เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ารวบตัว น.ส.ชนกานต์ ที่เป็นบัญชีม้าของกระบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ในคดีที่หลอกเอาเงินจาก "ต๋อง ศิษย์ฉ่อย" วัฒนา ภู่โอบอ้อม นักสอยคิวขวัญใจชาวไทย อดีตมือ 3 ของโลก จนสูญเงินไปกว่า 3.2 ล้านบาท เมื่อปีที่แล้ว ก่อนนำตัวไปดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พร้อมด้วยทีมงานประกอบด้วย พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รองผบช.น., พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รองผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.อิสเรศ ปาลาพงศ์ รองผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.อรรชวศิษฎ์ ศรีบุญยมานนท์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.ปกรณ์ ทองช่วง และ พ.ต.ท.วิโรฒ จนุบุษย์ รอง ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.วรุตม์ คำหล้า สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. และชุดปฏิบัติการที่ 3 ข เข้าจับกุมตัว น.ส.ชนกานต์ อายุ 28 ปี ชาว ต.หนองไฮ อ.เมืองศรีสะเกษ จ.ศรีสะเกษ ได้ที่หน้าบ้านพักใน อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ตามหมายจับ ศาลอาญา ที่ 1611/2566 ลงวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2566
ทั้งนี้ หลังรวบรวมข้อมูล พบว่าเจ้าตัวต้องหาว่ากระทำผิด ฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และโดยทุจริตหรือโดยหลอกหลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบื่อนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่บางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน หรือบัญชีม้า ในกรณที่หลอกเอาเงินของ "ต๋อง ศิษย์ฉ่อย" วัฒนา ภู่โอบอ้อม นักสอยคิวขวัญใจชาวไทย อดีตมือ 3 ของโลก จนสูญเงินไปกว่า 3.2 ล้านบาทเมื่อปีที่แล้ว (พ.ศ.2566)
เรื่องนี้เริ่มจากคนร้ายที่เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้มีพฤติกรรมหลอกลวงแอบอ้างตนว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำ สภ.เมืองนครสวรรค์ และได้ติดต่อมายังเบอร์โทรศัพท์ ต๋อง ศิษย์ฉ่อย พร้อมกับบอกว่าเจ้าตัวพัวพันกับยาเสพติดและฟอกเงิน จึงสงสัยว่าตำรวจจริงหรือไม่ บุคคลดังกล่าวก็ส่งบัตรประจำตัวให้ดู เป็นยศ พันตำรวจเอก แล้วก็ให้เปลี่ยนมาคุยวิดีโอคอล ทางนั้นถามว่า เปิดบัญชีที่จันทบุรีหรือไม่ แล้วบอกว่า 2 สัปดาห์ก่อน จับพ่อค้ายาเสพติด ชื่อ สัญญา แซ่ลี้ อ้างว่าซื้อบุ๊กแบงก์จากตน 5 หมื่นบาท แล้วผู้เสียหาย ได้เงินเปอร์เซ็นต์จากการลำเลียงยาเสพติด 10 เปอร์เซ็นต์ 8.5 แสนบาท
จากนั้นทางผู้ที่แอบอ้างเป็นตำรวจ บอกให้ "ต๋อง" ต้องแสดงความบริสุทธิ์ ด้วยการขอเช็กเส้นทางการเงิน และขอทำการตรวจสอบเงินในบัญชีธนาคารต่างๆ ของผู้เสียหาย (ต๋อง ศิษย์ฉ่อย) หากการตรวจสอบเงินที่ได้มาของผู้เสียหายเสร็จสิ้นเมื่อใด คนร้าย (แก๊งคอลเซ็นเตอร์) จะทำการโอนเงินคืนให้กับผู้เสียหาย ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินเข้าบัญชีปลายทางของคนร้าย (แก๊งคอลเซ็นเตอร์) ธนาคาร ยูโอบี ชื่อบัญชี น.ส.ชนกานต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ชื่อบัญชี น.ส.สุดารัตน์ รวม 10 ครั้ง รวมเงินประมาณ 3.2 ล้านบาท จึงมาร้องทุกข์มอบคดีต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหา จนกว่าคดีจะถึงที่สุด
หลังจากถูกจับกุม ผู้ต้องหาให้การว่าตนเองได้เลื่อนเฟซบุ๊ค ไปมาจนกระทั่งมีผู้ใช้เฟซบุ๊คซึ่งตัวผู้ต้องหาเองจำชื่อผู้ใช้ดังกล่าวไม่ได้ ทักมาว่ามีงานขายของออนไลน์มานำเสนอ ตนสนใจจึงได้ตกลงสมัครงาน ก่อนที่จะเสนอให้ตนเปิดบัญชีธนาคารเพื่อรับเงินจากการทำงานออนไลน์ดังกล่าว และเมื่อผู้ต้องหาได้ทำการเปิดบัญชีธนาคารสำเร็จเรียบร้อยแล้ว จะได้ค่าดำเนินการการเปิดบัญชีออนไลน์เป็นเงินจำนวน 400 บาท โดยการให้ตนกรอกเบอร์โทรศัพท์มือถือตามที่ผู้รับสมัครงานบอก จากนั้นให้ตนกรอกอีเมล์และข้อมูลส่วนตัวของตนลงในแอพพลิเคชั่นอินเตอร์เน็ตแบงค์กิ้ง ต่อมาในระบบแบงค์กิ้งให้ตนสแกนใบหน้าโดยการหันซ้ายหันขวาเงยหน้าและก้มลงและกระพริบตาพยักหน้าในลำดับต่อมา ส่วนเลข otp ตนไม่ได้ส่งให้แต่ตนคิดว่าเป็นเพราะใช้เบอร์มือถือของผู้รับสมัครจึงไม่ต้องส่งotp เมื่อขั้นตอนการสมัครบัญชีธนาคารออนไลน์เสร็จสิ้น
ผู้ต้องหาบอกกับเจ้าที่ว่าตนไม่ทราบเลยถึงข่าวที่ออกไป เพราะตนไม่ได้ดูข่าวสารบ้านเมืองแต่อย่างใดเพียงแต่เปิดการ์ตูนให้ลูกดูเท่านั้น สุดท้ายนี้อยากฝากถึงประชาชนที่คิดกำลังจะเปิดบัญชีม้าว่า "ก็อยากให้เขารู้ว่า อย่าให้รู้ว่าโดนแบบหนูก็แล้วกัน" จากนั้นได้นำส่ง สน.วังทองหลาง ดำเนินคดีต่อไป