เส้นทางชีวิตของสาวสวยอดีตราชินียิมนาสติกลีลาประเทศไทย ต้องบอกว่าไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะตั้งแต่เด็กจนโตผ่านการฝึกซ้อม-ฝึกฝนมาอย่างหนัก ชีวิตในวัยเด็กสุดทรหด ต้องเดินทางไป-กลับ อุบลราชธานี บ้านเกิด มายังกรุงเทพฯ เพื่อซ้อมยิมนาสติก เพราะสมัยนั้นที่อุบลฯไม่มีโรงเรียนสอนยิมนาสติก

สุดท้ายแรงสนับสนุนที่เป็นพลังบวกจากครอบครัว รวมถึงคนรอบข้าง ผลักดันให้ "เบญจพร" ก้าวไปถึงฝั่งฝัน ประสบความสำเร็จทั้งในแมตช์ระดับประเทศไทยและนานาชาติ โดยเฉพาะการคว้าเหรียญทองการประวัติศาสตร์ในกีฬาซีเกมส์

น่าเสียดายที่อาการบาดเจ็บ ทำให้ เบญจพร ต้องตัดสินใจอำลาทีมชาติและเลิกเล่นยิมนาสติกไป อย่างไรก็ตามเจ้าตัวยังคงใช้ความรู้ความสามารถที่มีเติมเต็มความฝันให้กับตัวเอง เด็กๆและเยาวชนรุ่นใหม่ ด้วยการสอนยิมนาสติก ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนเองรักและชื่นชอบอยู่

- อัพเดทชีวิตหน่อย หลังเลิกเล่นยิมนาสติก ตอนนี้ทำอะไรอยู่บ้าง ?

"ตอนนี้เป็นครูสอนที่โรงเรียนฮั่วเฉียวอุบลราชธานี 2 คาบ PE (พละ) เด็กอนุบาล 1-3 แล้วก็เปิดสตูดิโอ สอนยิมนาสติกของตัวเองด้วยค่ะ ชื่อว่า L Studio อยู่ในจังหวัดอุบลราชธานีเลยค่ะ"

- ช่วยเล่าถึงที่มาของการเปิดยิม L Studio หน่อย เป็นความตั่งใจ หรือความฝันของตัวเองเลยไหม ?

"เรียกว่าเป็นเหมือนปมเล็กๆในวัยเด็กค่ะ เพราะสมัยนั้นเราไม่มีโอกาสได้ซ้อมทุกวันเหมือนเด็กๆในกทม. คือที่อุบลฯมันไม่มีที่เรียนค่ะ ทำให้ต้องนั่งรถไฟไปเรียนยิมที่กทม.ทุกเย็นวันศุกร์ เย็นวันอาทิตย์ก็จะต้องนั่งรถไฟกลับมาเรียนหนังสือ เป็นแบบนี้อยู่จนหนูจบ ป.6 มันเลยทำให้หนูอยากกลับมาเปิดสอนยิมนาสติกที่อุบลฯค่ะ หนูอยากเปิดโอกาสให้เด็กๆ ส่งต่อความรู้ความสามารถที่ตัวเองมีให้เด็กๆในต่างจังหวัดค่ะ"

- เห็นว่ามีสอนเด็กๆด้วย แล้วมีคลาสเรียนอะไรบ้าง ?

"มีคลาสสอนยิมนาสติก กับ บัลเล่ต์ค่ะ"

- เด็กๆที่มาเรียนเป็นอย่างไรบ้าง ดื้อ ซน ไหม มีตั้งแต่อายุเท่าไหร่ ?

"ซนตามประสาเด็กเลยค่ะ 555 แต่เด็กๆน่ารักค่ะ อายุตอนนี้จิ๋วสุดน่าจะเป็น 2-3 ขวบค่ะ"

- ยากง่ายแค่ไหน กับบทบาทการสอน ?

"ยากกว่าเล่นเองเยอะเลยค่ะ เพราะเด็กๆแต่ละคนต่างก็มีคาแรคเตอร์เป็นของตัวเองค่ะ การสอนเด็กแต่ละคนก็ต่างกัน บางคนอธิบายแล้วเข้าใจ บางคนต้องทำให้ดูถึงจะเข้าใจ มันทำให้หนูเข้าใจโค้ชเลยว่า กว่าจะสร้างเด็กคนนึงให้ประสบความสำเร็จมันต้องใช้ความเข้าใจและความอดทนมากแค่ไหน"

- เป้าหมายในการสอน มีทั้งเพื่อความเป็นเลิศ และส่งเสริมการออกกำลังกายใช่ไหม ?  

"จริงๆก็ควบคู่กันไปเลยค่ะ เด็กๆคนไหนมีแววก็ส่งเสริมเต็มที่ค่ะ"

- ช่วยเล่าย้อนกลับไปถึงสมัยเป็นนักกีฬาหน่อย สุข สนุก มากน้อยแค่ไหน ? 

