ยกเหล็กไทยได้โค้ชใหม่ทาบ"ประเสริฐ"อดีตเหรียญเงินเอเชียนเกมส์คุมทัพ

ยกเหล็กไทยได้โค้ชใหม่ทาบ"ประเสริฐ"อดีตเหรียญเงินเอเชียนเกมส์คุมทัพ
สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ดึงอดีตจอมพลังทีมชาติ ประเสริฐ สุ่มประดิษฐ์ อดีตทีมชาติไทย เหรียญเงินกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 11 มาร่วมทัพผู้ฝึกสอน เพื่อติวเข้มและเติมความแข็งแกร่งให้นักกีฬาชุดทำศึกเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 "บิ๊กปรัช" นายกสมาคมฯ มั่นใจในศักยภาพของโค้ชคนใหม่ นอกจากจะมีประสบการณ์แล้ว ยังมีระเบียบวินัยสูง

นายปรัชญา กีรตินันท์ นายกสมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ทางสมาคมฯ ได้ติดต่อให้พันเอกประเสริฐ สุ่มประดิษฐ์ อดีตนักกีฬายกน้ำหนักทีมชาติไทย มาร่วมเป็นหนึ่งในทีมผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ที่จังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากคณะกรรมการบริหารมีความเชื่อมั่นว่า พันเอก ประเสริฐ จะนำความรู้และประสบการณ์ จากการเป็นนักกีฬามาถ่ายทอดให้นักกีฬารุ่นใหม่ๆ ได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ได้เริ่มปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 15 ก.ค.66 เป็นต้นมา

"คณะกรรมการบริหารเห็นพ้องต้องกันว่าพันเอกประเสริฐ เป็นผู้มีความรู้ความสามารถที่จะพัฒนาฝีมือให้กับนักกีฬาได้เป็นอย่างดี รวมทั้งเรื่องระเบียบวินัยนักกีฬา เนื่องจากเป็นทหารน่าจะมีการนำมาปรับใช้ได้อย่างเหมาะสม  เบื้องต้นสมาคมฯได้ให้มอบหมายให้ดูแลนักกีฬาชายชุดเตรียมเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่เมืองหางโจว ประเทศจีนระหว่างวันที่ 23 ก.ย.- 8 ต.ค. 66 และเอเชี่ยนอินดอร์และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์ ครั้งที่ 6 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพในเดือนกุมภาพันธ์ 2567” นายกสมามกีฬายกน้ำหนักฯ กล่าว

ด้าน พันเอก ประเสริฐ สุ่มประดิษฐ์ กล่าวถึงการปฏิบัติหน้าที่ผู้ฝึกสอนในครั้งนี้ว่า รู้สึกดีใจที่จะได้นำประสบการณ์มาต่อยอดให้นักกีฬา และชื่นชมที่สมาคมฯ วางระบบตลอดจนการสร้างสถานที่เก็บตัวฝึกซ้อมได้อย่างมีมาตรฐาน ตนเองก็จะทุ่มเทความรู้และประสบการณ์ต่างๆให้กับนักกีฬาอย่างเต็มที่ให้สมกับที่ได้รับความไว้วางใจ

อนึ่ง พันเอกประเสริฐ เคยคว้าเหรียญเงินจากการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 11 ที่กรุงปักกิ่งประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อปี พ.ศ.2533 รวมถึงเหรียญรางวัลต่างๆ จากการแข่งขันกีฬาซีเกมส์หลายสมัย หลังจากหันหลังให้กับทีมชาติ ก็เข้ารับราชการทหารสังกัดกองพลรบพิเศษที่ 1 หน่วยบัญชาการส่งครามพิเศษ ปัจจุบันขอเกษียณอายุราชการก่อนกำหนด จึงมีเวลากลับมาทุ่มเทให้กับวงการยกน้ำหนักอย่างเต็มที่อีกครั้ง


ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport
X