"มาร์คเจ" ดับซ่า เสี่ยว กั๊วะ ตง ผงาดแชมป์เหนือแชมป์สมัยแรก

อันที่จริง มิใช่แค่นัดชิงชนะเลิศเท่านั้น หากใครได้ดูฟอร์มตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์ ของอดีตแชมป์โลก 3 สมัยจากดินแดนมังกรแดงผู้นี้ ก็จะทราบดีว่า "น้ามาร์คเจ" ที่กำลังย่างเข้าสู่วัยครึ่งศตวรรษ ออกคิวได้เยี่ยมยอดทุกแมตช์ แทบไม่ต่างอะไรกับสมัยที่เรืองอำนาจ ในช่วงวัยรุ่นเมื่อ 20 กว่าปีก่อนเลย 

ไล่ตั้งแต่รอบ 16 คนที่เอาชนะแชมป์โลกหญิงคนล่าสุดอย่าง ไป่ ยู่ หลู จากจีน 4-1 เฟรม, ตามด้วยการเบียดแชมป์โลกคนล่าสุดอย่าง ไคเรน วิลสัน มือ 2 ของโลกจากอังกฤษไปอย่างระทึก 6-5 เฟรม โดยเฟรมที่ 7 ของแมตช์นี้ ยังทำเซ็นจูรี่เบรก 140 แต้ม พร้อมกับเป็นเบรกสูงสุดประจำทัวร์นาเมนต์อีกด้วย, ก่อนที่รอบรองชนะเลิศจะต้อน “จิงโจ้มหาประลัย” นีล โรเบิร์ตสัน มือ 18 ของโลกจากออสเตรเลียไปอย่างขาดลอย 6-2 เฟรม

สำหรับในรอบชิงชนะเลิศ จอมคิวถนัดซ้ายแห่งยุคคลาสออฟ 92 ออกสตาร์ทได้อย่างร้อนแรง จนนำ เสี่ยว กั๊วะ ตง ไปก่อนถึง 5-0 เฟรม ทว่าหลังจากนั้น “มังกรเสี่ยว” เริ่มจะติดเครื่อง เสมือนเครื่องยนต์ดีเซล ที่เครื่องร้อนช้า จนไล่มาถึง 4 เฟรมรวด พร้อมกับจี้มาเหลือ 4-5 เฟรมอย่างเหลือเชื่อ ก่อนจะจบเซสชั่นแรก

มันน่าคิดตรงที่ว่า ตอนที่จอมคิวจากจีนแผ่นดินใหญ่ กดมา 4 เฟรมรวด จนไล่มาเหลือเฟรมเดียว หากไม่มีการพักเบรกจบเซสชั่นที่ 1 เผลอๆ เสี่ยว กั๊วะ ตง อาจจะไล่ทัน เพราะโมเมนตัมเกมมันมาทางฝั่ง “มังกรเสี่ยว” แล้ว จึงกล่าวได้ว่า ตอนครบ 9 เฟรมของเซสชั่นที่ 1 แล้วต้องพัก ดุจเสียงระฆังได้ช่วย มาร์ค เจ วิลเลียมส์ ไว้พอดิบพอดี

พอพักเบรก 2-3 ชั่วโมง แล้วกลับมาแข่งขันกันต่อในเซสชั่นที่ 2 “น้ามาร์คเจ” ได้กลับมาคืนฟอร์มอีกคำรบ ก่อนจะเอาชนะ เสี่ยว กั๊วะ ตง ไปในที่สุด 10-6 เฟรม ผงาดคว้าแชมป์เหนือแชมป์ไปครองเป็นสมัยแรก พร้อมกับคว้าเงินรางวัล 150,000 ปอนด์ (ประมาณ 6.6 ล้านบาท) นับเป็นแชมป์แรกในฤดูกาลนี้ของเจ้าตัวอีกด้วย และยังได้สิทธิ์มาป้องกันแชมป์รายการนี้ในปีหน้าอีกต่างหาก

ความสำเร็จดังกล่าว เสมือนเป็นการสร้างความมั่นใจ ก่อนที่เขาจะลงดวลคิวในรายการใหญ่ระดับทริปเปิลคราวน์ทัวร์นาเมนต์ อย่าง ยูเค แชมเปี้ยนชิพ 2024 ซึ่ง มาร์ค เจ วิลเลียมส์ ได้สิทธิ์ไปยืนรอในรอบเมนดรอว์ (รอบ 32 คนจนถึงรอบชิงชนะเลิศ) ในฐานะมือท็อป 16 ของโลก ระหว่างวันที่ 23 พ.ย. – 1 ธ.ค.นี้ ณ ยอร์คบาร์บิกัน เมืองยอร์ค ประเทศอังกฤษ

ด้าน เสี่ยว กั๊วะ ตง แม้จะได้เพียงรองแชมป์ในรายการนี้ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า นับตั้งแต่เขาปลดล็อกคว้าแชมป์แรกบนยุทธจักรสอยคิวอาชีพโลก กับรายการอู๋ฮั่นโอเพ่น 2024 เมื่อเดือนก่อน ได้ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับเจ้าตัวได้ไม่น้อย จนมีมาตรฐานการแทงที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด น่าติดตามเป็นอย่างยิ่งว่า ในศึกใหญ่รายการต่อไปอย่างยูเคแชมเปี้ยนชิพ เขาจะทำผลงานได้ดีเพียงใด และที่สำคัญ เส้นทางของเจ้าตัว มีโอกาสที่จะพบกับ รอนนี่ โอซัลลิแวน มือ 5 ของโลกอีกครั้งในรอบ 16 คนสุดท้าย

หลังเพิ่งทำแสบเขี่ย "เดอะร็อกเก็ต" ตกรอบ 16 คนสุดท้ายไปหมาดๆ ในศึกแชมเปี้ยนออฟแชมเปี้ยน 2024 จากการพลิกนรกกลับมาชนะ "เฮียรอน" 4-3 เฟรมอย่างเหลือเชื่อ ทั้งๆที่ตามหลังถึง 0-3 เฟรม และจากการคว้าตำแหน่งพระรองศึกแชมป์เหนือแชมป์หนนี้ ทำให้ "มังกรเสี่ยว" รับเงินรางวัล 60,000 ปอนด์ หรือประมาณ 2.6 ล้านบาท