"ตอนนั้นเหนื่อยมากนะคะ แต่ด้วยความที่เรารักในกีฬานี้เลยไม่ได้รู้สึกว่ามันหนักเกินกำลังของเราเลยค่ะ ตอนนี้เลิกมาจะสองปีได้แล้ว ก็ยังคิดถึงสนามซ้อม คิดถึงสนามแข่ง แต่ที่คิดถึงมากที่สุดก็คงจะเป็นโค้ชนาตาชา ค่ะ เพราะซ้อมกับเขามาตั้ง 12 ปี ค่ะ"

-มีคติหรือปรัชญาการใช้ชีวิตอย่างไร

"ความพยายามไม่เคยทรยศใคร โค้ชพูดกับหนูตลอดว่าพยายามไปเถอะ ถ้าไม่สำเร็จวันนี้วันหน้าก็สำเร็จ"

- ตอนเป็นนักกีฬาเคยท้อใจ ท้อแท้เรื่องอะไรบ้าง ?

"ท้อบ่อยเลยค่ะ ที่หนักๆน่าจะเป็นเรื่องอาการบาดเจ็บ เพราะมันเป็นอุปสรรคกับทั้งการซ้อมและการแข่ง มันทำให้หนูซ้อมได้ไม่เต็มที่ พอซ้อมได้ไม่เต็มที่เวลาแข่งมันก็ดรอปลงมาเยอะเลยค่ะ"

- แมตช์ประทับใจในฐานะตัวแทนทีมชาติไทย ?

"ภูมิใจแมตช์ซีเกมส์ ปี 2019 ที่สุดค่ะ เพราะเป็นการแข่งขันซีเกมส์ครั้งแรกของหนู หนูตั้งเป้าหมายไว้ว่าอยากคว้าเหรียญทองมาให้ได้ พอทำได้แล้วมันเลยรู้สึกปลดล็อคอะไรหลายๆอย่างในชีวิตนักกีฬาเลยค่ะ"

- ครอบครัวว่าอย่างไรบ้าง ให้กำลังใจเราอย่างไรบ้าง ?

"ปกติแล้วทางครอบครัวหนูคือจะคอยให้กำลังใจอยู่ห่างๆเลยค่ะ จะไม่เข้ามาวุ่นวายกับแต่ละหน้าที่ของเราเหมือนให้เราเผชิญกับเรื่องราวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาหรืออะไร เขาจะปล่อยให้ลองแก้ไขเองก่อน ถ้าไม่ได้จริงๆค่อยแนะนำแนวทางให้ค่ะ จะไม่เก็ข้ามาชี้นำหรือทำให้เลย เพราะไม่งั้น ถ้าวันนึงไม่มีเขาเราจะไม่สามารถทำอะไรเองได้เลย บ้านหนูก็เลยจะเป็นการซัพพอร์ตแบบดูอยู่ห่างๆมากกว่าค่ะ"

- มองว่าการยิมนาสติกไทยในเวลานี้อย่างไรบ้าง ?

"หนูว่าในประเทศไทยตอนนี้กีฬายิมนาสติกคนยังไม่ค่อยเข้าถึงกีฬานี้สักเท่าไหร่ คนรู้จักน้อย คนเล่นน้อย แล้วกว่าจะมีคนผ่านเข้ามาถึงทีมชาติก็น้อย ยิ่งยิมนาสติกลีลายิ่งน้อยเลยค่ะ หนูเลยหยิบประเด็นนี้มาทำวิจัย ป.โท ด้วย อยากให้คนหันมาสนใจในกีฬายิมนาสติกมากขึ้น และเข้าถึงกีฬายิมนาสติกให้มากกว่านี้ ถ้าคนรู้จักกีฬาเรามากขึ้นก็จะทำให้มีคนเล่นมากขึ้นด้วย เพราะจริงๆแล้วกีฬายิมนาสติกมันเป็นพื้นฐานของทุกชนิดกีฬาเลยค่ะ"

- ยังมีความคิดทีอยากจะกลับมาทำงานช่วยทีมชาติอีกไหมในบทบาทอื่นๆอีกไหม ?

"ตอนนี้เปิดสอนยิมนาสติกที่จ.อุบลราชธานี L Studio จริงๆช่วยงานทีมชาติตอนนี้ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่สำหรับหนูมากๆเลยค่ะ เป้าหมายหลักๆตอนนี้ก็อยากพัฒนาศักยภาพเด็กๆภายในจังหวัดตัวเองก่อนค่ะ แต่ถ้าเขามีความฝันอยากติดธง เราก็ส่งเสริมเต็มที่ค่ะ ยังไงหนูขอฝาก L Studio สถาบันสอนยิมนาสติกในจังหวัดอุบลราชธานีด้วยนะคะ"

ประวัติส่วนตัว 

ชื่อ : เบญจพร ลิ้มพานิชย์

ชื่อเล่น : ปิ่น

วันเกิด : 28 มี.ค.1999

ภูมิลำเนา : อุบลราชธานี

ส่วนสูง : 165 ซม. 

น้ำหนัก : 49 กก.

ผลงานโดดเด่นสมัยเป็นนักกีฬา : เหรียญทองซีเกมส์ ปี 2019 ที่ประเทศฟิลิปินส์ ประเภทอุปกรณ์คฑา, แชมป์ประเทศไทย 

งานอดิเรก : อยู่บ้านกับหมา หมานี่ฮีลใจสุดๆเลย 

เกี่ยวกับตัวเอง : เป็นคนง่ายๆชิลๆ แต่จะชอบทำทุกอย่างตามหน้าที่ให้ดีที่สุด ถึงเวลาพักก็จะพัก นอนอยู่บ้านได้ทั้งวัน