การแข่งขันกรีฑาในกีฬาเอเชียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 4 ที่สนามหวงหลง สปอร์ต เซนเตอร์ เมืองหางโจว ประเทศจีน เมื่อช่วงสายวันอังคาร ที่ 24 ต.ค. 66 เป็นการชิงชัยในวันที่สอง ไฮไลต์อยู่ที่รายการ วีลแชร์ 1,500 ม.ชาย คลาส ที 54 รอบชิงชนะเลิศ ซึ่งมี 3 นักซิ่งวีลแชร์ไทย ประกอบด้วย ประวัติ วะโฮรัมย์ ยอดนักวีลแชร์เรสซิ่งไทย ที่เพิ่งคว้าเหรียญทองรายการ 5,000 ม. มาครองได้แบบหมาดๆและมีดีกรีแชมป์เก่าในรายการนี้ พร้อมด้วย ภูธเรศ คงรักษ์ และ สายชล คนเจน ลงล่าเหรียญทอง 

ผลการชิงชัยปรากฎว่า  ประวัติ วะโฮรัมย์ ยังโชว์ฟอร์มได้สมราคาแชมป์เก่า ควบวีลแชร์คู่ใจทำผลงานเข้าเส้นชัยมาเป็นอันดับ 1 ด้วยเวลา 2.51.03 นาที พร้อมทำลายสถิติการแข่งขันของ เรวัต ต๋านะ อดีตทีมชาติไทย ที่เคยทำไว้ 3.06.52 นาที ในกีฬาเอเชียนพาราเกมส์ 2014 ลงได้แบบราบคาบ ป้องกันแชมป์พร้อมคว้าเหรียญทองที่ 2 ให้กับตนเองในรายการนี้ได้สำเร็จ ส่วนเหรียญเงิน เป็นของ ภูธเรศ คงรักษ์ ที่ซิ่งตามเข้ามาด้วยเวลา  2.51.08 นาที และเหรียญทองแดง ฮู หยาง จากจีน สถิติ 2.51.10 นาที ส่วน สายชล เคนเจน ซิ่งเข้ามาเป็นอันดับ 4 ด้วยสถิติ 2.51.28 นาที 

หลังคว้าเหรียญทอง ประวัติ วะโฮรัมย์ เปิดเผยว่า ต้องยอมรับว่าเกือบไม่รอดเหมือนกัน เนื่องจากนักกีฬาจีนบล็อกไว้หมด ทำให้ต้องไปวิ่งลู่นอกซึ่งทำให้เหนื่อยมา แต่ก็ดีใจที่ป้องกันแชมป์ไว้ได้อีกครั้ง ส่วนรายการต่อไปนั้นคงต้องรอดูว่าต้องลงในรายการ 800 เมตร ด้วยไหม สุดท้ายต้องขอบคุณแฟนกีฬาชาวไทย ที่เป็นกำลังใจให้กับพวกเรา แต่การแข่งขันอย่างเหลืออีกหลายรายการยังไงก็ให้ทุกคนช่วยเป็นกำลังใจให้พวกเราต้อไปด้วย

ขณะเดียวกันในรายการวิ่ง 400 ม. หญิง ที 20 รอบชิงชนะเลิศ อรวรรณ ไกรสิงห์ ลมกรดสาวพาราไทย ดีกรี 2 เหรียญทองอาเซียนพาราเกมส์ ก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม วิ่งเข้าเส้นชัยมาเป็นอันดับ 2 ด้วยเวลา 59.00 วินาที คว้าเหรียญเงินมาครอง ส่วนเหรียญทอง จีวานจิ ดีฟธี จากอินเดีย สถิติ 56.69 วินาที (ทำลายสถิติการแข่งขัน) และ เหรียญทองแดง นิอินะ คันโนะ จากญี่ปุ่น สถิติ 59.37 วินาที

นอกจากนี้ทีมกรีฑาพาราไทย ยังสามารถคว้าเหรียญรางวัลมาครองได้อีก 2 เหรียญทองแดงจาก รายการ วิ่ง 100 ม.หญิง คลาส ที 11 รอบชิงชนะเลิศ ซึ่งมี สุนีย์ภรณ์ ถนอมวงค์ ลมกรดสาวพาราไทย ควงไกด์รันเนอร์คู่ใจโชว์ฟอร์มควบฝีเท้าเข้าเส้นชัยมาเป็นอันดับ 3 ด้วยเวลา 13.07 วินาที คว้าเหรียญทองแดงมาครอง และ วิ่ง 400 ม. ชาย ที 64 จะฟะ แซ่ปล่า ที่ควบฝีเท้าเข้าเส้นชัยมาเป็นอันดับ 3 ด้วยเวลา 55.09 วินาที คว้าเหรียญทองแดงมาครองได้สำเร็จ