“นัทธวัฒน์” ผงาดแชมป์ออฟแชมป์ เวทีมิสเตอร์ไทยแลนด์ 2023

4/9/2023 20:34

“พล” นัทธวัฒน์ ศรีบุรีรักษ์ จาก วี-ทวินส์ โคราชยิม อวดหุ่นและกล้ามสุดงาม ผงาดแชมป์เพาะกายชาย รุ่นน้ำหนักเกิน 85 กก.ครั้งแรก พร้อมยังได้รับรางวัลแชมป์ออฟแชมป์ มิสเตอร์ไทยแลนด์ 2023 เป็นครั้งแรก คว้าถ้วยรางวัลพระราชทานจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในการแข่งขันเพาะกาย ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2566 ส่วน “หมวยเล็ก” ดลพร แทนบุญไพรัช อดีตผู้เข้าประกวดมิสทีน ไทยแลนด์ ปี 2011 และอดีตแอร์โฮสเตส ครองแชมป์โมเดลฟิสิคญิง รุ่นความสูงเกิน 164 ซม.ครั้งแรก ด้าน แอคไลฟ์ทีม คว้ารางวัลทีมยอดเยี่ยม

ปิดฉากลงไปแล้ว สำหรับการแข่งขันกีฬาเพาะกายรายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองไทย ศึกเพาะกายชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ชิงถ้วยรางวัลพระราชทานจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2566 ครั้งที่ 43 หรือ มิสเตอร์ไทยแลนด์ 2023 แข่งขันกันที่เวสต์เกต ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวสต์เกต

โดยเมื่อช่วงค่ำวันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันวันสุดท้าย โดยมี นายศุกรีย์ สุภาวรีกุล นายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย ร่วมมอบรางวัลให้กับนักกีฬา ร่วมด้วย ดร.ภูมิวรินทร์ ชุณหะวงษ์วริศ ประธานสหพันธ์เพาะกายเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, วีระ ชลวานิช อุปนายกสมาคมฯ, สาลี่ สว่างสุข เลขาธิการสมาคมฯ, บุญชัย แซ่แต้ กรรมการบริหารและผู้ช่วยเลขาธิการสมาคมฯ, พลภัทร เขตโพธิ์ทอง กรรมการบริหารและปฏิคม, ธวัช ศิริศรี กรรมการบริหารและนายทะเบียน, ดร.อรวรรณ ภู่ชัยวัฒนานนท์ กรรมการบริหาร, รองศาสตราจารย์ วิสูตร กองจินดา อุปนายกสมาคมฯ, ดร.อาณัติ วัชรางกูร ณ เชียงใหม่ ที่ปรึกษาสมาคมฯ, เกษริน มณีรัตน์ ผู้จัดการทั่วไปศูนย์การค้า เซ็นทรัล เวสต์เกต

เพาะกายชาย รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 65 กก.ที่ 1 เอกรัตน์ ศรีโสภา (แอคไลฟ์ทีม), ที่ 2 ศิวกร นาทันใจ (ชมรมเพาะกาย จ.เชียงราย), ที่ 3 จักรพงศ์ บัวยิ้ม (ข้าวเม่ายิม), ที่ 4 พนม วงศ์ดี (พาวเวอร์แมส โกลด์ ยิม แอนด์ ฟิตเนส) , ที่ 5 เศวต บัวอินทร์ (ค่ายเพาะกายเชียงราย สนามกีฬา จ.เชียงราย)

เพาะกายชาย รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 75 กก.ที่ 1 ประดิษฐ์ ท่าจีน (ชมรมเพาะกายสมาคมกีฬาจ.เชียงใหม่), ที่ 2 ธวิทย์ พวงเพชร (ค่ายเพาะกายจ.จันทบุรี), ที่ 3 ฉัตรมงคล ธำรงสมบัติ (แอคไลฟ์ทีม), ที่ 4 ทรงพล บัวคลี่ (ค่ายเพาะกายจ.จันทบุรี), ที่ 5 ศิวกร ปลุกใจ (แอคไลฟ์ทีม)

เพาะกายชาย รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 85 กก. ที่ 1 อิทธิพัฒฐ์ (ภาณุพงศ์) ประทีป อดีตทีมชาติ (วี-ทวินส์ โคราชยิม) , ที่ 2 วีระ อันธิชัย (แอคไลฟ์ทีม), ที่ 3 ธนกฤต ประจันตะเสน (วี-ทวินส์ โคราชยิม), ที่ 4 นพเก้า รวมรส (พิษณุโลกยิมบายพีที.), ที่ 5 วิทยา พันเลิศอมร (กายวี่)

เพาะกายชาย รุ่นน้ำหนักเกิน 85 กก.ที่ 1 นัทธวัฒน์ ศรีบุรีรักษ์ (วี-ทวินส์ โคราชยิม), ที่ 2 ปัญจพล พ้นชั่ว (ชมรมเพาะกายสมาคมกีฬาจ.เชียงใหม่), ที่ 3 วุฒิศักดิ์ จวนสาง อดีตทีมชาติ (กายวี่), ที่ 4 ยอดชาย นอกุล (ชมรมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสจ.นครปฐม), ที่ 5 รณชัย ชูเจริญ (เวกเตอร์ ฟิตเนส)

เพาะกายชาย มาสเตอร์ อายุ 50 ปีขึ้นไป ที่ 1 สมคิด สุเมโธเวชกุล อดีตทีมชาติ (สมคิดยิมแอนด์ฟิตเนส), ที่ 2 ภาคิน ภูบดอัคคเดช (คนเหล็กยิม), ที่ 3 วรรณพงษ์ สุขพูลผลเจริญ (กายวี่), ที่ 4 พันทรัพย์ ประเสริฐศรี (ชมรมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสจ.นครปฐม), ที่ 5 อนุ บุญต้อง (ค่ายเพาะกายจ.จันทบุรี)

นายศุกรีย์ สุภาวรีกุล นายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สำหรับปีนี้ การแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทย หรือ มิสเตอร์ไทยแลนด์ ปีนี้ เป็นปีที่ 43 ถือว่าการจัดการแข่งขันประสบความสำเร็จ แม้ว่าจะมาจัดการแข่งขันที่เซ็นทรัลเวสต์เกท เป็นปีแรก แต่ทุกอย่างออกมาดี

"ในส่วนของนักกีฬา มีหลายคนทำผลงานได้ดี แม้ว่าจะไม่มีทีมชาติปัจจุบันลงแข่งเพราะต้องเตรียมตัวแข่งชิงแชมป์อาเซียน ที่อินโดนีเซียในเดือน มิ.ย.ต่อด้วยชิงแชมป์เอเชียที่เนปาล แต่ก็มีอดีตทีมชาติหลายคน ที่สำคัญทำให้ดาวรุ่งได้แจ้งเกิด ซึ่งถือได้ว่านี่คือความสำเร็จของศึกเพาะกายชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี 2566 หรือ มิสเตอร์ไทยแลนด์ 2023 ศึกประชันเบ่งกล้ามรายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองไทย"