กกท.เตรียมถกกัมพูชาขอลดค่าลิขสิทธิ์ซีเกมส์หน32

ความเคลื่อนไหว มหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 5-17 พ.ค.66 ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ล่าสุด ในส่วนของลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด ที่เจ้าภาพเรียกเก็บเป็นครั้งแรก โดยไทย เป็นประเทศ ที่มีการถูกเรียกเก็บค่าลิขสิทธิ์ซีเกมส์ครั้งนี้ สูงที่สุดในอาเซียน ประมาณ 8 แสนเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 28 ล้านบาท ซึ่งกัมพูชาอ้างว่า พิจารณาจากมูลค่าทางการตลาดของแต่ละประเทศนั้น 

เกี่ยวเรื่องนี้ "บิ๊กก้อง" ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เผยว่า ตัวเลขที่ปรากฎตามสื่อ เป็นตัวเลขที่เอเจนซี่ของเจ้าภาพเสนอมา ซึ่งถือว่าสูงมาก และ สูงเกินไป ก็จะต้องมีการหารือกันอีกครั้ง พร้อมกันนี้ ยังได้แจ้งให้คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ช่วยพูดคุยกับ คณะกรรมการโอลิมปิกกัมพูชา และฝ่ายจัดการแข่งขัน อีกทางแล้วด้วย 

ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในสัปดาห์หน้า กกท. จะเดินทางไปประชุมกับฝ่ายจัดการแข่งขันที่ประเทศกัมพูชา และจะมีการเจรจาเรื่องลิขสิทธิ์ให้ได้ข้อสรุป เพราะเหลือเวลาอีกเพียงแค่ 1 เดือนเศษเท่านั้นที่ซีเกมส์จะเปิดฉากขึ้น โดยหลังจากที่มีข่าวเรื่องลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดซีเกมส์ที่ราคาสูง ก็มีกระแสจากแฟนกีฬาส่วนใหญ่ สะท้อนออกมาอย่างต่อเนื่องว่า ในเมื่อลิขสิทธิ์แพงเกินไป ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องทุ่มงบประมาณมากขนาดนั้นก็ได้ 

ขณะเดียวกัน เจ้าภาพกัมพูชา ได้ประกาศว่า มี 5 ชาติได้ลงทะเบียนร่วมชิงชัยในกีฬา กุน โบกาตอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งศิลปะการต่อสู้โบราณอีกแขนงของกัมพูชา นอกเหนือจาก กุน ขแมร์ เรียบร้อยแล้ว โดยอู ดารา รองเลขาธิการสหพันธ์มวยกัมพูชา เปิดเผยผ่าน cambodia2023 เว็บไซต์ซีเกมส์อย่างเป็นทางการของการแข่งขันว่า ขณะนี้มี 5 ประเทศ ประกอบด้วย เวียดนาม ลาว เมียนมา ฟิลิปปินส์ และ อินโดนีเซีย ที่ลงทะเบียนส่งรายชื่อนักกีฬาเข้าร่วมใน กุน โบกาตอร์ ซึ่งหากรวมกัมพูชา เจ้าภาพด้วยก็จะทำให้กีฬาชนิดนี้มี 6 ชาติเข้าร่วมชิงชัย

ก่อนหน้ากีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 จะเริ่มขึ้น กัมพูชามีแผนจัดหลักสูตรอบรมผู้ตัดสินโบกาตอร์ ครั้งแรก ระหว่างวันที่ 24-28 มี.ค.66 จากนั้นจะจัดแข่งขัน โบกาตอร์ ชิงแชมป์อาเซียน ครั้งแรก วันที่ 29 มี.ค.-3 เม.ย.66 เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนถึงซีเกมส์ และทำให้กีฬาชนิดนี้เป็นที่รู้จักมากขึ้น โดยกุน โบกาตอร์ เป็นอีกหนึ่งกีฬาศิลปะการต่อสู้ที่แยกจาก กุน ขแมร์ เป็นอีกหนึ่งชนิดกีฬา โดยจะจัดชิงชัย 16 เหรียญทอง แบ่งเป็นประเภทร่ายรำ 7 เหรียญทอง และต่อสู้อีก 9 เหรียญทอง