ชลบุรีพร้อมต้อนรับ30ชาติร่วมชิงชัยศึกกีฬาสูงอายุนานาชาติ
ชลบุรีพร้อมรับ นักกีฬากว่า 3,000 คน จาก 30 ชาติร่วมชิงชัยกีฬาสูงอายุนานาชาติ "ไทยแลนด์มาสเตอร์เกมส์ 2023" ระหว่างวันที่ 4-12 ก.พ.นี้ชิงชัย 15 ชนิดกีฬา ณัฐวุฒิ เรืองเวส มั่นใจเกมครั้งนี้จะทำให้เงินหมุนเวียนในจังหวัดไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท
นายณัฐวุฒิ เรืองเวส ประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขัน เป็นประธานแถลงข่าวการแข่งขันกีฬาสูงอายุนานาชาติ "ไทยแลนด์โอเพ่น มาสเตอร์เกมส์" ครั้งที่ 3 ร่วมด้วย นายวิวัฒน์ วิกรานตโนรส เลขาธิการสมาคมกีฬาผู้สูงอายุไทย, นายนิติ วิวัฒน์วานิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี, นายมีชัย อินวู๊ด ที่ปรึกษาผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย, นายอรรถ นานา รองประธานจัดการแข่งขัน, นายศุกรีย์ สุภาวรีกุล รองประธานจัดการแข่งขัน, นายชาติชาย เทพแปง ผู้เชี่ยวชาญ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. โดยมีนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ผู้แทนจาก 15 ชนิดกีฬา และ 2 ชนิดกีฬาสาธิตที่มีการจัดการแข่งขันเข้าร่วมงานโดยพร้อมเพรียง เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่ ห้องบอลรูม ชั้น 3 โรงแรม เดอะ แกรนด์ โฟร์วิงส์ คอนเวนชั่น ถ.ศรีนครินทร์ กรุงเทพฯ
สำหรับการแข่งขันรายการนี้ เกิดขึ้นจาก ความร่วมมือของ สมาคมกีฬาผู้สูงอายุไทย และภาคีสมาคม 17 ชนิดกีฬา จัดขึ้นเป็นปีที่ 3 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสืบสานเจตนารมณ์โครงการการแข่งขันกีฬาสูงอายุระดับประเทศและวิวัฒนาการของกีฬาผู้สูงอายุในระดับสากล ตลอดจนเพื่อพัฒนามาตรฐานและศักยภาพนักกีฬาสูงอายุไทย ส่งเสริมอุตสาหกรรมกีฬาเพื่อเพิ่มคุณค่าเชิงสังคมและมูลค่าทางเศรษฐกิจ โดยแข่งขันด้วยมาตรฐานสากล
โดยรายการนี้ ได้รับการสนับสนุนจาก การกีฬาแห่งประเทศไทย กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ จังหวัดชลบุรี และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ซึ่งได้รับการรับรองการแข่งขันจากสมาคมสหพันธ์กีฬาแห่งภาคพื้นเอเชียแปซิฟิค (GAAPSF) เพื่อเป็นการนำกีฬามาเสริมสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศตามนโยบายของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
นอกจากนี้ ทางฝ่ายจัดการแข่งขันได้เห็นความสำคัญของภารกิจของทางสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) ที่มีวัตถุประสงค์และนโยบายสอดคล้องกับการจัดการแข่งขัน "ไทยแลนด์โอเพ่น มาสเตอร์เกมส์" ครั้งที่ 3 ระหว่าวันที่ 4-12 ก.พ. 66 จะรณรงค์ให้การจัดการแข่งขันครั้งนี้มีรูปแบบ "มาตรฐานการบริหารการจัดงานอย่างยั่งยืน" (Thailand Sustainable Event Management Standard:TSEMS) ตามแนวทางที่ สสปน.ได้กำหนดไว้ เพื่อเป็นการยกระดับการจัดการแข่งขันกีฬาในประเทศไทยให้มีความยั่งยืนตามนโยบาย BCG
สำหรับการแข่งขัน 15 ชนิดกีฬาและ 2 กีฬาสาธิต ใช้สนามแข่งขันที่ชลบุรี, ศรีราชา, พัทยา และจันทบุรี ประกอบด้วย กรีฑา ที่สนามกีฬากลาง จังหวัดจันทบุรี,แบดมินตัน,บาสเกตบอล ,เพาะกาย , ลีลาศ ที่ ,ฟุตบอล,กอล์ฟ ที่,เปตอง ,เซปักตะกร้อ ,ว่ายน้ำ, เทเบิลเทนนิส , เทนนิส , วู้ดบอล ,กระดานยืนพาย,และกีฬาสาธิต บริดจ์ ,คาราเต้ รวมชิงชัยทั้งสิ้น 1,734 เหรียญทอง โดยมีนักกีฬาเข้าแข่งขัน 3,237 คน จาก 30 ประเทศ ประกอบด้วย ไทย, พม่า, ลาว, มาเลเซีย, สิงค์โปร์, ฮ่องกง, จีน, ญี่ปุ่น, ไต้หวัน, เกาหลีใต้, ฟิลิปปินส์, อินเดีย, เนปาล, อินโดนีเซีย, ศรีลังกา, ปากีสถาน, อิหร่าน, ตุรกี, อังกฤษ, รัสเซีย, บรูไน, สาธารณรัฐเช็ก, แคนาดา, เนเธอร์แลนด์, ฝรั่งเศส, นอร์เวย์, สหรัฐอเมริกา, สวีเดน, ออสเตรเลีย, ไอร์แลนด์
ด้านนายณัฐวุฒิ เรืองเวส กล่าวว่า การแข่งขันครั้งนี้ถือเป็นเกมแข่งขันระดับนานาชาติที่เป็นรูปแบบครั้งแรก เพราะสองครั้งที่ผ่านมาติดปัญหาเรืองโควิดทำให้นักกีฬาหลายชาติมาแข่งไม่ได้ แต่ปีนี้ทุกประเทศเปิดและส่งนักกีฬามาแข่งขันมากถึง 30 ประเทศ ครั้งที่แล้วที่ จ.สงขลา การแข่งขันรายการนี้ทำให้มีเงินหมุนเวียนสพัดใจจังหวัดมากกว่า 247 ล้านบาท และเชื่อว่าในปีนี้จะมีเงินสะพัดระหว่างการแข่งขันมากกว่า 300 ล้านบาท
สำหรับ พิธีเปิดการแข่งขันจะมีขึ้น ในวันที่ 4 ก.พ.ที่ สวนสุขภาพ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เวลา 16.30 น.สามารถติดตามรับชมการแข่งขันทั้ง 17 ชนิดกีฬาได้ผ่านทางทีวีดิจิตอล ช่อง T Sports7 ตลอดการแข่งขันดังกล่าว รวมทั้ง สามารถดูรายละเอียดได้ที่ Facebook เพจ Thailand Open Masters Games
