ทัพไทยเก็บเพิ่ม1 ทองแดง! "ศิริพร" ซิวเหรียญโมเดลศึกเพาะกายโลก

การแข่งขันกีฬาเพาะกายและฟิตเนสชิงแชมป์โลก ครั้งที่ 14 ที่ เมืองคังวอน  ประเทศเกาหลีใต้ เป็นวันที่สองของการแข่งขัน ปรากฎว่า ไทยเก็บเพิ่มได้อีก 1 ทองแดงจาก ครูแต-ศิริพร ศรช่วย ซึ่งทำได้จากในประเภทโมเดลฟิสิคหญิงรุ่นความสูงไม่เกิน 155 ซม. โดยเหรียญทองเป็นของ บูยันกิสชิง บีบัมบาจาฟ จากมองโกเลีย และเหรียยเงินเป็นของ คง อัน หลัน (ไชนิส มาเก๊า)

"ครูแต" ศิริพร ศรช่วย ยังลงแข่งอีก 3 ประเภท โดย ประเภทชุดว่ายน้ำหญิงวันพีช รุ่นความสูงไม่เกิน 165 ซม. ศิริพร ศรช่วย ได้อันดับ 4 เหรียญทองเป็นของ ทู เชท หยัน (ไชนิส ฮ่องกง) เงิน อาเดนชิเม็ก เทสเรนคัม (มองโกเลีย) ทองแดง โอ ดา ซอม (เกาหลีใต้) และประเภทโมเดลฟิสิกหญิง รุ่นอายุเกิน 35 ปี ได้อันดับที่ 4 นอกจากนี้ ศิริพร  ศรช่วย จับคู่กับ วันชัย กาญจนพิมาย ลงแข่งขันประเภทคู่ผสม รุ่นทั่วไป ได้อันดับที่ 4

ส่วนผลการแข่งขันอื่นๆของนักกีฬาไทยมีดังนี้ ประเภทชุดว่ายน้ำหญิงวันพีช รุ่นความสูงเกิน 165 ซม. อาจารี แท่นทรัพย์ ได้อันดับ 5 เหรียญทองเป็นของ นูเฟล วิคตอเรีย ฟานนี่ (ฮังการี) เงิน อันดราค จากัลซาฮาน (มองโกเลีย) ทองแดง จิน อุน จู (เกาหลีใต้)

โมเดลฟิสิคหญิงรุ่นความสูงเกิน 160 ซม.  สายใจ สุสมแก้ว  ได้อันดับ 5 เหรียญทองเป็นของ มุคชิเม็ก บายามุน (มองโกเลีย) เงิน  ทู เชท หยัน (ไชนิส ฮ่องกง)  ทองอแดง มา ชท หยัน (ไชนิส ฮ่องกง)

โมเดลฟิสิคหญิงรุ่นความสูงไม่เกิน 165 ซม. จินตรามณฑ์ ทวีเมธีโชติ  ได้อันดับ 5 เหรียญทอง เป็นของ บัทโบล คิสชิซาย่า (มองโกเลีย) เงิน อาเดนชิเม็ก เทสเรนคัม (มองโกเลีย) ทองแดง มาเดส ยิน เค่ย มากี้ (ไชนิส ฮ่องกง)

สรุปผลงานของนักกีฬาเพาะกายและฟิตเนสทีมชาติไทยทั้งสองวันทำผลงานได้ 2 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน และ 2 เหรียญทองแดง จากการส่งนักกีฬาที่เข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ 6 คน

ด้านนายศุกรีย์ สุภาวรีกุล นายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย กล่าวว่า "ถึงแม้การส่งนักกีฬาเข้าร่วมรายการชิงแชมป์โลกครั้งนี้จะมีจำนวนนักกีฬาที่น้อยเพียง 6 คน แต่นักกีฬาทุกคนก็ได้แสดงความสามารถอย่างเต็มที่และมีผลงานติดมือกลับบ้านทุกคนทั้งนักกีฬารุ่นเก่าและนักกีฬารุ่นใหม่ โดยส่วนตัวแล้วต้องขอบคุณนักกีฬาทั้ง 6 คนที่ได้เสียสละและทุ่มเทความสามารถอย่างเต็มที่ เชื่อว่านักกีฬาเยาวชนรุ่นใหม่ๆ นี้จะเป็นกำลังสำคัญให้แก่วงการกีฬาเพาะกายและฟิตเนสของประเทศไทยต่อไปในอนาคตอย่างแน่นอน"