"จันทกานต์" ลูกพี่ลูกน้อง "ลิซ่า BLACKPINK" เข้าชิงคิกบ็อกซิ่งประเทศไทย

ไฮไลต์อยู่ที่ประเภททาทามิ สปอร์ต ประเภทไลต์คอนแทค รุ่นประชาชน 19-40 ปี  น้ำหนัก 50 กก.หญิง "น้องปุ้ม" จันทกานต์ มโนบาล หรือ พญาหงส์ อโยธยาไฟท์ยิม นักชกสาวจากบุรีรัมย์ ลูกพี่ลูกน้องของ "ลิซ่า BLACKPINK" ที่เคยสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักชกหญิงไทยคนแรก คว้าแชมป์เค-วัน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ เมื่อปี 2022 เข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ด้วยฟอร์มอันร้อนแรงเอาชนะ พุทธิธาดา เล้าหงี ผ่านเข้าชิงชนะเลิศพบ อมรรัตน์ วงศ์ปิยมารัตน์ ที่ชนะ ชนาภรณ์ แก้วเงิน อีกทั้งในประเภทคิกไลต์ น้ำหนัก 50 กก.หญิง จันทกานต์ ยังเอาชนะบาย ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศกับ ปวีณา พละกาล ที่ชนะ อมรรัตน์ วงศ์ปิยมารัตน์

ส่วน ทาทามิ สปอร์ต รุ่นอื่นๆ ประเภทไลต์คอนแทค รุ่นประชาชน 19-40 ปี น้ำหนัก 57 กก.ชาย วุฒิกร กุลวงศ์ แพ้ วิเชียร ศรีแพงพงษ์ อีกคู่ ธงชัย หัวนาค ชนะ นาคพัฒน์ นาคพล, น้ำหนัก 63 กก.ชาย ธนภัทร ติธรรม แพ้ ธนภูมิ ชูตระกูล อีกคู่ สิรภพ ชัยพัฒน์ แพ้ รชต มัสกุล, น้ำหนัก 69 กก.ชาย ดาฮาลัน เปาะดิงซามู ชนะ วันชัย ชัยชาญ อีกคู่ อนุภาคย์ เพ็ชรพูล ชนะบาย, น้ำหนัก 74 กก.ชาย โรเซ่ ณัฐพงศ์ ไลท์ ชนะบาย อีกคู่ ภูมินทร์ สวัสดิ์ไทร ชนะ ชนาธิป บัวสุวรรณ, น้ำหนัก 79 กก.ชาย นพดล พรหมเผ่า ชนะบาย

ไลต์คอนแทค รุ่นเยาวชน 16 ปี น้ำหนัก 57 กก.ชาย ภาคิไนย บุญเจริญ ชนะ รณกร ธฤตภัทราสร อีกคู่ ณัฐวุฒิ ขุนพรหม ชนะ ธนกร ธุระทำ, น้ำหนัก 69 กก. ชาย  กฤตยชญ์ พร้อมปัจจุ ชนะ เอสรา เทพพิทักษ์ ส่วน ศิริชัย แก้วมา ชนะ ธีรศักดิ์ ยี่แปง, รุ่น 18 ปี น้ำหนัก 63 กก.ชาย คุณานนต์ ตรีทรงเกียรติ์ ชนะ ศิธา ดาลัดวงศ์ และ จารุเกียรติ มหาเมฆ แพ้ ธรนนท์ สุทธิสาคร

ส่วนประเภท พอยต์ไฟติ้ง รุ่นประชาชน 19-40 ปี น้ำหนัก 74 กก.ชาย ทัศไนย นนทะใส ชนะ ภูมินทร์ สวัสดิ์ไทร, น้ำหนัก 63 กก.ชาย นราธร ชลวานิช ชนะ ธนะภูมิ ชูตระกูล, รุ่นเยาวชน 17-18 ปี น้ำหนัก 63 กก.ชาย ธรนนท์ สุทธิสาคร ชนะบาย

ขณะที่ ประเภท คิกไลต์ รุ่นประชาชน 19-40 ปี น้ำหนัก 63 กก.ชาย กิตติ มาแหลง ชนะ รชต มัสกุล อีกคู่ เบนจาแม็ง นักรบ แปริเยร์ ชนะ สิรภพ ชัยพัฒน์, น้ำหนัก 57 กก.ชาย ธงชัย หัวนาค ชนะ ศุภกร จันราช อีกคู่ วิเชียร ศรีแพงพงษ์ ชนะ ธีร์ อเล็กซ์ จิวะพงษ์, น้ำหนัก 55 กก.หญิง กนกวรรณ วิรุฬพัฒน์ ชนะบาย

ส่วนการแข่งขัน ริง สปอร์ต ประเภท ฟูล คอนแทค รุ่นประชาชน 19-40 ปี น้ำหนัก 67 กก. ชาย สุริยัน บุสดี จาก Thailand National University Chaiyaphum Campus ยังคงโชว์ฟอร์มได้ร้อนแรง เอาชนะ ธนากร กุมรัมย์ จาก WildCard Gym ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศกับ พรชัย มั่นพลอย ที่ชนะ เอกชัย ประพันธ์

สำหรับการแข่งขันกีฬาคิกบ็อกซิ่งชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี 2566 ซึ่งจัดขึ้นที่อาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ ปทุมวัน กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 21-23 ธันวาคม 2566 แบ่งออกเป็น 2 รุ่นอายุ ได้แก่ รุ่นเยาวชนอายุ 16-18 ปี (เกิดระหว่าง พ.ศ.2548-2550) และรุ่นประชาชนอายุ 19-40 ปี (เกิดระหว่าง พ.ศ.2526-2547) ทั้งนี้จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทการแข่งขันหลัก คือ 1.ประเภทริง สปอร์ต (โลว์คิก, ฟูลคอนแทค, เควัน) และ 2.ประเภททาทามิ สปอร์ต (พอยต์ไฟติ้ง, ไลต์คอนแทค, คิกไลต์)  โดยมีนักกีฬาคิกบ็อกซิ่งจากทั่วประเทศจำนวน 279 คน จากทั้งหมด 71 สโมสรเข้าร่วมการชิงชัย ซึ่งจะเป็นการสรรหาคัดเลือกนักกีฬาหน้าใหม่ติดทีมชาติไทยไปลุยศึกใหญ่ระดับนานาชาติ อย่างมหกรรมกีฬาเอเชียนอินดอร์และมาร์เชียลอาร์ตสเกมส์ ครั้งที่ 6 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ รวมทั้งรายการนานาชาติอื่นๆ ทั้งคิกบ็อกซิ่งชิงแชมป์เอเชีย, คิกบ็อกซิ่งชิงแชมป์โลก, ซีเกมส์, เวิลด์เกมส์, เวิลด์คอมแบทเกมส์ ฯลฯ อีกทั้งเป็นการเผยแพร่กีฬาชนิดนี้ให้เป็นที่สนใจ และเป็นที่ยอมรับในวงกว้างต่อไป