และสมาชิกผู้มีสิทธิออกเสียงลงมติในที่ประชุมใหญ่เป็นรายชื่อที่ไม่ชอบ การประชุมใหญ่ที่มีองค์ประชุมเป็นสมาชิกที่มาจากการตรวจสอบสิทธิที่ไม่ชอบย่อมเป็นการประชุมใหญ่ที่ไม่ถูกต้องตามข้อบังคับ

2. การที่คณะกรรมการบริหารสมาคมได้มีการประชุม ครั้งที่ 12/2566 และได้มีมติเห็นชอบแผนปฏิทินระบุว่า "กำหนดการประชุมสามัญเลือกตั้งนายกสมาคมและคณะกรรมการบริหารสมาคม ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมสมาคมกีฬายิงปืนแห่งประเทศไทยฯ" แต่ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2567 สมาคมกลับจัดการประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ 1/2567 อีกทั้งในการประชุมดังกล่าวยังได้บรรจุวาระการประชุมที่ไม่ได้ผ่านมติเห็นชอบของคณะกรรมการบริหารในการประชุมจึงเป็นการจัดประชุมที่ขัดกับมติของคณะกรรมการบริหารและเป็นการจัดประชุมใหญ่ที่ผิดข้อบังคับ

3. การเข้ามาให้ที่ประชุมของสโมสรสมาชิก จำนวน 9 สโมสร ที่ไม่มีรายชื่ออยู่ในรายชื่อสมาชิกที่มีสิทธิเข้าประชุม โดยพลการโดยมิได้ให้เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจเอกสารประจำตัวและเอกสาร การมอบอำนาจของทั้ง 9 สโมสร ว่าเป็นบุคคลผู้มีสิทธิของสโมสรหรือเป็นผู้ได้รับมอบอำนาจมาอย่างถูกต้องจากสโมสรหรือไม่ และเมื่อมีการนับองค์ประชุมที่ประชุมก็ได้นับจำนวนสโมสรสมาชิกที่รวมจำนวนสโมสรสมาชิกทั้ง 9 สโมสร เข้าไปในจำนวนองค์ประชุมด้วย (34+9) การนับองค์ประชุมในการประชุมดังกล่าวจึงไม่ชอบด้วยข้อบังคับของสมาคม เนื่องจากได้นับบุคคลซึ่งไม่มีสิทธิหรือไมได้ตรวจสอบสิทธิรวมเข้าเป็นองค์ประชุมเป็นสมาชิกโดยที่ประชุมใหญ่

4. การทำหน้าที่ประธานการประชุมของนายกสมาคม ซึ่งประธานการประชุมมีอำนาจหน้าที่ดำเนินการประชุมและเพื่อรักษาความเรียบร้อยในการประชุม มีอำนาจออกคำสั่งใดๆ ตามความจำเป็นได้เมื่อนายกสมาคมกล่าวปิดประชุมแล้วการประชุมต้องเป็นอันยุติ การที่สมาชิกบางส่วนกลับไม่รับฟังและได้ดำเนินการประชุมต่อไปโดยพลการ อีกทั้งยังได้ลงมติเปลี่ยนตัวผู้ทำหน้าที่ประธานการประชุมแทนนายกสมาคม และดำเนินการประชุมเพื่อเลือกตั้งนายกสมาคมและกรรมการบริหารสมาคม โดยมิได้มีข้อบังคับหรือ กฎหมายใดให้อำนาจไว้หรือกำหนดว่าสามารถกระทำได้ จึงเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนข้อบังคับสมาคม มติของที่ประชุมจึงไม่ชอบด้วยข้อบังคับและไม่สามารถยอมรับได้

ตามข้อพิจารณาของนายทะเบียนทั้งหมด นายทะเบียนจึงมีคำสั่ง ดังนี้ 1.ใช้อำนาจตามมาตรา 84 แห่งพระราชบัญญัติการกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ.2558 สั่งเพิกถอนมติของที่ประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่1/2567 ของสมาคมกีฬายิงปืนแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เมื่อวันเสาร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมสมาคมกีฬายิงปืนแห่งประเทศไทย การกีฬาแห่งประเทศไทย หัวหมาก กรุงเทพมหานคร

2. ใช้อำนาจตามมาตรา 86 แห่งพระราชบัญญัติการกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2558 สั่งให้คณะกรรมการบริหารสมาคมกีฬายิงปืนฯ ชุดรักษาการ ดำเนินการแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อตรวจสอบคุณสมบัติของสโมสรสมาชิกตามข้อบังคับของสมาคม โดยคณะทำงานต้องเป็นผู้ที่มีความเหมาะสมในการทำหน้าที่ เมื่อดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติเสร็จสิ้นแล้ว ก็ให้สมาคมจัดประชุมใหญ่เพื่อเลือกตั้งนายกสมาคมคนใหม่ ภายใน 60 วัน นับแต่วันที่ดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติสโมสรสมาชิกเสร็จสิ้นแล้ว

"บิ๊กเสือ" กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า หลังจากได้รับหนังสือจาก กกท. ก็จะทำการตั้งคณะกรรมการชุดตรวจสอบสมาชิกสโมสร ให้เสร็จสิ้นตามระยะเวลาที่การกีฬาแห่งประเทศไทย กำหนดมาคือ 60 วันและจะกำหนดวันเลือกตั้งใหม่อีกครั้งและตนก็ยังจะลงสมัครเลือกตั้งในครั้งนี้เหมือนเดิม


ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport