หากมีใครสักคนบอกกับคุณว่า เล่ย เพ่ย ฟาน นักสอยคิววัย 21 ปีจากจีนแผ่นดินใหญ่ จะผงาดคว้าแชมป์สนุกเกอร์สกอตติชโอเพ่น 2024 เมื่อสัปดาห์ก่อน คุณคงจะคิดว่าเขาบ้า หรือไม่ก็มีสติที่ไม่สมประกอบอย่างแน่นอน
เพราะจอมคิวอาตี๋ผู้นี้ นอกจากจะรั้งถึงอันดับ 84 ของโลกแล้ว นับตั้งแต่เทิร์นโปรเล่นอาชีพเมื่อปี 2019 เขาก็ไม่เคยไปไกลกว่ารอบ 16 คนสุดท้ายเลย ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันรายการใดก็ตาม แถมยังเคยหลุดจากทัวร์อาชีพโลกมาแล้วอีกต่างหาก เมื่อสิ้นสุดฤดูกาล 2022-2023 เนื่องจากอันดับโลก ไม่อยู่ในท็อป 64 ของโลก ก่อนจะคว้าการ์ดทัวร์เข้ามาลุยศึกสอยคิวอาชีพโลกอีกครั้ง จากการคว้าแชมป์เอเชียแปซิฟิกสนุกเกอร์แชมเปี้ยนชิพ 2024
เรียกได้ว่า ผลงานของเจ้าตัว ไม่เคยใกล้เคียงกับโทรฟี่แชมป์เลย จนกระทั่งในศึกสกอตติชโอเพ่น 2024 ที่เมโดว์แบงค์สปอร์ตเซ็นเตอร์ เมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์
จากการที่เจ้าตัว ไม่ได้มีอันดับอยู่ในท็อป 32 ของโลก จึงทำให้ไม่ได้ตั๋วมาดวลคิวในรอบเมนดรอว์โดยอัตโนมัติ และต้องลงแข่งขันในรอบคัดเลือกมาก่อน ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนตุลาคม ที่พอนด์ฟอร์จอินเตอร์เนชั่นแนล สปอร์ตเซ็นเตอร์ โดยเขาต้องเอาชนะคู่แข่งถึง 2 รอบ ถึงจะคว้าตั๋วลุยศึกสกอตติชโอเพ่น 2024 ในรอบเมนดรอว์
จากนั้น พอเข้ามาถึงรอบเมนดรอว์(รอบ 64 คนจนถึงรอบชิงชนะเลิศ) ที่เมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์ ระหว่างวันที่ 9-15 ธันวาคม บรรดาเกจิทั้งหลาย ต่างฟันธงว่า “มังกรเล่ย” คงไม่มีทางไปไกลกว่ารอบ 2 (รอบ 32 คน)เป็นแน่แท้ เนื่องจากมี ฌอน เมอร์ฟี่ มือ 8 ของโลกจากอังกฤษ เป็นกระดูกชิ้นโตรออยู่ในรอบนั้น
ทว่าในที่สุด จอมคิวจากเมืองอันคัง มณฑลส่านซี กลับทำได้ดีกว่านั้น เมื่อสามารถคว้าแชมป์มาครองอย่างหักปากกาเซียน
ตลอดเส้นทางก่อนคว้าแชมป์ในรอบเมนดรอว์ เข้าปราบคู่แข่งที่มีอันดับโลกเหนือกว่าเขาทุกคน ไล่ตั้งแต่รอบ 64 คน เอาชนะ ฮอสเซน วาฟาอี มือ 24 ของโลกจากอิหร่าน 4-1, รอบ 32 คน ช็อกโลกด้วยการโค่น ฌอน เมอร์ฟี่ มือ 8 ของโลกจากอังกฤษ 4-3 เฟรม, รอบ 16 คน ปราบอดีตแชมป์โลกปี 2015 อย่าง สจวร์ต บิงแฮม มือ 25 ของโลกจากอังกฤษ 4-3 เฟรม
จากนั้นในรอบก่อนรองชนะเลิศเฉือน ทอป ฟอร์ด มือ 20 ของโลกจากอังกฤษในเฟรมตัดสิน 5-4 เฟรม, ส่วนรอบรองชนะเลิศ พลิกนรกจากการตามหลัง 2-5 เฟรม กลับมาชนะเต็งแชมป์อย่าง มาร์ค อัลเลน มือ 5 ของโลกจากไอร์แลนด์เหนือไปอย่างเหนือความคาดหมาย 6-5 เฟรม
เรียกได้ว่าเรียก 4 แมตช์ก่อนเข้าชิง ตั้งแต่รอบ 32 คนจนถึงรอบตัดเชือก "มังกรเล่ย" เอาชนะคู่แข่งในเฟรมตัดสินทั้งหมด พร้อมกับผ่านเข้าชิงกับ อู๋ อี้ เจ๋อ จอมคิวเพื่อนร่วมรุ่นจากชาติเดียวกัน
จากการที่ อู๋ อี้ เจ๋อ มีอันดับโลกเหนือกว่า จากการรั้งอันดับ 27 ของโลก แถมยังเคยเข้าชิงทัวร์นาเมนต์ระดับอาชีพโลกมาแล้ว 1 ครั้ง จากการคว้ารองแชมป์อิงลิชโอเพ่น 2024 เมื่อ 3 เดือนก่อน จึงทำให้ “มังกรอู๋” ถูกมองว่าเหนือกว่า เล่ย เพ่ย ฟาน ที่เพิ่งเปิดซิงผ่านเข้ามาชิงในรายการอาชีพโลกเป็นหนแรกอย่างไม่ต้องสงสัย
แต่แล้ว พอเกมรอบชิงเมื่อวันที่ 15 ธ.ค.67 ได้เริ่มขึ้น เล่ย เพ่ย ฟาน กลับออกสตาร์ทได้อย่างร้อนแรง ด้วยการนำไปก่อนถึง 4-0 เฟรม แม้หลังพักเบรก 15 นาที อู๋ อี้ เจ๋อ จะค่อยๆไล่จนตามหลัง 3-5 เฟรม ในช่วงเซสชั่นแรกก็ตาม
จากนั้นในเซสชั่นที่ 2 "มังกรเล่ย" ยังคงออกคิวได้ร้อนแรงกว่า ก่อนจะเอาชนะไปในที่สุด 9-5 เฟรม ผงาดคว้าแชมป์สกอตติชโอเพ่น 2024 ไปครองแบบหักปากกาเซียน แถมเป็นแชมป์อาชีพรายการแรกของเจ้าตัว นับตั้งแต่เทิร์นโปรหนแรกเมื่อปี 2019 อีกด้วย คว้าเงินรางวัล 100,000 ปอนด์(ราวๆ 4.3 ล้านบาท)
แถมยังคว้าคะแนนสะสมเพิ่มขึ้นอีก 100,000 แต้ม จนอันดับโลกพุ่งกระฉูดขึ้นถึง 41 ขั้น จากอันดับ 84 ของโลก ขึ้นมารั้งอันดับ 43 ของโลกแล้ว นับเป็นเวิลด์แรงค์กิ้งที่ดีที่สุดของเจ้าตัวอีกต่างหาก
ด้าน อู๋ อี้ เจ๋อ ยังคงต้องรอคอยแชมป์อาชีพรายการแรกต่อไป หลังเข้าชิงมาแล้ว 2 ครั้ง ก็ได้เพียงรองแชมป์ทั้ง 2 หน ทั้งศึกอิงลิชโอเพ่น 2024 ที่รอบชิงแพ้ นีล โรเบิร์ตสัน จากออสเตรเลีย 7-9 เฟรม เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา และล่าสุดในศึกสกอตติชโอเพ่น 2024 ที่พ่ายต่อคนบ้านเดียวกันอย่าง เล่ย เพ่ย ฟาน 5-9 เฟรม
การคว้าตำแหน่งพระรองในหนนี้ ทำให้ "มังกรอู๋" รับเงินรางวัลปลอบใจ 45,000 ปอนด์(ประมาณ 1.9 ล้านบาท) และรับคะแนนสะสมเพิ่มอีก 40,500 คะแนน โดยมีอันดับโลกขยับขึ้น 2 ขั้น จากอันดับ 27 ของโลกขึ้นไปรั้งอันดับ 25 ของโลกแล้ว และนับเป็นอันดับโลกที่ดีที่สุดของเขา ตั้งแต่เทิร์นโปรเล่นอาชีพเมื่อปี 2021 เป็นต้นมา