"ไคเรน" เฉือน "ฮอว์กินส์" เฟรมตัดสิน ผงาดแชมป์สนุกเกอร์เยอรมันหน2

แมตช์รอบชิงชนะเลิศ ต่างฝ่ายต่างสู้กันได้อย่างสนุกสูสี ชนิดไม่มีใครยอมใคร ผลัดกันนำผลัดกันตามมาโดยตลอด เล่นเอาบรรดาแฟนกีฬาแม่นรูทั้งที่ชมในฮอลล์แข่งขัน และที่ดูถ่ายทอดสดจากทั่วทุกมุมโลก ต่างลุ้นกันอย่างระทึกแทบไม่กระพริบตา ก่อนที่หนุ่มไคเรน จะเป็นฝ่ายทำได้ดีกว่าในเฟรมตัดสิน คว้าชัยชนะไปแบบหืดจับ 10-9 เฟรม รับเงินรางวัล 100,000 ปอนด์(ราวๆ 4.2 ล้านบาท)

นอกจากนี้ ยังเป็นแชมป์เยอรมัน มาสเตอร์สสมัยที่ 2 ของเจ้าตัวต่อจากปี 2019 พร้อมกับเป็นแชมป์ทัวร์นาเมนต์ระดับเวิลด์แรงค์กิ้งรายการที่ 9 ของเจ้าตัว นับตั้งแต่เทิร์นโปรเข้าสู่ยุทธจักรคิวอาชีพโลกเมื่อปี 2010 เป็นต้นมาอีกด้วย

หากนับเฉพาะฤดูกาลนี้(2024/25) นี่คือแชมป์รายการที่ 3 ของเจ้าตัวแล้ว ต่อจากศึกซีอานกรังด์ปรีซ์ 2024 ที่ประเทศจีน และ นอร์เทิร์นไอร์แลนด์โอเพ่น 2024 ณ ประเทศไอร์แลนด์เหนือ ส่งผลให้จอมคิววัย 33 ปีจากนอร์แทมป์ตันเชียร์ผู้นี้ คว้าแชมป์รายการระดับเวิลด์แรงค์กิ้งได้ถึง 3 ทัวร์นาเมนต์ ในฤดูกาลเดียว ซึ่งเป็นสิ่งที่เจ้าตัว ไม่เคยทำได้มาก่อน

อย่างไรก็ตาม จากความสำเร็จในศึกเยอรมันมาสเตอร์สที่เพิ่งรูดม่านปิดฉากลงไป แม้จะทำให้เจ้าตัว ได้รับคะแนนสะสมเพิ่มอีก 81,500 คะแนน แต่ยังคงรั้งอันดับ 2 ของโลกเหมือนเดิม โดย จัดด์ ทรัมป์ จอมคิวอีกคนจากอังกฤษ ยังคงรั้งอันดับ 1 ของโลกอย่างเหนียวแน่น ซึ่งมีแต้มสะสมนำห่าง ไคเรน ถึง 533,800 คะแนนเลยทีเดียว

ด้าน แบร์รี่ ฮอว์กินส์ อกหักในรอบชิงชนะเลิศ จนคว้ารองแชมป์เป็นรายการที่ 2 แล้วในซีซั่นนี้ หลังเมื่อ 2 เดือนก่อน เขาเพิ่งคว้าตำแหน่งพระรองในศึกใหญ่ระดับทริปเปิลคราวน์อย่างยูเคแชมเปี้ยนชิพ 2024 มาหมาดๆ ซึ่งรอบชิงชนะเลิศ เขาพ่าย จัดด์ ทรัมป์ ไปอย่างน่าเสียดาย 8-10 เฟรม

นับตั้งแต่เทิร์นโปรเล่นอาชีพเมื่อปี 1996 ไม่น่าเชื่อว่า ฮอว์กินส์ ที่แม้จะรักษาอันดับโลกแทบไม่หลุดจากท็อป 16 สามารถคว้าโทรฟี่แชมป์รายการอาชีพ มาประดับบารมีได้เพียง 5 ใบเท่านั้น ประกอบด้วยรายการระดับเวิลด์แรงค์กิ้ง 4 ทัวร์นาเมนต์ และไมเนอร์แรงค์กิ้งอีก 1 รายการ

และไม่น่าเชื่อว่า เขาผิดหวังในรอบชิงชนะเลิศ จนได้เพียงรองแชมป์ถึง 13 หนเลยทีเดียว โดย 3 รายการใหญ่ระดับทริปเปิลคราวน์ทั้ง ชิงแชมป์โลก, ยูเคแชมเปี้ยนชิพ และมาสเตอร์ส เขาต่างก็เคยผ่านการรับบทพระรองมาแล้วทั้งสิ้น และไม่เคยฝ่าฟันขึ้นชูโทรฟี่แชมป์ขึ้นเหนือศีรษะได้เลย

กล่าวได้ว่า ฮอว์กินส์ เป็นนักสอยคิวที่อาภัพกับความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งของวงการเลยก็ว่าได้ เขาควรได้แชมป์มาประดับเกียรติยศมากกว่านี้ แม้จะรักษามาตรฐานการแทงได้ดี จนแทบไม่หลุดจากท็อป 16 ของโลกเลยก็ตาม

จากการคว้ารองแชมป์เยอรมันมาสเตอร์ส 2025 ที่เพิ่งจบลงไป ส่งผลให้จอมคิวเจ้าของฉายา "พญาเหยี่ยว" รับเงิน 45,000 ปอนด์(กว่า 1.9 ล้านบาท) เป็นรางวัลปลอบใจ พร้อมกับได้รับคะแนนสะสมเพิ่มขึ้นอีก 37,000 แต้ม จนมีอันดับโลกดีขึ้น 1 ขั้น ขยับจากอันดับ 12 ของโลก ขึ้นไปรั้งอันดับ 11 ของโลก