จอห์น ฮิกกินส์ ผงาดแชมป์สนุกเกอร์เวิลด์โอเพ่น ชูโทรฟี่แรกรอบ 4 ปี

จอห์น ฮิกกินส์ ผงาดแชมป์สนุกเกอร์เวิลด์โอเพ่น ชูโทรฟี่แรกรอบ 4 ปี
“พ่อมดวิสกี้” จอห์น ฮิกกินส์ มือ 13 ของโลก จาก สกอตแลนด์ ที่แฟนสนุกเกอร์บ้านเรามักจะเรียกกันว่า “ป๋าจอห์น” ผงาดแชมป์สนุกเกอร์เวิลด์ โอเพ่น 2025 ไปครองได้สำเร็จ หลังรอบชิงชนะเลิศ จัดการสยบม้ามืดประจำรายการอย่าง โจ โอคอนเนอร์ มือ 39 ของโลกจากอังกฤษไปได้ 10-6 เฟรม เมื่อวันเสาร์ที่ 1 มี.ค.68 ที่ผ่านมา ณ สังเวียนยู่ชานสปอร์ตเซ็นเตอร์ เมืองยู่ชาน มณฑลเจียงซี สาธารณรัฐประชาชนจีน

อันที่จริงอดีตแชมป์โลก 4 สมัยผู้นี้ เกือบจะม่องเท่งไปตั้งแต่รอบรองชนะเลิศแล้ว หลังโดน แซค ชัวร์ตี มือ 89 ของโลกจากอังกฤษขึ้นแท่นนำถึง 5-3 เฟรม แต่ยังอาศัยความนิ่งเอาชนะความกดดันได้อย่างยอดเยี่ยม จนพลิกสถานการณ์กลับมาคว้าชัยอย่างเหลือเชื่อ 6-5 เฟรม 

เมื่อผ่านเข้าชิงชนะเลิศสำเร็จ ฮิกกินส์ เป็นฝ่ายออกคิวได้เหนือกว่า โอคอนเนอร์ ตามคาด แม้จอมคิวเลือดผู้ดีรายนี้ จะโค่นมือพระกาฬมาถึง 2 คนก่อนที่จะเข้าชิงก็ตาม ประกอบด้วยการเอาชนะ จัดด์ ทรัมป์ มือ 1 ของโลกจากอังกฤษ 5-2 เฟรมในรอบ 32 คน และการดับซ่า ฌอน เมอร์ฟี่ มือ 8 ของโลกจากอังกฤษ ที่แทงแม็กซิมั่มเบรกในรายการนี้ 5-1 เฟรม ในรอบก่อนรองชนะเลิศ

แม้ที่ตลอดเส้นทางที่ผ่านมา โอคอนเนอร์ จะออกคิวได้ดีแค่ไหน ทว่าในบรรยากาศรอบชิงชนะเลิศ ต่างเต็มไปด้วยความกดดัน ก่อนที่จะเป็น จอห์น ฮิกกินส์ ที่ผ่านเกมสำคัญในสมรภูมิคิวโลกมาอย่างโชกโชน เป็นฝ่ายคุมสถานการณ์เอาไว้ได้ พร้อมกับเอาชนะไปได้แบบไม่ยากเย็นนัก 10-6 เฟรม 

ความสำเร็จในครั้งนี้ ส่งผลให้ จอห์น ฮิกกินส์ ที่กำลังจะมีอายุแตะเลข 5 ในอีก 2 เดือนข้างหน้า คว้าเงินรางวัลไปเหนาะๆ 175,000 ปอนด์(ราวๆ 7.5 ล้านบาท) พร้อมกับได้รับคะแนนสะสมเพิ่มขึ้นอีก 175,000 คะแนน จนมีอันดับโลกดีขึ้นถึง 5 ขั้น จากอันดับ 13 ขึ้นมารั้งอันดับ 8 ของโลก

อีกทั้ง ยังทำให้คะแนนสะสมเฉพาะฤดูกาลปัจจุบันหรือ one year ranking ของเขา พุ่งขึ้นไปรั้งอันดับ 3 ด้วยผลงาน 323,750 คะแนน เป็นรองเพียงอันดับ 1 จัดด์ ทรัมป์(968,200 คะแนน) และอันดับ 2 ไคเรน วิลสัน(536,800 คะแนน)เท่านั้น

หากไม่มีอะไรผิดพลาด เขาจะได้สิทธิ์ลงแข่งขันรายการตระกูลเพลย์เยอร์สซีรี่ส์ ที่ใช้คะแนนสะสมประเภท one year ranking เป็นเกณฑ์ในการคัดเลือก ครบทั้ง 3 รายการอย่างแน่นอน อันประกอบด้วย เวิลด์กรังด์ปรีซ์ 2025(การันตีได้เล่นแล้ว), เพลย์เยอร์สแชมเปี้ยนชิพ 2025 และทัวร์แชมเปี้ยนชิพ 2025

นอกจากนี้ การคว้าแชมป์เวิลด์โอเพ่น 2025 ที่เพิ่งรูดม่านปิดฉากลงไป ยังเป็นแชมป์รายการนี้สมัยที่ 5 ของเจ้าตัวอีกด้วย ต่อจากปี 1994, 1999, 2005 และ 2008 เพียงแต่ 4 ครั้งดังกล่าว ยังใช้ชื่อรายการเดิมว่า “กรังด์ปรีซ์”

