"ฉลามหิน" มาร์ค เซลบี้ นักสอยคิวมือ 4 ของโลกชาวอังกฤษ จัดการสยบ สตีเฟ่น แม็กไกวร์ มือ 29 ของโลกจากสกอตแลนด์ไปได้ 9-6 เฟรม ในการแข่งขันสนุกเกอร์ รายการ เวลช์โอเพ่น 2025 รอบชิงชนะเลิศ ที่เวนูคัมรี เมืองลันดุดโน ประเทศเวลส์ เมื่อช่วงดึกของวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา
อันที่จริง ตลอดการแข่งขัน ต่างฝ่ายต่างสู้กันได้อย่างสนุกสูสีมาโดยตลอด ในเซสชั่นแรก เซลบี้ อาจจะนำห่างถึง 3-1 เฟรม แต่ แม็กไกวร์ ก็ไล่มาตีเสมอ 3-3 เฟรม พร้อมกับจบเซสชั่นนี้ด้วยสกอร์ 4-4 เฟรม
จากนั้นในเซสชั่นที่ 2 เริ่ม 4 เฟรมแรก ทั้งคู่ก็ยังดวลกันแบบไม่มีใครยอมใครอีก จนเสมอกันที่ 6-6 เฟรมกระทั่งกลับมาจากการพักเบรก 15 นาทีของเซสชั่นที่ 2 เซลบี้ ที่อยู่ในวัย 41 ปี จัดการกด 3 เฟรมรวด พร้อมกับเข้าวินด้วยการเอาชนะไปได้ 9-6 เฟรม คว้าแชมป์เวลช์โอเพ่น 2025 ไปครองได้สำเร็จ
แชมป์ดังกล่าว ยังทำให้จอมคิวจากเมืองเลสเตอร์ คว้าถ้วย "เรย์เรียร์ดอนโทรฟี่" เป็นสมัยที่ 2 ด้วย ต่อจากศึก เวลช์โอเพ่น 2008 หรือเมื่อ 17 ปีที่แล้ว ซึ่งในตอนนั้น เซลบี้ ในวัย 24 เฉือน "เดอะร็อกเก็ต" รอนนี่ โอซัลลิแวน ที่อยู่ในวัย 32 ย่าง 33 ไปได้อย่างฉิวเฉียด 9-8 เฟรม พร้อมกับทำให้แมตช์ดังกล่าว เป็นนัดชิงชนะเลิศที่คลาสสิคที่สุดครั้งของศึกเวลช์โอเพ่นเลยก็ว่าได้
กลับมาที่ศึกเวลช์โอเพ่น 2025 จากการที่ มาร์ค เซลบี้ คว้าแชมป์เวลช์โอเพ่น 2025 ในครั้งนี้ได้สำเร็จ ได้ทำให้เขา คว้าเงินรางวัล 100,000 ปอนด์(ราวๆ 4.2 ล้านบาท)ไปครอง นับเป็นเงินรางวัลที่มากกว่าการคว้าแชมป์เวลช์โอเพ่นเมื่อ 17 ปีก่อนเกือบ 3 เท่า(ตอนนั้นรับ 35,000 ปอนด์) พร้อมกับทำให้เขา ได้รับคะแนนสะสมเพิ่มขึ้นอีก 95,500 คะแนน จนมีอันดับโลกขยับขึ้น 1 ขั้น จากอันดับ 4 ขึ้นไปรั้งอันดับ 3 ของโลกแล้ว พร้อมกับเขี่ย รอนนี่ ที่ถอนตัวจากรายการนี้ช่วงวินาทีสุดท้าย(อ้างเรื่องเหตุผลทางการแพทย์เหมือนเดิม) หล่นจากอันดับ 3 ลงมารั้งอันดับ 4 ของโลกแทน
ความสำเร็จครั้งนี้ ยังทำให้ เซลบี้ คว้าแชมป์รายการระดับเวิลด์แรงค์กิ้ง ที่มีผลต่อคะแนนสะสมอันดับโลก ไปครองเป็นรายการที่ 24 ส่งผลให้เจ้าตัวขึ้นไปรั้งอันดับ 7 ร่วมกับ นีล โรเบิร์ตสัน มือ 19 ของโลกจากออสเตรเลีย ในทำเนียบนักสนุกเกอร์ที่คว้าแชมป์รายการระดับเวิลด์แรงค์กิ้งมากที่สุด โดยเป็นรองเพียง 6 คนเท่านั้น ได้แก่ อันดับ 1 รอนนี่ โอซัลลิแวน(41 รายการ), อันดับ 2 สตีเฟ่น เฮนดรี้(36 รายการ), อันดับ 3 จอห์น ฮิกกินส์(31 รายการ), อันดับ 4 จัดด์ ทรัมป์(30 รายการ), อันดับ 5 สตีฟ เดวิส(28 รายการ) และ อันดับ 6 มาร์ค เจ วิลเลียมส์(26 รายการ)
ด้าน สตีเฟ่น แม็กไกวร์ ที่เข้าชิงเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 5 ปี ต่อจากการศึกทัวร์แชมเปี้ยนชิพ 2020 ซึ่งตอนนั้น คว้าแชมป์ไปครองอย่างเหลือเชื่อ ทั้งๆที่เป็นมวยแทน ติง จุ้น ฮุย ที่มีปัญหาเดินทางจากจีนเข้าอังกฤษเพราะการระบาดของ โควิด-19 พยายามสู้กับ เซลบี้ อย่างสุดฝีมือแล้ว แต่ต้านทานความเหนียวเขี้ยวเค็มของแชมป์โลก 4 สมัยไม่ไหว จึงแพ้และคว้ารองแชมป์ไปอย่างน่าเสียดาย
การคว้ารองแชมป์หนนี้ ทำให้ แม็กไกวร์ รับเงิน 45,000 ปอนด์(ราวๆ 1.9 ล้านบาท)เป็นรางวัลปลอบใจ พร้อมกับได้รับคะแนนสะสมเพิ่มขึ้นอีก 42,000 คะแนน จนมีอันดับโลกดีขึ้น 3 ขั้น จากอันดับ 29 ขึ้นมารั้งอันดับ 26 ของโลก