ดร.พัฒพงศ์ พงษ์สกุล ผู้อำนวยการสำนักการกีฬา กรมพลศึกษา พร้อมด้วย พลตำรวจตรี ยงเกียรติ มนปราณีต รองผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ร่วมสำรวจความพร้อมและประชุมสรุปผลการตรวจพื้นที่และการเตรียมการจัดการแข่งขันกีฬานักเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ครั้งที่ 9 ประจำปี 2566 ที่กองกำกับการ 1 กองบังคับการฝึกพิเศษ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี
กรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน จัดการแข่งขันกีฬานักเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ครั้งที่ 9 ประจำปี 2566 ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อส่งเสริมกีฬาพัฒนาสุขภาวะกลุ่มผู้ด้อยโอกาสทุกเพศทุกวัยทั้งในและนอกระบบการศึกษาให้ได้ออกกำลังกายและเล่นกีฬาร่วมกันเพื่อส่งเสริมสุขภาพ สร้างมิตรภาพ และสร้างโอกาสให้กลุ่มผู้ด้อยโอกาสที่กระจายตัวอยู่ภาคต่างๆ ทั่วประเทศได้ออกกำลังกาย เล่นกีฬา และนันทนาการ จนเป็นวิถีชีวิต และมีสุขภาวะที่ยั่งยืน
สำหรับความพร้อมของสนามในการจัดการแข่งครั้งนี้ มีความพร้อมสมบูรณ์แล้ว ซึ่งสนามที่จะใช้แข่งขันกรีฑาและฟุตบอล ได้รับการปรับปรุงสนามจากลู่วิ่งที่เป็นดิน มาเป็นลู่วิ่งยางสังเคราะห์ รวมถึงปูหญ้าสนามฟุตบอลใหม่ เพื่อรองรับการจัดการแข่งขันครั้งนี้ ส่วนสนามอื่นๆ ก็เหลือเพียงการจัดการปูพื้นยางก่อนการแข่งขันและติดตั้งอุปกรณ์เทคนิคเท่านั้น โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จทันการแข่งขันอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ ความพิเศษที่เพิ่มเติมเข้ามาของการแข่งขันกีฬาในครั้งนี้ คือกิจกรรมนันทนาการที่ให้นักเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนได้ทำกิจกรรมร่วมกันก่อนวันแข่งขัน เพื่อทำความรู้จักซึ่งกันและกัน สร้างมิตรภาพไมตรี สร้างความสามัคคี กลมเกลียว ไม่เพียงแต่จะมาชิงชัยเพียงอย่างเดียวเท่านั้น โดยในส่วนของสำนักวิทยาศาสตร์การกีฬา กรมพลศึกษา จะร่วมจัดกิจกรรมทดสอบสมรรถภาพทางร่างกายให้แก่นักเรียนทุกคน ให้ได้ทราบถึงความพร้อมของร่างกายเป็นแนวทางในการดูแลตัวเอง เพื่อสร้างความพร้อมของร่างกายในการแข่งขันใครั้งต่อไปด้วย
อนึ่งการจัดแข่งขันกีฬานักเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ครั้งที่ 9 ประจำปี 2566 กำหนดจัดการแข่งขันขึ้นระหว่างวันที่ 20-23 เม.ย. 2566 แบ่งออกเป็น 3 รุ่นอายุได้แก่ รุ่นอายุไม่เกิน 10 ปี, ไม่เกิน 12 ปีและไม่เกิน 14 ปี แข่งขันกีฬาสากล 6 ชนิด ประกอบด้วย กรีฑา, แชร์บอล, เซปักตะกร้อ, เปตอง, ฟุตบอล (7 คน), และวอลเลย์บอล, และกีฬาพื้นบ้าน จำนวน 5 ชนิด ประกอบด้วย วิ่งผลัดกระสอบ, วิ่งเปี้ยว, ชักเย่อ, พรมวิเศษ, และวิ่ง 10 คน 11 ขา รวมถึงกีฬาแนะนำเพิ่มเติมเข้ามาในครั้งนี้ อีก 3 ชนิด ได้แก่ เบสบอล 5, สแต็ค และ กระโดดเชือก