สมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย ปูพรมวางแผนล่วงหน้า 3 ปี หวังสร้างผลงานแจ่มในศึกซีเกมส์ ปี 2025 ที่เมืองไทย มั่นใจนักกีฬาลูกครึ่งตอบแทนแผ่นดินแม่ "ครูไก่" ประกาศทิ้งทวนด้วยผลงานเจ้าเหรียญทอง ส่วนซีเกมส์ 2023 ที่กัมพูชา ตั้งเป้าที่ยิมแอโรบิก น่าจะกวาดเหรียญทองได้ไม่น้อยกว่า 2 เหรียญ และภาพรวมควรได้มากว่า 3 เหรียญทอง
ความเคลื่อนไหวในส่วนของกีฬายิมนาสติกทีมชาติไทย ที่เตรียมเข้าร่วมแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ระหว่างวันที่ 5-17 พ.ค.66 ที่ประเทศกัมพูชา โดยเจ้าภาพจัดให้ชิงเพียงแค่ 13 เหรียญทอง แบ่งเป็น ยิมนาสติกศิลป์ชาย 8 เหรียญ และ ยิมนาสติกแอโรบิก 5 เหรียญทอง ขณะที่ยิมนาสติกศิลป์หญิง และ ยิมนาสติกลีลา ไม่มีแข่งขันเหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา
น.ต.ศรายุทธ พัฒนศักดิ์ รองประธานสหพันธ์ยิมนาสติกแห่งเอเชีย, ประธานสหพันธ์ยิมนาสติกแห่งเอเซียน และ นายกสมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า แผนงานของสมาคมยิมนาสติกฯ ของปี 2566 ตลอดทั้งปีกำหนดออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รายการแรกระดับนานาชาติอย่างเป็นทางการ คือส่งนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ในเดือนพฤษภาคม 2566 ที่ประเทศกัมพูชา
"ตอนนี้นักกีฬาอยู่ในช่วงซ้อมหนัก ยอมรับว่าซีเกมส์ครั้งนี้ไม่ใช่งานง่ายเนื่องจากหลายชาติได้ส่งนักกีฬาไปเก็บตัวฝึกซ้อมที่ประเทศในแถบยุโรป ส่วนนักกีฬาไทย ยังมีปัญหาเรื่องงบประมาณการส่งนักกีฬาออกนอกประเทศ โดยกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ยังค้างจ่ายตั้งแต่ต้นปี 2565 จึงจำเป็นต้องเก็บตัวอยู่ในเมืองไทย ขณะเดียวกันในการแข่งขันภายในประเทศ เมื่อจบการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ที่กัมพูชา ก็จะจัดแข่งขันยิมนาสติกชิงแชมป์ประเทศไทย เพื่อเป็นการเฟ้นหาดาวรุ่งเข้ามาเก็บตัวทีมชาติเตรียมซีเกมส์ อีก 2 ปีข้างหน้าที่เมืองไทย ส่วนการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่ประเทศจีน จะคัดเฉพาะคนที่เก่ง และ พร้อมที่สุด เนื่องจากเป็นรายการใหญ่ควรส่งเฉพาะนักกีฬาที่มีโอกาสคว้าเหรียญไปแข่งขันเท่านั้น"
ด้าน ดร.กุสุมาลย์ ประเสริฐศรี คณะกรรมการบริหารฝ่ายเทคนิกสหพันธ์ยิมนาสติกเอเชีย และผู้จัดการทีมชาติไทย เปิดเผยว่า เนื่องจากซีเกมส์ ในอีก 3 เดือนข้างหน้า เจ้าภาพ กัมพูชา จัดแค่ยิมนาสติกศิลป์ชายและแอโรบิก รวม 13 เหรียญทอง เราจะเป็นต้องทำการบ้านอย่างหนัก ขณะที่ ฑิฆัมพร สุรินทรทะ และ นักกีฬาลูกครึ่งไทย-อเมริกัน ที่ฝึกอยู่ต่างประเทศ ยังคือความหวังที่พร้อมจะสร้างเหรียญทองตอบแทนแผ่นดินแม่ เช่นเดียวกับยิมแอโรบิก "จ๋า" ชวิศา อินทกุล เป็นกำลังสำคัญของทีม และยังมีดาวรุ่งที่โดดเด่นอีก 3 คน ขณะนี้ได้วางโปรแกรมซ้อมหนักขึ้น มีทั้งวิ่ง สลับกับการเข้าฟิตเนส ฝึกทักษะ และปิดท้ายด้วยการฝึกท่าชุด
"ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ เป็นต้นไปจะซ้อมเสมือนแข่งขันจริง โดยเฉพาะยิมแอโรบิก มีชิง 5 เหรียญทอง คู่แข่งได้แก่ เวียดนาม ที่เหลือ "กัมพูชา" เจ้าภาพไม่สามารถประมาทได้เลย นอกจากนี้ ในระหว่างวันที่ 20-24 เม.ย.ทางสมาคมเตรียมส่ง นักกีฬาแอโรบิก ไปแข่งขันรายการ ซูซูกิคัพ ที่ประเทศญี่ปุ่น เพื่อวัดศักยภาพของนักกีฬาทุกคน ก่อนจะกลับมาประเมินความน่าจะเป็นอีกครั้ง โดย ซีเกมส์ ครั้งที่แล้ว ยิมนาสติกคว้ามาได้ 3 เหรียญทอง แบ่งเป็น ยิมศิลป์ชาย 1 ทอง, ยิมแอโรบิก 2 ทอง 2 เงิน และ 3 ทองแดง แต่ในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งนี้ นายกสมาคมฯ กำชับว่า นักกีฬาต้องพร้อมที่สุด หากไม่เก่ง ไม่ต้องส่ง ตั้งเป้าว่าในส่วนของยิมนาสติกแอโรบิก ผลงานต้องไม่ต่ำกว่าครั้งที่แล้ว และหากผลงานโดยรวมได้ต่ำกว่า 3 เหรียญทองถือว่าล้มเหลว"