นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เผยนโยบายในส่วนของวงการกีฬาไทย ในปี 2024 หวังได้จัดกีฬาใหญ่ระดับโลก เพื่อพัฒนากีฬาในประเทศไทยไปทุกๆมิติ ไม่ว่าจะเป็นด้านสังคม เยาวชน และต่อยอดผลักดันไปเป็นนักกีฬาอาชีพได้ในอนาคต ผนึกกำลัง กกท. พานักกีฬาไทยไปโอลิมปิคเกมส์มากขึ้น
นางสาวสุดาวรรณ เผยว่า "เราจะมีการพัฒนาหลายมิติทั้งด้านสังคมและเยาวชน รวมถึงการผลักดันให้ประชาชนออกกำลังกายกันมากขึ้น เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงไม่มีการเจ็บป่วย และให้เยาวชนได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์หรือต่อยอดไปเป็นนักกีฬาอาชีพในอนาคต"
"ด้านการแข่งขันปีนี้จะมีอีเวนต์สำคัญ ทั้งการส่งนักกีฬาเข้าแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ รวมถึงการเป็นเจ้าภาพเอเชี่ยนอินดอร์และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์ ซึ่งยืนยันว่าจะจัดอย่างแน่นอนในเดือนพฤศจิกายนปีนี้และต่อยอดไปสู่การเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ 2025 ด้วย นอกจากนี้จะเน้นเรื่องวิทยาศาสตร์การกีฬาไปตั้งแต่เยาวชนจนถึงกีฬาอาชีพ"
ด้านดร.ก้องศักด ผู้ว่า กกท. กล่าวเสริมในส่วนของกีฬาว่า "ไฮไลท์สำคัญตอนนี้คือการควอลิฟายเข้าแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ได้มีการแยกกีฬาที่เป็นความหวังออกมา มีนักกีฬาคว้าตั๋วเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ บางกีฬาก็เป็นกีฬาใหม่ ซึ่งหลังจากได้ตั๋วมาแล้วจะสนับสนุนให้มีการเก็บตัวต่อเนื่อง บางชนิดกีฬาจะให้ไปเก็บตัวต่างประเทศ มีการดูศูนย์ฝึกในฝรั่งเศสและยุโรป เพื่อให้ไปปรับสภาพร่างกายและคุ้นเคยกับบรรยากาศต่างๆ"
ในส่วนของการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพการแข่งขันวอลเลย์บอลเนชั่นส์ลีก รอบชิงชนะเลิศ นั้น ดร.ก้องศักด กล่าวว่า"ท่านรัฐมนตรีเอง มีนโยบายชัดเจนว่าต้องการให้ไทยเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาระดับโลก รัฐบาลมองว่าการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศนั้นจะเป็นประโยชน์ทั้งการพัฒนาและกระตุ้นเรื่องการท่องเที่ยวด้วย จึงได้ให้ทางกกท.ประสานกับสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย ในส่วนของงบประมาณนั้นรัฐยินดีสนับสนุน แต่น่าจะต้องมีการคุยรายละเอียดต่างๆ ซึ่งมีประเทศอื่นๆ ด้วยที่ต้องการเป็นเจ้าภาพเช่นกัน แต่รัฐบาลยินดีสนับสนุนแน่นอน"
สุดท้าย การเตรียมตัวเป็นเจ้าภาพเอเชี่ยนอินดอร์และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์ ในเดือนพฤศจิกายนนั้น ดร.ก้องศักด กล่าวว่า "ตอนนี้ไม่มีปัญหาอะไร ในส่วนของงบประมาณก็อยู่ในช่วงของการของบก้อนสุดท้ายจากรัฐบาลอยู่แต่คิดว่าไม่มีปัญหาอะไร ล่าสุดมีการพบปะกับผู้บริหารของสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย (โอซีเอ) ในการทำงานร่วมกัน เป็นไปอย่างราบรื่น และสามารถดำเนินการทันเวลาแน่นอน"
"ขณะที่ซีเกมส์นั้นมีการประชุมกันเมื่อสัปดาห์ก่อน การเตรียมพร้อมจะสอดคล้องกับเอเชี่ยนอินดอร์ฯ เพราะส่วนใหญ่ใช้สนามเดียวกัน มีเพิ่มขึ้นมาแค่สงขลาเท่านั้น แต่จังหวัดสงขลาก็มีสนาม มีพื้นที่พร้อมรองรับการแข่งขันอยู่แล้ว" ดร.ก้องศักด กล่าวปิดท้าย