ความสำเร็จหนนี้ ยังเป็นแชมป์รายการระดับเวิลด์แรงค์กิ้งใบที่ 32 ของ “ป๋าจอห์น” อีกด้วย ส่งผลให้จอมคิวแห่งแดนวิสกี้ผู้นี้ ยังคงรั้งอันดับ 3 ในทำเนียบนักสนุกเกอร์ที่คว้าแชมป์รายการระดับเวิลด์แรงค์กิ้งมากที่สุด โดยเป็นรองเพียง รอนนี่ โอซัลลิแวน(41 รายการ)และ สตีเฟ่น เฮนดรี้(36 รายการ)เท่านั้น

ด้าน โจ โอคอนเนอร์ ยังคงต้องรอคอยถ้วยแชมป์ใบแรกในเวทีสอยคิวอาชีพโลกต่อไป โดยการคว้ารองแชมป์หนนี้ ทำให้เขารับบทตำแหน่งพระรองเป็นหนที่ 3 แล้ว ต่อจากสกอตติชโอเพ่น 2022, แชมเปี้ยนชิพลีก 2024 และศึกเวิลด์โอเพ่น 2025 ที่เพิ่งจบลงไป

นอกจากนี้ การผิดหวังในรอบชิงชนะเลิศของศึกเวิลด์โอเพ่น 2025 ยังส่งผลให้จอมคิวจากเมืองเลสเตอร์วัย 29 ผู้นี้ ชวดโอกาสลุ้นคว้าตั๋วลุยศึกเพลย์เยอร์สแชมเปี้ยนชิพ 2025 อีกด้วย โดยรายการดังกล่าว จะคัดเลือกเอานักสอยคิวที่มีคะแนนสะสมเฉพาะฤดูกาลปัจจุบัน(one year ranking)ในอันดับ 1-16 ไปบรรเลงเพลงคิวกันที่เมืองเทลฟอร์ด ประเทศอังกฤษ ระหว่างวันที่ 18-23 มี.ค.68(ยึดคะแนนหลังจบศึกเวิลด์กรังด์ปรีซ์ 2025 ในวันที่ 9 มี.ค.68)

หาก โอคอนเนอร์ คว้าแชมป์เวิลด์โอเพ่น 2025 เขาจะได้คะแนนสะสมเพิ่มถึง 175,000 แต้ม พร้อมกับจะส่งผลให้เขาขึ้นไปรั้งอันดับ 10 ในคะแนนสะสม one year ranking แต่พอได้แค่รองแชมป์ เขาได้คะแนนสะสมเพิ่มขึ้นเพียง 75,000 แต้มเท่านั้น ไม่เพียงพอต่อการลงแข่งเพลย์เยอร์สแชมเปี้ยนชิพ เนื่องจากมีคะแนนสะสม one year ranking อยู่ในอันดับ 19 

และจะต้องชวดลงดวลคิวในศึกทัวร์แชมเปี้ยนชิพ 2025 ระหว่างวันที่ 31 มี.ค.-6 เม.ย.68 ที่เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษอีก 1 รายการด้วย เนื่องจากศึกทัวร์แชมเปี้ยนชิพจะคัดเอาผู้เล่นที่มีคะแนนสะสม one year ranking ในอันดับ 1-12 เท่านั้นมาดวลคิวกัน

ถึงตรงนี้หลายคนอาจสงสัย เพราะเวิลด์สนุกเกอร์ทัวร์(WST) ยังเปิดโอกาสให้แต่ละคน สามารถโกยคะแนนสะสมในศึกเวิลด์กรังด์ปรีซ์ 2025 ระหว่างวันที่ 4-9 มี.ค.68 ที่เขตปกครองพิเศษฮ่องกงอีกรายการ เพื่อคัดเอาคนที่มีคะแนนสะสม one year ranking ในอันดับ 1-16 ไปแข่งเพลย์เยอร์สแชมเปี้ยนชิพ 2025 ต่อไป

ทว่า โจ โอคอนเนอร์ ไม่ได้สิทธิ์ลงแข่งเวิลด์กรังด์ปรีซ์ 2025 ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เนื่องจากรายการนี้ จะคัดเอานักสอยคิวที่มีคะแนนสะสม one year ranking ในอันดับ 1-32 มาแข่งขัน โดยยึดคะแนนหลังจบศึกเวลช์โอเพ่น 2025 ตั้งแต่วันที่ 16 ก.พ.68 ที่ผ่านมา ซึ่ง ณ เวลานั้นคะแนนสะสม one year ranking ของ โอคอนเนอร์ ไม่ได้ติดท็อป 32

เท่ากับว่า รองแชมป์เวิลด์โอเพ่นคนล่าสุด จะไม่มีโปรแกรมลงแข่งขันในอีก 3 รายการต่อจากนี้ (เวิลด์กรังด์ปรีซ์, เพลย์เยอร์สแชมเปี้ยนชิพ และทัวร์แชมเปี้ยนชิพ) กลับมาแข่งอีกทีก็คือศึกชิงแชมป์โลก 2025 รอบคัดเลือก ในช่วงสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนเมษายนโน่นเลย

อย่างไรก็ตาม การคว้ารองแชมป์เวิลด์โอเพ่น 2025 ทำให้ โจ โอคอนเนอร์ รับเงินรางวัล 75,000 ปอนด์(ประมาณ 3.2 ล้านบาท) และได้รับคะแนนสะสมเพิ่มขึ้นอีก 45,000 แต้ม จนมีอันดับโลกดีขึ้น 8 ขั้น จากอันดับ 39 พุ่งขึ้นมารั้งอันดับ 31 ของโลก


ที่มาของภาพ : gettyimages
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport