ผศ.ดร.รัฐพงศ์ บุญญานุวัตร ผู้อำนวยการศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสครบรอบการสถาปนาปีที่ 58 ของการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.)ในวันที่ 17 ต.ค. 2565 นั้น เพื่อเป็นการสะท้อนมุมมองและสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนและผู้เกี่ยวข้องในวงการกีฬาเคบียู สปอร์ต โพล (KBU SPORT POLL)
โดยศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ ม.เกษมบัณฑิต จึงสำรวจคิดเห็นเรื่อง "58 ปี กกท.กับมิติการพัฒนากีฬาชาติ" การสำรวจดังกล่าวดำเนินการผ่านระบบออนไลน์ระหว่างวันที่ 11-14 ต.ค.65โดยกลุ่มตัวอย่างเป็นประชาชนทั่วไปและผู้เกี่ยวข้องในวงการกีฬาซึ่งมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปจำนวน 1,273 คนโดยแบ่งเป็นเพศชาย 704 คน คิดเป็นร้อยละ 55.30 เพศหญิง 569 คน คิดเป็นร้อยละ 44.70 ซึ่งผลการวิเคราะห์ในมิติต่างๆโดยภาพรวมพบว่า
ในด้านการติดตามผลงานและกิจกรรมต่างๆของการกีฬาแห่งประเทศไทย กลุ่มอย่างส่วนใหญ่ร้อยละ 33.05 ติดตามอย่างต่อเนื่อง รองลงมาร้อยละ 31.19 ติดตามเป็นครั้งคราว, ร้อยละ 25.07 ไม่แน่นอนแล้วแต่โอกาส และร้อยละ 10.69 ไม่ได้ติดตาม
ส่วนความพึงพอใจที่มีต่อการบริหารจัดการของผู้นำองค์กร ส่วนใหญ่ร้อยละ 30.25 พึงพอใจในระดับมาก รองลงมาร้อยละ 28.30 พึงพอใจในระดับปานกลาง, ร้อยละ 25.71 พึงพอใจในระดับมากที่สุด, ร้อยละ 11.00 พึงพอใจในระดับน้อย และร้อยละ 4.74 พึงพอใจในระดับน้อยที่สุด
ขณะที่ผลงานและมิติที่เข้าตาประชาชน ส่วนใหญ่ร้อยละ 27.05 คือการขับเคลื่อนแผนพัฒนากีฬาและนโยบายรัฐบาลสู่การปฏิบัติ รองลงมา ร้อยละ 25.03 การสนับสนุนเตรียมการนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันในระดับนานาชาติ, ร้อยละ 17.86 การพัฒนาและยกระดับการบริหารจัดการองค์กรสู่การเปลี่ยนแปลง, ร้อยละ 15.88 การสนับสนุนการใช้กีฬาเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและสังคม, ร้อยละ10.09 การสร้างขวัญกำลังใจและสวัสดิการแก่นักกีฬา/บุคลากรทางการกีฬา และอื่นๆร้อยละ 4.09
ด้านความคาดหวังที่มีต่อการพัฒนาการกีฬาของประเทศ ส่วนใหญ่ ร้อยละ 31.83 พัฒนาและยกระดับกีฬาของประเทศสู่มาตรฐานสากล รองลงมา ร้อยละ 29.01 กระจายโอกาสการจัดการแข่งขันมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติสู่ภูมิภาค, ร้อยละ14.35 ขับเคลื่อนนโยบายและแผนยุทธศาสตร์สู่การปฏิบัติ, ร้อยละ 13.19 พัฒนาศูนย์ฝึกกีฬาทั้งในส่วนกลางและภูมิภาคสู่มาตรฐานสากล, ร้อยละ 7.66 ลดขั้นตอนและอำนวยความสะดวกการเบิกจ่ายงบประมาณสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ และอื่นๆร้อยละ 3.96
ผศ.ดร.รัฐพงศ์ บุญญานุวัตร เผยว่าจากผลการสำรวจดังกล่าวอาจจะเป็นเพราะว่าการกีฬาแห่งประเทศไทยในฐานะองค์กรภาครัฐที่มีบทบาทสำคัญสำหรับการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาการกีฬาของประเทศภายใต้มิติที่หลากหลายประกอบกับปัจจุบันสังคมตื่นตัวในการนำกีฬามาเป็นหนึ่งในวิถีชีวิตและร่วมขับเคลื่อนการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและสังคม กลุ่มตัวอย่างจึงให้ความสนใจที่จะติดตามผลงานและกิจกรรมของกกท. อย่างต่อเนื่อง และที่น่าสนใจเมื่อส่องเข้าไปดูในมิติที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการของผู้นำองค์กรพบว่าส่วนใหญ่พึงพอใจในระดับมากพร้อมกันนั้นเมื่อพิจารณาถึงผลงานที่เข้าตาผู้ตอบแบบสอบถามจะยกให้การขับเคลื่อนแผนพัฒนาและนโยบายรัฐบาลสู่การปฏิบัติตลอดจนคาดหวังให้มีการพัฒนาและยกระดับการกีฬาของประเทศก้าวสู่มาตรฐานสากล
ตามผลการสำรวจยังพบว่าในโอกาสที่กกท.จะก้าวสู่ปีที่ 59 กลุ่มตัวอย่างได้สะท้อนมุมมองหรือข้อเสนอแนะอื่นๆที่มีประโยชน์ต่อการบริหารจัดการของกกท.และขับเคลื่อนการกีฬาของชาติ อาทิ เร่งติดตามและดำเนินการนโยบาย /แผนงานที่ยังไม่แล้วเสร็จ/ปรับและปลดล็อคปัญหาที่เกี่ยวข้องกับกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ /จัดบริการกิจกรรมการเล่นกีฬาและออกกำลังกายผ่านหน่วยงานในสังกัดให้กับประชาชนทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง /จัดกระจายอุปกรณ์กีฬาและผู้ฝึกสอนให้กับพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ/สร้างการมีส่วนร่วมของภาคเอกชนและภาคประชาชน / เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงการใช้บริการสถานที่และศูนย์ฝึกกีฬา และสนับสนุนงบประมาณให้กับสมาคมกีฬาฯอย่างเพียงพอ ฯลฯ ผศ.ดร.รัฐพงศ์ กล่าว