ทัพบอคเซียไทย ทำผลงานการชิงเหรียญทองประเภทบุคคล คว้าเหรียญรางวัลมาได้ 5 ทอง 5 เงิน 2 ทองแดง ทาง "โค้ชแจ่ม" สัมฤทธิ์ คชศิลา หัวหน้าผู้ฝึกสอนกีฬาบอคเซียทีมชาติไทย เผยแม้จะพลาดเป้าไป 1 ทองจากครั้งที่แล้ว แต่ภาพรวมนักกีฬาทุกคนสู้ได้เต็มที่แล้ว
การแข่งขันบอคเซีย ในกีฬาคนพิการชิงแชมป์อาเซียน "อาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 12" ที่โอลิมปิก สเตเดียม กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา เป็นรอบชิงชนะเลิศของประเภทบุคคล โดยทัพบอคเซียไทยมีโอกาสได้ลุ้นเหรียญทองทั้งสิ้น 7 จาก 8 อีเวนต์ที่เปิดชิงชัย
ในประเภทบุคคลชาย คลาส บีซี1 ตัวแทนของไทยเป็น "บอย" วิษณุ ฮวดประดิษฐ์ บอคเซียหนุ่มใหญ่มากประสบการณ์ดีกรีเหรียญทองประเภททีมพาราลิมปิกเกมส์ 2 สมัย ปี 2012 และ 2020 และแชมป์เก่าอาเซียนพาราเกมส์ครั้งที่แล้ว ลงสนามพบ มูฮัมหมัด ซยาฟา นักโยนลูกนิ่มจากอินโดนีเซีย โดยผลการชิงชัยกลับเป็นนักกีฬาจากถิ่นอิเหนาที่ทำผลงานได้ดีกว่ามาก โยนทำแต้มใส่ วิษณุ ที่โชว์ฟอร์มไม่ออก ชนะไป 10-0 ส่งให้แชมป์เก่า วิษณุ โดนโค่น ได้เพียงเหรียญเงิน ส่วนเหรียญทองแดงเป็นของ "แซม" ทินกร เทพแดง
ส่วนประเภทบุคคลหญิง คลาส บีซี1 "ฝน" ศตนันท์ พรหมศิริ แชมป์เก่าอีกหนึ่งคนของไทย ลงสนามรอบชิงพบ ยี ติง ตาน จากสิงคโปร์ คู่นี้รูปเกมสุดสูสีก่อนจะเป็น ศตนันท์ ที่เฉือนเอาชนะไปได้ 3-1 คะแนน ป้องกันแชมป์สำเร็จพร้อมคว้าเหรียญทองแรกให้แก่ทัพบอคเซียไทยได้แล้ว
ถัดมาในประเภทบุคคลชาย คลาส บีซี2 ขุนพลบอคเซียไทยสามารถทะลุเข้ามาชิงกันเอง โดยเป็น "ต่อ" วัชรพล วงษา ดีกรีเหรียญทองพาราลิมปิกเกมส์ 3 สมัย 2012, 2016 และ 2020 โคจรมาพบกับรุ่นน้องร่วมทีมชาติ "เจมส์" วรวุฒิ แสงอำภา ดีกรีเหรียญทองพาราลิมปิกเกมส์ 2 สมัย 2016 และ 2020 ผลปรากฎว่าเป็นทางด้าน วรวุฒิ ที่โยนได้แม่นยำกว่าในวันนี้ เอาชนะรุ่นพี่ไป 6-2 คะแนน คว้าเหรียญทองที่ 2 ให้กับบอคเซียไทย ส่วน วัชรพล ได้เหรียญเงิน
