คิงเพาเวอร์เก็บชัย 2 นัดที่ติดขี่ม้าโปโลโกลคัพ

คิงเพาเวอร์เก็บชัย 2 นัดที่ติดขี่ม้าโปโลโกลคัพ
คิงเพาเวอร์ ฟอร์มแรงไล่ต้อน เอสพีพี พัทยา 10-7.5 คะแนน เก็บชัย 2 นัดติดต่อกัน โดยนัดนี้ "ต๊อบ" อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา และ มิเกล อังเคล ดิแอช ซัดกันไปคนละ 3 ประตู ในศึกขี่ม้าโปโล ไทยแลนด์ โกลคัพ 2023

การแข่งขันขี่ม้ารายการ "ไทยแลนด์ โปโล โกลด์ คัพ 2023" (THAILAND POLO GOLD CUP 2023) ระหว่างวันที่ 11-18 ก.พ. 66 ที่สนามวีเอส สปอร์คลับ บางบ่อ จ.สมุทรปราการ และสนาม สยามโปโล ปาร์ค บางบ่อ ซึ่งเป็นการแข่งขันรายการที่มีระดับการแข่งขันที่สูงที่สุดในฤดูกาล 2023 โดยมีทีมเข้าร่วมแข่งขัน 4 ทีม ได้แก่ คิง เพาเวอร์ , เต่าบิน, อาห์มิบาร์  ประเทศบรูไน และ เอสพีพี พัทยา จะแข่งแบบพบกันหมด เอาทีมที่มีคะแนนอันดับ 1-2 ไปชิงชนะเลิศในวันที่ 18 ก.พ. และทีมอันดับ 3-4 ไปชิงอันดับ 3 ในวันที่ 16 ก.พ. 66

สำหรับไฮไลท์อยู่ที่การแข่งขันระหว่างทีม คิง เพาเวอร์ ที่นำทัพโดย 3 นักกีฬาทีมชาติไทย เหรียญเงินซีเกมส์ ครั้งที่ 29 อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา, อภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา, ณัฐพศ์ ประทุมลี และนักกีฬามือโปรจากอาร์เจนตินาระดับ 5 โกล มิเกล อังเคล ดิแอช โดยทีมคิงเพาเวอร์ มี แฮนดี้แค๊ปรวม 9 โกล ซึ่งในนัดแรก คิง เพาเวอร์ เฉือนเอาชนะ อาห์มิบาร์ มา 9-0.5 คะแนน เก็บชัยนัดแรกได้สำเร็จ ส่วนนัดที่ 2 คิง เพาเวอร์ ลงสนามพบกับ เอสพีพี พัทยา ที่นัดแรกพ่ายให้กับ เต่าบิน และนี้ เอสพีพี พัทยา ได้แต้มต่อ 0.5 คะแนน เนื่องจากมีแฮนดี้แค๊ปทีมรวมน้อยกกว่า คิง เพาเวอร์ 2 โกล 

เริ่มชักก้าแรก เอสพีพี พัทยท เปิดสกอร์แรกด้วยการยิงของ "หมิง หมิง" ศศิร์รัช โตมงคล นำ 1.5-0 คะแนน แต่ถัดมา คิง เพาเวอร์ ได้จุดโทษ จากการยิงของ "ต๊อบ" อัยยวัฒน์ ไล่มาเป็น 1-1.5 คะแนน หมดเวลาในชักก้าแรก ยังเป็น เอสพีพี พัทยา ที่นำ 3.5-3 คะแนน ชักก้าที่ 2  สองพี่น้อง "ศรีวัฒนประภา" ได้บอลและเลี้ยงบอลขึ้นไปด้วยกัน โดยมี อภิเชษฐ์ ที่คอยบังคู่แข่ง เพื่อไม่ให้เข้าไปแย่งบอลยิงทำประตูเข้าไปขึ้นนำ 4-3.5 คะแนน เกมกลับมาเป็นของเอสพีพี ที่สวนกลับเร็วยิงทำประตูพลิกกลับมานำอีกครั้งที่สกอร์ 4.5-4 คะแนน จากนั้นเกมกลับมาอยู่ที่ คิง เพาเวอร์ ที่เปลี่ยนกลับมาได้โดย อภิเชษฐ์ และเลี้ยงยาวมาจากครึ่งสนามเข้าไปยิงประตูนำ 5-4.5 คะแนน พร้อมหมดเวลาในชักก้าที่ 2 

