"ศักดา"อำลาสอยคิวไทย เหตุอิ่มตัวหลังอยู่วงการนาน 40 ปี

นายศักดา รัตนสุบรรณ หรือ "คิวทอง" อุปนายกสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย ยื่นจดหมายลาออก ผ่านเลขาธิการสมาคมฯ นายชุมพล บุษราตระกูล เพื่อแจ้งต่อนายสุนทร จารุมนต์ นายกสมาคมกีฬาบิลเลียดฯ หลังจากเสียสละและทุ่มเททำงานเพื่อวงการสอยคิวไทยมาอย่างนานกว่า 40 ปี โดยเป็น 1 ในผู้ก่อตั้งสมาคมกีฬาสนุกเกอร์ ร่วมกับ นายมอริส เคอร์ เมื่อปี 2525 โดยให้เหตุผลการลาออกถึงจุดอิ่มตัวและอายุมาก พร้อมประกาศปิด ทีบีซี สนุกเกอร์ ที่ใช้เป็นสนามแข่งขันและเป็นที่เก็บตัว ฝึกซ้อมนักกีฬาทีมชาติหลังสิ้นเดือนต.ค. 2567 ซึ่งสนามแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ซอย 89/1 ถนนรามคำแหง โดยอดีตนายกสมาคมฯ นายสินธุ พูนศิริวงศ์ เป็นผู้กำหนดให้จัดแข่งขันที่นี่ตั้งแต่ปี 2534 เป็นต้นมา

สำหรับสาเหตุในการประกาศลาวงการ "คิวทอง" เปิดเผยว่า เนื่องจากถึงจุดอิ่มตัวเพราะอยู่มานานกว่า 40 ปี แต่สิ่งที่น่าห่วงคือ เราขาดนักกีฬาหน้าใหม่หลังจาก วัฒนา ภู่โอบอ้อม หรือ "ต๋อง ศิษย์ฉ่อย" หมดไฟ เพราะอายุก็เข้าสู่ปีที่ 55 ในวันที่ 17 ม.ค.2568 ส่วนนักกีฬาทีมชาติก็ยังเป็นคนหน้าเดิมไม่มีดาวรุ่ง เกิดขึ้นเพื่อทดแทนทำให้ไทย ที่เคยเป็นเบอร์ 1 เอเชียกลับต้อง

ตามหลัง จีน, ฮ่องกง, มาเลเซีย, อิหร่าน และ อินเดีย ซึ่งปัจจุบันมีผู้เล่นขึ้นสู่อาชีพหลายคน โชคดีที่นักสอยคิวหญิง กู้หน้าไว้ได้โดย ณัชชารัตน์ วงศ์หฤทัย หรือ "มิ้งค์ สระบุรี" ยังคงเป็นมือ 1 โลกได้สิทธิ์เล่นอาชีพ ร่วมกับนักสนุกเกอร์ไทย 4 คนคือ เทพไชยา อุ่นหนู (เอฟ นครนายก), นพพล แสงคำ (หมู ปากน้ำ), อรรคนิธิ์ ส่งเสริมสวัสดิ์ (ซันนี่ อาร์แบค) และ มนัสวิน เพชรมาลัยกุล (ควิด คิวเฮาส์)