ตัวเต็งนักกีฬาทีมชาติตบเท้าคว้าชัยศึกเพาะกายไทยแลนด์มัสเซิลฯ

ตัวเต็งนักกีฬาทีมชาติตบเท้าคว้าชัยศึกเพาะกายไทยแลนด์มัสเซิลฯ
การแข่งขันกีฬาเพาะกายและฟิตเนสรายการ "ไทยแลนด์ มัสเซิล แอนด์ ฟิสิค แชมเปี้ยนชิพ 2022" หรือ "โรดทูมิสเตอร์ไทยแลนด์" ประจำปี 2023 สนามที่ จัดโดย สมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย ภายใต้การสนับสนุนของการกีฬาแห่งประเทศไทย กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ และเซ็นทรัลชลบุรี ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลชลบุรี ยังเป็นไปอย่างคึกคัก 

เมื่อวันที่ 18 ก.ย.65 ยังเป็นไปอย่างคึกคัก  ได้รับเกียรติจาก คณะกรรมการบริหารสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย นำโดย รองศาสตราจารย์ วิสูตร กองจินดา อุปนายก, นายธวัช ศิริศรี กรรมการบริหารและนายทะเบียน, นายธันย์ปวัฒน์ เตชภูวดลวิทิต ที่ปรึกษา, นายพลภัทร เขตโพธิ์ทอง กรรมการบริหารและเหรัญญิก, นายอำพล พานิชวัฒนา เลขานุการสำนักงานนายกสมาคมฯ ร่วมมอบรางวัลให้แก่นักกีฬา ในวันสุดท้าย มีการชิงชัยทั้งหมด 9 รุ่น ในประเภทเพาะกายชายและโมเดลฟิสิคหญิง โดยในรายการแข่งขันเพาะกายนั้น เหล่านักกีฬาทีมชาติต่างตบเท้าหยิบแชมป์และคว้าชัยกันได้เกือบทุกรุ่นตามคาด สำหรับผลการแข่งขันที่น่าสนใจ มีดังนี้ 

ประเภทเพาะกาย ชาย มาสเตอร์อายุ 50 ปี ขึ้นไป มีทีมชาติลงชิงชัยหลายคน โดยที่ 1 เป็นของ เกษม ศิริโสตร์  (นาร์แล็บส์) นักกีฬาทีมชาติ, ที่ 2 สุวิจักขณ์ พินทุสรขัย (โพสฟิตเนส) ทีมชาติ, ที่ 3 สาคร มาตรวังแสง ดีกรีแชมป์โลก (พารากอนยิม), ที่ 4 ภาคิน ภูบดีอีคคเดช (ศรีสมพงศ์ยิม), ที่ 5 อนุ บุญต้อง (ค่ายเพาะกาย จ.จันทบุรี)

เพาะกายชาย รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 75 ปี ที่ 1  สุรศักดิ์ ปานเรือง (พระพุทธบาท ฟิตเนส) แชมป์โลก ปี 2019, ที่ 2 ปริญญา อ้ายเหมย (ท็อป ยิม) อดีตทีมชาติ, ที่ 3 ทรงพล บัวคลี่ (ค่ายเพาะกายจ.จันทบุรี), ที่ 4 ธวิทย์ พวงเพชร  (ค่ายเพาะกายจ.จันทบุรี), ที่ 5 ก้องทิตย์ วรเจริญธนกุล (ยิมพี่ก้อง)

เพาะกายชาย รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 85 กก.ที่ 1 อิทธิภัฒฐ์ (ภาณุพงศ์) ประทีป (นาร์แล็บส์) ทีมชาติ, ที่ 2 ธนกฤต ประจันตเสน (นาร์แล็บส์) ทีมชาติ, ที่ 3 บัลลังก์ มะโนยศ (บ้านนักกล้าม จ.พะเยา เพาะกาย จ.พะเยา), ที่ 4 โอฬาร พานิชพันธ์ (ชมรมเพาะกายและฟิตเนสจ.ระยอง), ที่ 5 ศิวกร ปลุกใจ (ชมรมเพาะกาย จ.นนทบุรี)

เพาะกายชาย รุ่นน้ำหนักเกิน 85 กก.ที่ 1 วิชิต สิงห์ทอง (นาร์แล็บส์) น้องชายวิชัย สิงห์ทอง นักกีฬาทีมชาติชุดซีเกมส์, ที่ 2 มารุต บัวเทศ (บ้านนักกล้าม จ.พะเยา เพาะกาย จ.พะเยา), ที่ 3 แดดดี้ วัวออริเนน (ฟินแลนด์), ที่ 4 ธันวา พงษ์ดี (เวกัสยิม), ที่ 5 รุสลาน ชุบเชนโก (รัสเซีย)

เพาะกายเยาวชนชาย ที่ 1 อุษมาร์ ลอตันหยง (กายวี่), ที่ 2 ชลกานต์ จำปานิล (นาร์แล็บส์), ที่ 3 จักรพัทธ์ พงษ์จิรพัทธ์ (สแมช ยิม), ที่ 4 ปรเมนทร พละศรี (วัน มอร์ ยิม), ที่ 5 พะสิษฐ์ ลู่พรธนพัฒน์ (ชมรมกีฬาเพาะกายและฟิตเนส จ.นครปฐม)

เพาะกายชาย รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 65 กก.ที่ 1 พนม วงศ์ดี (พาวเวอร์แมสโกลด์ ยิม แอนด์ ฟิตเนส), ที่ 2 อภิสิท นาคำ (ทรินิตี้ ฟิตเนส), ที่ 3 ณัฐพงษ์ เอกา (ชมรมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสจ.นครปฐม), ที่ 4 ศิวกร นาทันใจ (ชมรมเพาะกายจ.เชียงราย), ที่ 5 อินโคเน ศรีวิเลย์ (ลาว)

โมเดลฟิสิคหญิง รุ่นความสูงไม่เกิน 160 ซม.ที่ 1 ยุพาพร สืบสวน (ชมรมกีฬาเพาะกายและฟิตเนส จ.นครปฐม), ที่ 2 สิรภัทร ทัดไทย (มัสเซิลแมนยิม มหาสารคาม), ที่ 3 กาญจนา พันโกฏิ (วัน มอร์ ยิม), ที่ 4 ธิดารัตน์ ปั่นโป้ (ค่ายเพาะกายจ.จันทบุรี), ที่ 5 มนธิภา สายวิรัช (ชมรมเพาะกาย จ.ศรีสะเกษ)

โมเดลฟิสิคหญิง รุ่นความสูงไม่เกิน 164 ซม.ที่ 1 ชนิภรณ์ แก้วโชติ (วัน มอร์ ยิม), ที่ 2 จรรยพร ศรีประสิทธิ์ (ยักษ์คลับ), ที่ 3  ภิญญ์ภัสสร กิจบวรศิริกุล (นาร์แล็บส์), ที่ 4 วิลาสินี โฆษิตชัยวัฒน์ (ชมรมเพาะกายและฟิตเนสจ.นครปฐม), ที่ 5 นวลนารา อารมย์เสรี (ทีเอ็มที โปรสปอร์ต)

โมเดลฟิสิคหญิง รุ่นความสูงเกิน 164 ซม. ที่ 1 ดลพร แทนบุญไพรัช (ชมรมเพาะกายจ.ศรีสะเกษ), ที่ 2 มนัสนันท์ อรรณพวรรณ (ชมรมเพาะกายและฟิตเนส จ.นครปฐม), ที่ 3 สิรินดา พันสถา (กายวี่), ที่ 4 เบญญาภา นิทราศรีสมุทร (ทีเอ็มที โปรสปอร์ต), ที่ 5 วรวิมล ปทุมมาลย์ลักขณา (ชมรมกีฬาเพาะกายและฟิตเนส จ.นครปฐม)

หลังจบการแข่งขัน อิทธิภัฒฐ์ (ภาณุพงศ์) ประทีป จากสังกัดนาร์แล็บส์ เปิดเผยว่า ที่เปลี่ยนชื่อมาใหม่ก็เนื่องจากทางแฟนของตนทักมาว่าจะทำให้ชีวิตเราดีขึ้น พอเปลี่ยนชื่อ ก็สามารถทำให้ได้แชมป์ทันที 

ด้านศุกรีย์ สุภาวรีกุล นายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ถึงแม้รายการนี้จะจัดขึ้นเป็นครั้งแรกที่ชลบุรี แต่ก็ได้รับความสนใจมีคนดูมาชมการแข่งขันมากมาย ซึ่งรายการนี้ นอกจากจะเป็นเวทีเฟ้นดาวรุ่งสู่ทีมชาติ แล้ว ทางสมาคมฯ ยังมีคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ และทีมสตาฟฟ์โค้ชทีมชาติไทย มาดูนักกีฬาที่หน่วยก้านดี เพื่อที่จะคัดเป็นตัวแทนทีมชาติไทยไปแข่งขันชิงแชมป์โลก ที่ภูเก็ต ในวันที่ 6-12 ธ.ค. 2565  เรียกว่ารายการนี้ นักกีฬาเบ่งกล้ามทีมชาติไทย ต่างลงสนามชิงชัยกันเต็มที่ โดยมี เวทีการชิงแชมป์โลก ที่ไทยเป็นเจ้าภาพที่จ.ภูเก็ต ในวันที่ 6-12 ธ.ค.เป็นอีกหนึ่งแมตช์สำคัญระดับโลกที่นักเบ่งกล้ามทุกคนต่างใฝ่ฝันจะคว้าตั๋วไปแข่งขัน

ทั้งนี้ บันไดที่จะก้าวไปสู่ "โรดทูมิสเตอร์ไทยแลนด์" ประจำปี 2023 ยังเหลืออีก 2 สนามให้นักกีฬาทุกคนได้ลุ้นตั๋ว โดยต้องติด 1 ใน 5 ให้ได้


 


ที่มาของภาพ : Siamsport
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport