วูซูไทย ร้องกกท.ให้ช่วยบรรจุแข่ง กีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 39 ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 21-31 มี.ค. 2567 ที่จ.ราชบุรี ชี้หากไม่มีการแข่งขันหวั่นกระทบในการสร้างนักกีฬาเพื่อเข้าแข่งขันในอนาคตต่อไป
นายวิเชียร พลสุวรรณ ผู้ประสานงานสมาคมกีฬาวูซูแห่งประเทศไทย ในฐานะตัวแทนจากชมรมวูซูจากจังหวัดต่างๆ พร้อมด้วยตัวแทนเจ้าหน้าที่ และตัวแทนนักกีฬาจากจังหวัดต่างๆ ร่วมกันนำเอกสารเข้ายื่นต่อผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ที่ตึกกกท. เมื่อ 21 ก.ค.66 โดยมี นายประชุม บุญเทียม รองผู้ว่าการกกท. ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาตร์การกีฬา เป็นตัวแทนรับมอบ เพื่อร้องขอความอนุเคราะห์ให้ช่วยพิจารณา หลัง จ.ราชบุรี เจ้าภาพกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 39 ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 21-31 มี.ค. 2567 บรรจุเป็นชนิดกีฬาชิงชัย หลังการประกาศชนิดกีฬาที่ในมหกรรมดังกล่าวออกมา 43 ชนิดกีฬา กับ 3 กีฬาสาธิต ไม่มีกีฬาวูซู หนึ่งในกีฬาที่มีบรรจุแข่งขันในมหกรรมระดับชาติ ทั้งกีฬาแห่งชาติ และกีฬาเยาวชนแห่งชาติมาตลอด
นายวิเชียร พลสุวรรณ ในฐานะผู้ประสานงานสมาคมกีฬาวูซูแห่งประเทศไทย เผยว่า จากการประกาศชนิดกีฬาที่จะแข่งขันเมื่อต้นเดือนก.ค.ที่่ผ่านมานั้น ไม่มีกีฬาวูซูอยู่ในข่ายกีฬาชิงเหรียญทอง ทุกฝ่าย ทุกชมรมที่เกี่ยวข้องไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะเล็งเห็นว่าจะส่งผลกระทบกับการพัฒนานักกีฬาและวงการกีฬาวูซูของประเทศไทยโดยเฉพาะในระดับฐานราก ซึ่งอาจทำให้การสร้างนักกีฬาเพื่อต่อยอดไปสู่ความเป็นเลิศในการแข่งขันระดับนานาชาติ ทั้งซีเกมส์, เอเชียนเกมส์, ชิงแชมป์เอเชีย หรือชิงแชมป์โลก ขาดตอน จึงเป็นที่มาของการเดินทางมาส่งเอกสารขอกกท.พิจารณาและประสานงานกับทางฝ่ายจัดแข่งขันฯ จ.ราชบุรี อีกครั้ง ก่อนมีการประกาศชนิดกีฬาเพิ่มเติมในช่วงโค้งสุดท้าย
"สำหรับกีฬาวูซูนั้น ในช่วงหลายปีหลังมีจัดแข่งขันในระดับชาติมาตลอด ทั้งกีฬาแห่งชาติ และกีฬาเยาวชนแห่งชาติ กลุ่มนักกีฬาและฐานการเล่นในไทยก็ถือว่ามีแพร่หลาย เล่นกับเกือบ 30 จังหวัดแล้ว จึงอยากขอความอนุเคราะห์จากทางกกท. และทางฝ่ายจัดแข่งขัน จ.ราชบุรี ในฐานะเจ้าภาพการแข่งขันช่วยสนับสนุน บรรจุแข่งขัน เพื่อสนับสนุนวงการวูซูและนักกีฬาวูซูให้ได้มีเวทีในการแสดงความสามารถและพัฒนาศักยภาพของตัวเองต่อไป"
ด้าน ประชุม บุญเทียม รองผู้ว่าการกกท. เผยว่า หลังจากประกาศชนิดกีฬาที่แข่งขันรอบแรกไป มีบางสมาคมที่ส่งเรื่องไปยังเจ้าภาพ ในส่วนของที่กกท.ก็มีตัวแทนจากกีฬาวูซูเข้ามายื่้นเรื่องให้พิจารณา ซึ่งกรอบการพิจารณานั้น ก็จะยึดดูจากคุณสมบัติของกีฬานั้นๆ หลักๆจะระบุไว้ว่า ต้องมีจังหวัดเข้าร่วมไม่น้อยกว่า 6 จังหวัด และ 3 ภาค ซึ่งในส่วนนี้ กกท.จะมีการหารือกับเจ้าภาพอีกรอบในเร็วๆนี้ เพื่อพูดคุยถึงความพร้อม รวมถึงพิจารณาคุณสมบัติ ความพร้อม และความเหมาะสม เพื่อประกาศชนิดกีฬาเพิ่มเติมอีกหนึ่งรอบ จะดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพื่อให้ทันกับการคัดเลือกนักกีฬาในระดับจังหวัดของแต่ละกีฬานั้นๆ ซึ่งตามระเบียบระบุต้องคัดระดับจังหวัดให้เสร็จก่อนไม่น้อยกว่า 60 วัน ก่อนที่จะทำการคัดเลือกระดับภาค ซึ่งจะมีขึ้นในเดือนพ.ย.นี้