ตลอดปี 2023 ต่อเนื่องมาจนถึงปี 2024 ชื่อของ "ทิพย์" อรวรรณ พาระนัง ถูกพูดถึงและกล่าวถึงในหน้าสื่อแพลตฟอร์มข่าวต่างๆอย่างต่อเนื่อง จากผลงานการแข่งขันที่ยอดเยี่ยมทั้งการลงทำหน้าที่เพื่อชาติ รวมไปถึงการลงเล่นเก็บคะแนนในทัวร์นาเมนต์ระดับอาชีพ
ผลงานชิ้นโบว์แดงหนีไม่พ้นการช่วยทีมลูกเด้งสาวไทย สร้างประวัติศาสตร์คว้าเหรียญทองแดงในกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่จีน นอกจากนี้ยังคว้า 2 เหรียญทองซีเกมส์ 2023 ในการแข่งขันที่กัมพูชา จากประเภทหญิงคู่และทีมหญิง
ส่วนผลงานส่วนตัวในการรับใช้ชาติก็นับว่ายอดเยี่ยมเช่นกัน เมื่อคว้าเหรียญทองแดงในการแข่งขัน กีฬามหาวิทยาลัยโลก ครั้งที่ 31 "เฉินตู2021" กลายเป็นนักกีฬาลูกเด้งไทยคนที่สอง ที่สร้างประวัติศาสตร์คว้าเหรียญรางวัลนี้ได้สำเร็จ ต่อจาก "แป๋ว" นันทนา คำวงศ์ ที่เคยได้เหรียญทองแดง เมื่อปี 2007 ซึ่งหนนั้นไทยเป็นเจ้าภาพ
ขณะที่ผลงานในการแข่งขันเก็บคะแนนสะสมโลก "ทิพย์" ที่ลงแข่งขันด้วยความมั่นใจก็ทำผลงานยอดเยี่ยม ผ่านเข้ารอบลึกๆอยู่หลายรายการ และยังจับคู่กับ "หญิง" สุธาสินี เสวตรบุตร ก้าวไปถึงตำแหน่งแชมป์หญิงคู่ในรายการ เก็บคะแนนสะสมโลก ดับเบิลยูทีที สตาร์ คอนเทนเดอร์ อันตัลยา 2023 ที่ประเทศตุรกี เมื่อปลายเดือนต.ค.
ล่าสุดกับการแข่งขันชิงแชมมป์โลก 2024 ประเภททีมหญิง ที่เมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ เจ้าตัวก็มีส่วนสำคัญในการพาทีมลูกเด้งสาวไทยผ่านเข้ามาถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย น่าเสียดายที่ต้องมาปะทะมือกับจีน ชาติเบอร์ 1 ของโลกในกีฬาชนิดนี้ จนมีอันต้องพ่ายแพ้ ยุติเส้นทางเอาไว้ที่รอบดังกล่าว
ทว่าจากผลงานที่ถือว่าทำได้ยอดเยี่ยมพอสมควรในศึกดังกล่าว ก็มีแนวโน้มสูงทีเดียว ที่ทีมหญิงของไทยจะได้ไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ รอบสุดท้าย เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ส่วนจะได้ไปหรือไม่ได้ไปนั้น ต้องรอการประกาศยืนยันทางการจะมีในเดือนมี.ค.นี้
ผลงานในรอบ 1-2 ปีที่ผ่านมา อาจกล่าวได้ว่านี่คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดของ "ทิพย์" อรวรรณ พาระนัง จอมตบลูกเด้งสาวสู้ชีวิต วัดได้จากผลงานในสนามแข่งขัน รวมไปถึงอันดับโลกที่ขยับขึ้นมาสูงสุดในชีวิต จนรั้งอันดับที่ 37 ของโลก (ประกาศเมื่อ 27 ก.พ.2024)
อรวรรณ เปิดใจกับทีมข่าวกีฬาสยามและสยามสปอร์ตว่า ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา เป็นช่วงที่ดีที่สุดในการเล่นกีฬาเทเบิลเทนนิสของตนเอง ส่วนตัวมองว่าปัจจัยหลักๆที่ช่วยให้ผลงานกระเตื้องขึ้นมาเป็นเพราะประสบการณ์ที่สั่งสมมามีมากขึ้น บวกกับวิธีคิดที่รู้สึกได้ชัดเจนว่านิ่งและโตขึ้น ทำให้ตนเองรู้สึกว่าเมื่อลงไปแข่งขันในสนามแล้วต้องทำอย่างไร ถึงจะดึงศักยภาพของตัวเองออกมาให้ได้มากที่สุด เพื่อเอาชนะคู่แข่งขัน
"สำหรับหนู หนูรู้สึกว่าช่วงนี้ สามารถเล่นปิงปองด้วยความรู้สึกที่สนุกและมีความสุขกว่าในช่วงหลายๆปีที่ผ่านมาเลยค่ะ อาจเป็นเพราะวิธีคิดและมายเซ็ทของเราที่โตขึ้นด้วย เมื่อก่อนเวลาเจออะไร หรือเห็นอะไร ก็จะเก็บมาคิด จนกลายมาเป็นแรงกดดันและบั่นทอนตัวเอง แต่เวลานี้เหมือนเราเองปล่อยวางมากขึ้นกับเรื่องต่างๆ ไม่เก็บมาคิดให้เครียด และพยายามเข้าใจธรรมชาติของเกมกีฬามากขึ้น เข้าใจศักยภาพของตัวเองมากขึ้น มันเลยทำให้รู้สึกเหมือนว่า เวลาลงไปเล่นแล้วไม่กดดัน เล่นแล้วไม่เครียด ก็เลยทำให้สนุกและก็มีความสุขที่ได้แข่งค่ะ"
"คือพอมันเกิดความรู้สึกแบบนี้แล้ว มันก็ส่งผลให้ฟอร์มการเล่นของเราเองดีขึ้นเหมือนกันค่ะ หลายๆรายการทำได้ดี เรื่องนี้หนูเชื่อว่าน่าจะเป็นผลพวงมาจากเรื่องมายเซ็ทที่เปลี่ยนไป ซึ่งเอาจริงๆรูปแบบและวิธีการเล่นในช่วงที่ตัวเองผลงานดี ไม่ได้เปลี่ยนไปจากแต่ก่อนเท่าไหร่ ที่ปรับก็จะมีเรื่องความคิด ก็ดีใจมากๆค่ะ ที่พาตัวเองมาถึงจุดนี้ได้ มาถึงจุดที่ประสบความสำเร็จกับทีมชาติ สร้างความสุขให้กับคนไทย ได้ยิ้ม ได้ฉลองกับพี่ๆน้องๆในทีมปิงปองไทยกับชัยชนะที่ได้รับมา ซึ่งก็แน่นอนค่ะ ว่าหนูอยากจะสร้างโมเมนต์แบบนี้ให้เกิดขึ้นอีกในหลายๆทัวร์นาเมนต์"
"ผลงานศึกชิงแชมป์โลก 2024 ของทีมหญิงที่เข้าถึงรอบ 16 ทีม ก็การันตีกลายๆค่ะว่าเรามีโอกาสสูงที่จะสร้างประวัติศาสตร์ไปแข่งประเภททีมหญิงในโอลิมปิกเกมส์ที่ปารีส ซึ่งถ้าได้โควตาไปในประเภททีม ก็จะทำให้ในประเภทเดี่ยว ชาตินั้นๆจะได้สิทธิส่งนักกีฬาเข้าร่วม 2 คนด้วย ซึ่งจากอันดับโลกในตอนนี้ ก็น่าจะเป็นหนูกับพี่หญิง ที่จะได้ลงแข่งโอลิมปิกเกมส์ในประเภทหญิงเดี่ยวร่วมกันอีก 1 สมัย ต่อจากหนก่อนที่โตเกียว"
ในช่วงของการเปิดใจนั้น อรวรรณ ยังเผยอีกว่า ตนเองยังหวังที่จะควอลิฟายไปโอลิมปิกเกมส์ 2024 ในประเภทคู่ผสมด้วย ซึ่งตนเองจะจับคู่กับพี่บอล ภาคภูมิ สงวนสิน อีกหนึ่งประเภทด้วย ส่วนจะได้ไปหรือไม่ได้ไปนั้น ก็อยู่ที่ผลงานในแมตช์ควอลิฟายโอลิมปิก 2024 ประเภทคู่ผสม ระหว่างวันที่ 11-12 เม.ย.นี้ ที่สาธารณรัฐเช็ค
อรวรรณ เปิดใจต่อ ถึงเป้าหมายและความท้าทายของตัวเองอีกว่า ตนเองก็ตั้งเป้าไว้ว่าจะพยายามทำผลงานในการเก็บคะแนนโลกให้ดีที่สุด เพื่อเข้าไปอยู่ท็อป 20 ของโลกให้ได้ ส่วนรายการแข่งขันหลังจากนี้ มีแมตช์ไปแข่งขันศึกใหญ่ รายการ สิงคโปร์ สแมช 2024 ที่สิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 7-17 มี.ค.นี้
"ทิพย์" ยังทิ้งท้ายด้วยว่า เวลานี้วงการเทเบิลเทนนิสไทยค่อนข้างจะคึกคักและตื่นตัวไม่น้อย ซึ่งตนเองดีใจที่ได้เห็นภาพนักกีฬาทุกเพศทุกวัยลงสนามแข่งขันกันมากขึ้นในทัวร์นาเมนต์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของความเป็นเลิศ หรือการเล่นเพื่อออกกำลังกายก็ตาม ซึ่งสำหรับตนเอง หากวันหนึ่งที่เลิกเล่นปิงปองไป ก็มีความคิดที่จะทำสโมสรเทเบิลเทนนิสเป็นของตัวเองเหมือน กัน หรืออาจใช้ความรู้ความสามารถและประสบการณ์ของตัวเองมาถ่ายทอดให้กับน้องๆรุ่นหลัง และพัฒนาวงการลูกเด้งไทยต่อไป