จากนั้นในประเภทบุคคลชาย คลาส บีซี 3 ทำการชิงชัยในระบบพบกันหมด ใครทำผลงานดีที่สุดคว้าเหรียญทอง และเป็น "ตั้ม" อรรคเดช ชูชื่นกลิ่น บอคเซียหนุ่มไทยแชมป์เก่าที่ฟอร์มร้อนแรง เก็บชัยชนะรวด 4 คน เหนือนักกีฬาจากอินโดนีเซีย, มาเลเซีย และสิงคโปร์ 2 คน คว้าเหรียญทองไปครอง
ในประเภทบุคคลหญิง คลาส บีซี3 ชิงชัยในระบบพบกันหมดเช่นกันและเป็น "ปัท" ลดามณี กล้าหาญ กับ "อ้น" จุฑามาศ รัตนา สองสาวไทยที่ทำผลงานดีที่สุดได้เท่ากันคือ ชนะ 3 แพ้ 1 จากนักกีฬาทั้งหมด 5 คน แต่ แชมป์เก่า ลดามณี คว้าเหรียญทองจากผลแต้มได้-เสีย และเฮดทูเฮดที่ดีกว่า ส่วน จุฑามาศ ได้เหรียญเงิน
ถัดมาที่ประเภทบุคคลชาย คลาส บีซี4 สองหนุ่มไทยเข้าชิงกันเอง โดยเป็น "เปเล่" พรโชค ลาภเย็น ดีกรีเหรียญเงินพาราลิมปิกเกมส์ 2020 เอาชนะเพื่อนร่วมทีมชาติ "อู๋" ฤทธิไกร สมสนุก ไปขาด 13-0 คะแนน คว้าเหรียญทองที่ 5 ให้แก่ทัพบอคเซียไทย ส่วน ฤทธิไกร ได้เพียงเหรียญเงิน
ปิดท้ายที่ประเภทบุคคลหญิง คลาส บีซี4 "เฟรม" ชาลิสา เขียวจันทรา รองแชมป์เก่าคราวที่แล้วเข้าชิงกับ นัวร์ อัซคูไซมี ซาลิม จากมาเลเซีย ผลปรากฎว่าเป็นทางนักโยนลูกนิ่มสาวจากแดนเสือเหลืองที่แม่นยำกว่า เอาชนะ ชาลิสา ไป 6-1 ส่งให้ เฟรม ชาลิสา ได้เพียงเหรียญเงินอาเซียนพาราเกมส์ 2 สมัยติด ส่วนเหรียญทองแดงในประเภทนี้เป็นของ "นวล" นวลจันทร์ พลศิลา สรุปผลงานของทัพบอคเซียทีมชาติไทยหลังเสร็จการชิงเหรียญทองประเภทบุคคล คว้าเหรียญรางวัลมาได้ 5 ทอง 5 เงิน 2 ทองแดง
หลังการกวาดทองของทัพบอคเซียไทยในศึกอาเซียนพาราเกมส์ ที่ประเทศกัมพูชาล่าสุด "โค้ชแจ่ม" สัมฤทธิ์ คชศิลา หัวหน้าผู้ฝึกสอนกีฬาบอคเซียทีมชาติไทย เปิดเผยว่า แม้เราจะได้เหรียญทองจากประเภทบุคคลไม่เท่า 6 เหรียญทองคราวที่แล้ว แต่ภาพรวมแล้วอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ โดยเราขาดไป 1 ทองซึ่งมองว่ามีเรื่องของการตรวจคลาสของบางประเทศที่มองว่าน่าจะผิด ทำให้นักกีฬาเขาแข็งแรงกว่าเรา แต่เราเองก็ไม่ได้ประท้วงอะไรเพราะเราให้เกียรติผู้ตรวจคลาส อย่างไรก็ตามเป้าหมายของทีมที่วางไว้ก่อนเดินทางมาถึงกัมพูชานี้ก็คือเหรียญทองรวมทั้งหมด 8 ทอง ซึ่งตอนนี้ได้มา 5 ก็ยังเหลือประเภทคู่และทีมให้ได้ลุ้นอยู่ ก็ถือว่ายังอยู่ในเส้นทางที่จะทำให้ได้ตามเป้าหมาย