จอมพลังไทย ตั้งเป้าคว้าโควตาไปโอลิมปิก ปารีส 2024 ให้ได้อีก 2 ที่นั่ง ในศึกยกน้ำหนัก เวิลด์ คัพ 2024 รายการเก็บคะแนนสะสมไปปารีสเกมส์ ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 31 มี.ค.-11 เม.ย.67 ที่จ.ภูเก็ต โดยมีโอกาสได้เพิ่มจากรุ่น 102 กก.ชาย และ รุ่น 59 กก.หญิง หลังจากเวลานี้ ทีมยกเหล็ก ได้สิทธิ์มาแล้ว 4 ที่นั่ง แยกเป็นชาย 2 ที่นั่ง และ หญิง 2 ที่นั่ง
ความเคลื่อนไหว การแข่งขันยกน้ำหนัก ไอดับเบิ้ลยูเอฟ เวิลด์ คัพ 2024 รายการเก็บคะแนนสะสมไปมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ปารีส 2024 ที่จะชิงชัยระหว่างวันที่ 31 มี.ค.-11 เม.ย.67 ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต ล่าสุด จอมพลังทีมชาติไทยชุดนี้ ทั้ง 18 คนชายและหญิง อยู่ในช่วงเตรียมทีมฝึกซ้อมกันอย่างมุ่งมั่น ที่บริเวณใต้ราชมังคลากีฬาสถาน การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) หัวหมาก โดยได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจากกกท.
"เสธ.ยอด" พลตรี อินทรัตน์ ยอดบางเตย นายกกิตติมศักดิ์สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในเวลานี้ นักยกน้ำหนักทีมชาติไทย มีความพร้อมอย่างเต็มที่ ซึ่งในศึก เวิลด์ คัพ ถือเป็นแมตช์บังคับในการเก็บคะแนนไปปารีสเกมส์ รายการสุดท้าย ทำให้จะมีจอมพลังจากทั่วโลก เดินทางมาแข่งขันเป็นจำนวนมาก การชิงชัยจะเป็นอย่างไปอย่างเข้มข้นแน่นอน อย่างไรก็ตาม ในรายการนี้ สมาคมฯ มีเป้าหมายที่จะคว้าโควตาไปโอลิมปิกให้ได้อีก 2 ที่นั่ง หลังจากได้สิทธิ์มาก่อนหน้านี้แล้ว 4 ที่นั่ง แยกเป็นชาย 2 ที่นั่ง และ หญิง 2 ที่นั่ง
สำหรับโควต้าของนักยกลูกเหล็กทีมชาติไทย ในเวลานี้ที่ได้มา 4 ที่นั่ง ในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ปารีส 2024 แยกเป็นชาย 2 ที่นั่ง รุ่น 61 กก. และ รุ่น 73 กก. ส่วนหญิง 2 ที่นั่ง รุ่น 49 กก. และ รุ่นมากกว่า 81 กก. ซึ่งจะมีการประกาศชื่ออย่างเป็นทางการ วันที่ 14 มิ.ย.67 โดยอีก 2 รุ่นที่มีโอกาสจะได้ไปปารีสเกมส์ จากรายการนี้ อยู่ที่รุ่น 102 กก.ชาย และ รุ่น 59 กก.หญิง
ในส่วนของหลักเกณฑ์การคิดคะแนนสะสมของสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ เพื่อเฟ้นหานักกีฬาไปโอลิมปิก ปารีส 2024 รอบสุดท้าย วันที่ 26 กรกฎาคม-11 สิงหาคม 2567 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส กำหนดให้จอมพลังทั่วโลก ต้องลงแข่งขันทั้งหมด 5 รายการ เป็นรายการบังคับ 2 รายการ ชิงแชมป์โลก 2023 ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย และ เวิลด์ คัพ 2024 ที่ประเทศไทย ที่เหลืออีก 3 รายการ เลือกได้จาก 5 รายการ คือ ชิงแชมป์โลก 2022 ที่ประเทศโคลอมเบีย, ชิงแชมป์เอเชีย 2023 ที่ประเทศเกาหลีใต้, กรังด์ปรีซ์ I 2023 ที่ประเทศคิวบา, กรังด์ปรีซ์ II 2024 ที่ประเทศกาตาร์ และ ชิงแชมป์เอเชีย 2024 ที่ประเทศอุซเบกิสถาน
อนึ่ง ในการแข่งขันครั้งนี้ ทีมไทยส่งนักกีฬายกน้ำหนักลงชิงชัยรวม 18 คน แบ่งเป็นนักกีฬาหญิง 9 คน ได้แก่ สิริวิมล ประมงคล รุ่น 45 กก., เขมิกา กำเนิดศรี รุ่น 45 กก., ธรรญธร สุขข์เจริญ รุ่น 49 กก., สุรจนา คำเบ้า รุ่น 49 กก., โป๊ยเซียน ยอดสาร รุ่น 55 กก., นางสาวปนัดดา แห่งนามโชติ รุ่น 55 กก., สุรัสวดี ยอดสาร รุ่น 59 กก., ภัทรธิดา วงษ์สิงห์ รุ่น 76 กก. และ ดวงอักษร ใจดี รุ่นมากกว่า 87 กก.
นักกีฬาชาย 9 คน ได้แก่ อส.ทพ.วิทูรย์ มิ่งมูล รุ่น 55 กก., อส.ทพ.ณัฐวัฒน์ ชมชื่น รุ่น 55 กก., ธีรพงศ์ ศิลาชัย รุ่น 61 กก., อส.ทพ.ธีรพัฒน์ ชมชื่น รุ่น 61 กก., อส.ทพ.ธีระวัตร รัตน์เพชร รุ่น 67 กก., ปัฐษพงษ์ ทองสุก รุ่น 67 กก., วีรพล วิชุมา รุ่น 73 กก., ศรัท สุ่มประดิษฐ รุ่น 102 กก. และ รุ่งสุริยา ปัญญะ รุ่นมากกว่า 109 กก.