"ดร.หญิง" ดร.สุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ยันพร้อมชี้แจงประเด็นบัตรสนเท่ห์ ที่มีการร้องเรียนการทำหน้าที่ของตนเอง เผยหน้าที่ในการอนุมัติงบเป็นของบอร์ดกองทุนฯ ผู้จัดการกองทุนฯมีหน้าที่หลักคือการชงเรื่องเพื่อขอรับการอนุมัติ ชี้อำนาจสุดท้ายในการตัดสินใจ อนุมัติงบประมาณต่างๆที่ได้มีการยื่นขอเข้ามาไม่ได้อยู่ที่ตนเอง
เมื่อวันที่ 28 ม.ค. 2566 ผู้แทนนายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดจากทั่วประเทศ พร้อมคณะ เดินทางมาขอเข้าพบ "ดร.หญิง" ดร.สุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ (NSDF) เพื่อให้การสนับสนุน และเป็นกำลังใจให้ในการทำหน้าที่เพื่อส่งเสริมสนับสนุนการกีฬาของชาติไทยในทุกระดับ ที่สำนักงานกองทุนฯ ชั้น 3 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) หัวหมาก
ดร.สุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนกีฬา ได้เปิดเผยถึงประเด็นข่าวที่ตนเองนั้นถูกตั้งกรรมการตรวจสอบจากการกีฬาแห่งประเทศไทย หลังมีผู้ร้องทุกข์ในการปฎิบัติหน้าที่ว่า สำหรับตนเองพร้อมที่จะทำการชี้แจงในทุกประเด็นที่มีข้อสงสัย เพียงแต่ในการร้องเรียนมานั้น เป็นในรูปแบบของบัตรสนเท่ห์ ไม่ได้ลงลายมือชื่อ ทำให้ไม่สามารถเชิญผู้ที่กล่าวหามาชี้แจง ตอบในข้อสงสัยต่างๆได้
ดร.หญิง เผยต่อไปอีกว่า สำหรับเรื่องใหญ่ที่ตนอยากจะขอชี้แจง มี 2 ประเด็น คือ เรื่องของการจัดสรรแบ่งปันงบประมาณไปยังสมาคมกีฬาต่างๆ ซึ่งงบประมาณของสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดและประเทศไทย ขอเข้ามา มีรวมๆกันกว่าหมื่นล้าน แต่งบประมาณกองทุนฯมีเงินเข้ามาประมาณ 4.2 พันล้านบาท ส่วนปีนี้เราอัดงบเพิ่มขึ้นมา 5 พันกว่าล้านบาท จากเงินสะสมที่มีอยู่ ซึ่งสัดส่วนเราไม่ได้เป็นคนพิจารณา
"เรื่องนี้เราส่งไปที่บอร์ดกองทุนฯเพื่อขอรับการอนุมัติ หลังบอร์ดอนุมัติ เรื่องก็ถูกส่งไปที่กรมบัญชีกลาง ก่อนเข้าคณะกรรมการของเขาพิจารณาเรื่องเงินทุนหมุนเวียน ซึ่งเงินกองทุนฯเป็นเงินหมุนเวียนที่ไม่ได้อยู่ในสำนักงบประมาณ จึงต้องนำไปเข้าคณะกรรมการใหญ่ของกระทรวงการคลัง เพื่อขอเป็นมติและออกเป็นหนังสือว่าเราสามารถใช้งบประมาณได้เท่าไหร่"
"ส่วนประเด็นที่มีการกล่าวหาว่าจัดสรรงบประมาณแบบเอื้อประโยชน์ให้กับพวกพ้องนั้น ตรงนี้อยากชี้แจงว่า สำหรับตัวผู้จัดการกองทุนฯ จริงๆแล้วมีหน้าที่รวบรวมคำขอที่มาจาก 2 แหล่งด้วยกัน คือ แหล่งที่มาจากสมาคมกีฬา เราก็ส่งไปให้ที่กกท.ว่ามีความซ้ำซ้อนอะไรหรือไม่ และแหล่งที่กกท.ขอมาเอง เมื่อขอมา ก็มีการทำเรื่องและผ่านคณะอนุกรรมการกลั่นกรองโครงการ ซึ่งจะมีผู้เชี่ยวชาญร่วมกันพิจารณา ก่อนส่งเรื่องไปถึงบอร์ดกองทุนฯพิจารณา หรือพูดง่ายๆว่าผู้จัดการมีหน้าที่แค่นำเสนอ และไม่ได้ผู้ที่ตัดสินใจ ซึ่งก็รวมไปถึงงบบริหารกองทุนฯก็ต้องมีการทำเรื่องไปของกกท.เพื่อขอความเห็นชอบก่อนด้วย"
"ยกตัวอย่าง บางสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดได้งบประมาณไม่ครบ คือทำเรื่องขอมา 5 ล้าน แต่ได้มาจริง 3 ล้านบาท แต่หลังจากที่จังหวัดส่งผู้แทนเข้ามาร่วมประชุมและพูดคุย ก็ทำให้เข้าใจกระบวนการที่ตรงกัน ซึ่งตรงนี้ กองทุนฯไม่ใช่ผู้ตัดงบ การจะตัดหรือไม่ตัดก็จะไปว่ากันด้วยเหตุและผลที่ซูเปอร์บอร์ดของกองทุนฯ" ผู้จัดการกองทุนฯ กล่าวทิ้งท้าย
ด้านนายวิจิตร พรพฤฒิพันธุ์ นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นตัวแทนกล่าวว่า สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นทุกคนคงจะทราบกันดีแล้วว่า ดร.สุปราณี โดนร้องเรียนต่างๆ มากมาย แต่จริงๆแล้วสำหรับสมาคมกีฬาจังหวัดไม่มีปัญหาเลย ที่ผ่านมา ดร.สุปราณี ได้ทำงาน มีการเปลี่ยนแปลงมากมาย ทั้งเรื่องกฎหมายต่างๆ ที่ส่งเสริมนักกีฬาระดับรากหญ้า จนถึงระดับชาติ จึงขอเป็นกำลังใจให้ ดร.หญิง ได้ทำงานอย่างต่อเนื่อง และเป็นเสาหลักให้กับวงการกีฬาไทย และสมาคมกีฬาทั่วประเทศต่อไป