ชักก้าที่ 3 เกมยังคงสูสีต่างผลัดกันรุกและผลัดกันรับจนนาทีที่ 2 ของชักก้า อัยยวัฒน์ ที่เลี้ยงบอลไปยิงประตูขึ้นนำ 6-4.5 คะแนน จากนั้นเป็น มิเกล ทีเปลี่ยนเกมกลับมาและยิงทำประตูที่ 7 ให้ คิง เพาเวอร์ แต่ช่วง 2 นาทีสุดท้ายของชักก้า ดาริโอ มุสโซ ผู้เล่นของเอสพีพี ที่แย่งบอลและส่งยางขึ้นไปยิงไล่มา 5.5-7 คะแนน เมื่อต้องกลับเขี่ยบอลกันใหม่ มิเกล ยิงโด่งจากกลางสนาม และ ณัฐพงศ์ เข้ามารับบอลและยิงเข้าไปอย่างสวยงามนำ 8-5.5 คะแนน และก่อนหมดเวลาในชักก้าที่ 3 เอสพีพี พัทยา ยิงทำประตูไล่มาเป็น 6.5-8 คะแนน 

ชักก้าที่ 4 เปิดเกมมานาทีแรก มิเกล ที่ได้ครองบอลเลี้ยงมายิงทำประตูให้ คิง เพาเวอร์ นำ 9-7.5 คะแนน และเกมยังคงเป็นของ คิง เพาเวอร์ ที่ไม่ปล่อยให้ เอสพีพีพัทยา เข้าเล่นบอลได้ พยายามจะสกัดบอลออก ก่อนจะยิงทำประตูส่งท้ายก่อนหมดเวลาเอาชนะไป 10-7.5 คะแนน เก็บชัย 2 นัดติดต่อกัน โดย "ต๊อบ" อัยยวัฒน์ และ มิเกล ยิงไปคนละ 3 ประตู ส่วน อภิเชษฐ ยิง 2 ประตู และ ณัฐพงศ์ ยิง 1 ประตู สำหรับนัดที่ 3 ซึ่งเป็นนัดสุดท้ายของการแข่งขันรอบแรก คิง เพาเวอร์ จะพบกับ เต่าบิน ในวันที่ 15 ก.พ.66 เวลา 18.00 น. ที่สนามวีเอส สปอร์ตคลับ บางบ่อ จ.สมุทรปราการ 

ส่วนอีกคู่ เต่าบิน นำทัพโดย 2 นักตีคลีทีมชาติไทย พลอย ปิ่นแสง และ ธนาศิลป์ เชื้อวังคำ พร้อมด้วย 2 นักโปโลมือโปรจากอาร์เจนตินา ลูคัส ลูฮาน และ ซานติเอโก ลูฮาน มีแฮนดี้แค๊บทีมรวม 8 โกล ซึ่งนัดแรก เต่าบิน เอาชนะ เอสพีพี พัทยา มา 6-2 คะแนน และนัดที่ 2 ลงสนามพบ อาห์มิบาร์ ที่นำทัพโดยนักโปมือโปรระดับ 5 โกล เซบาสเตียน เบอร์กี ส่งให้มีแฮนดี้แค๊ปทีมรวมเท่ากัน 8 โกล 

ชักก้าที่ 1 อาห์มิบาร์ ที่รุกหนักและทำสกอร์ขึ้นนำ 2-1 คะแนน ชักก้าที่ 2 เต่าบินพลิกเกมกลับมารุกยิงทำประตู 3 แต้มรวด พลิกกลับมานำ 3-2 คะแนน ส่งผลให้ อาห์มิบาร์ รุกเร็วแต่โดนกองหลังของ เต่าบิน สกัด ในขณะที่ อาห์มิบาร์ ไม่ละความพยายามเปลี่ยนเกมรุกกลับ และเป็น เฟอร์นานโด ริเวรา ยิงทำประตูตีเสมอ 3-3 ประตู

ชักก้าที่ 3 เกมของทั้งสองทีมเล่นกันดุดัน รุกหนัก สวนแรง และเป็นอาห์มิบาร์ ที่ทะลวงกองหลัง เต่าบินเข้าไปยิงประตูนำ 4-3 คะแนนพร้อมหมดเวลาในชักก้าที่ 3 และชักก้าที่ 4 ซึ่งเป็นชักก้าสุดท้าย อาห์มิบาร์ ยังรุกหนักโดยส่งบอลให้ เฟอร์นานโด ริเวรา เป็นผู้ยิงประตูขยับนำ 5-3 คะแนน และก่อนหมดเวลาในชักก้าที่ 4 เต่าบินได้ลูกโทษ ซึ่งยิงประตูเข้าไปไล่มา 4-5 ประตู พร้อมหมดเวลาแข่งขันไปด้วยสกอร์นี้ ส่งผลให้ เต่าบิน และ อาห์มิบาร์ แข่ง 2 นัด ชนะ 1 แพ้ 1


ที่มาของภาพ : Siamsport
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport