เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา ช่วงเวลาตี 1 (เช้าวันอังคาร)ตามเวลาประเทศไทย การแข่งขันสนุกเกอร์ชิงแชมป์โลก 2023 ดำเนินการดวลคิวตามปกติ ที่โรงละครครูซิเบิลเธียร์เตอร์ เมืองเชฟฟิลด์ ประเทศอังกฤษ
โต๊ะที่ 1 โรเบิร์ต มิลกินส์ มือ 14 ของโลกจากอังกฤษ ดวลกับ โจ เพอร์รี่ มือ 31 ของโลกจากชาติเดียวกัน ในเซสชั่นที่ 1 ส่วนโตะที่ 2 เป็นเซสชั่นที่ 2 ของคู่ระหว่าง มาร์ค อัลเลน มือ 3 ของโลกจากไอร์แลนด์เหนือกับ ฟาน เจิ้ง ยี่ มือ 36 ของโลกจากจีน หลังจากเซสชั่นแรก อัลเลน นำไปก่อน 6-3 เฟรม โดยการแข่งขันเป็นไปตามปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทว่าผ่านไปราวๆ 20 นาที ได้มีบุคคลนิรนาม 2 คน ซึ่งเป็นชาย 1 และหญิง 1 ก่อเหตุอุกอาจวิ่งลงมายังโต๊ะแข่งขัน
ผู้ก่อเหตุที่เป็นผู้ชายได้ปีนขึ้นไปบนโต๊ะที่ 1 ระหว่างที่ มิลกินส์ กับ เพอร์รี่ กำลังดวลคิวกันอยู่ แล้วได้โปรยผงสีส้มไปทั่วโต๊ะ ส่วนผู้ก่อเหตุที่เป็นผู้หญิง พยายามจะปีนขึ้นโต๊ะที่ 2 เช่นกัน แต่ไม่ทันได้โปรยผงสีส้ม เนื่องจาก โอลิวิเยร์ มาร์ติล ผู้ตัดสินชาวเบลเยียม สามารถล็อคตัวได้ทัน
หลังจากเกิดเหตุไม่คาดฝันในครั้งนี้ ได้ทำให้แฟนสนุกเกอร์ที่อยู่ในครูซิเบิลเธียร์เตอร์ และที่กำลังดูถ่ายทอดสดไปทั่วโลกต่างตกตะลึงไปตามๆกัน พร้อมกับทำให้การแข่งขันทั้ง 2 แมตช์ต้องยุติชั่วคราว
ขณะที่ผู้ก่อเหตุทั้งสอง ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวทันทีในเวลา 19.30 น.ตามเวลาที่อังกฤษ (ตี 1.30 น.ตามเวลาประเทศไทย) ทราบในภายหลังว่าทั้งคู่คือนักกิจกรรม ที่ต่อต้านโครงการการผลิตน้ำมันจากฟอสซิลของรัฐบาลสหราชอาณาจักร ซึ่งทั้งสองได้พยายามต่อต้านทางโซเชี่ยลมีเดียมาโดยตลอด พร้อมกับเรียกร้องให้องค์กรกีฬาในสหราชอาณาจักร (อังกฤษ, สกอตแลนด์, เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ) แสดงจุดยืนด้วยการร่วมต่อต้านโครงการนี้ไปกับพวกเขาด้วย แต่ก็ยังไม่มีองค์กรกีฬาใดให้ความร่วมมือ
กระทั่งนักกิจกรรมทั้งสอง ได้ก่อเหตุอุกอาจในครั้งนี้ พร้อมกับเกิดคำถามขึ้นมาว่า ฝ่ายจัดการแข่งขันสนุกเกอร์ชิงแชมป์โลก ปล่อยให้บุคลที่ไม่เกี่ยวข้อง ลงไปถึงโต๊ะแข่งขันได้อย่างไร เหตุไฉนมาตรการรักษาความปลอดภัยถึงหละหลวมอย่างง่ายดายเยี่ยงนี้
ยิ่งโรงละครครูซิเบิล เป็นฮอลล์แข่งขันที่ผู้ชมใกล้ชิดติดกับนักกีฬาและโต๊ะแข่งเพียงไม่กี่เมตร ฝ่ายจัดต้องตระหนักถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยให้มากขึ้นกว่ารายการอื่น โชคดีที่เหตุการณ์นี้ ผู้ก่อเหตุต้องการแสดงจุดยืนทางการเมืองเท่านั้น มิได้ลงมาทำร้ายนักกีฬาแต่อย่างใด
ลองคิดดูว่า ถ้าผู้ก่อเหตุเจตนาลงมาทำร้ายนักกีฬา แล้วนักกีฬาได้รับบาดเจ็บขึ้นมา หรือถึงขั้นเสียชีวิต มันจะกลายเป็นโศกนาฏกรรมที่เป็นตราบาปแห่งวงการคิวโลกไปชั่วกัปชั่วกัลป์ทันที
เชื่อว่าแฟนกีฬารุ่นเดอะคงจะจำกันได้ ราวๆ 30 ปีก่อน ในระหว่างการแข่งขันเทนนิสหญิง WTA Hamburg หรือ รายการซิติเซน คัพ ที่เมืองฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมนี เมื่อวันที่ 30 เมษายนปี 1993 กุนเธอร์ ปาร์เช่ ชายสติไม่สมประกอบชาวเยอรมัน ได้วิ่งถือมีดทำครัวขนาด 9 นิ้ว ลงไปแทงข้างหลัง โมนิก้า เซเลซ นักหวดหญิงมือ 1 ของโลกในเวลานั้น ด้วยเหตุผลที่ว่า ไม่อยากเห็น เซเลซ ประสบความสำเร็จเกินไป เนื่องจากเขาเป็นแฟนคลับตัวยงของ สเตฟฟี่ กราฟฟ์ นักหวดหญิงชาวเยอรมัน ที่เป็นคู่แข่งตัวฉกาจของ เซเลซ ในยุคนั้น
ผลที่ตามมาก็คือ เซเลซ ต้องหายจากวงการเทนนิสไปนานถึง 2 ปี แผลด้านหลังที่โดนแทงรักษาแค่ 1 เดือนก็หายเป็นปกติ ทว่าแผลในใจจากการถูกทำร้ายหมายเอาชีวิตในครั้งนี้ มันทำให้เธอต้องใช้เวลาเยียวยารักษาแผลใจนานถึง 2 ปี กว่าจะกลับมาแข่งขันอีกครั้งได้
แม้จะกลับมาได้ แต่เธอก็ไม่เคยกลับขึ้นไปอยู่ในจุดสูงสุดได้อีกเลย เรียกได้ว่าหากไม่มีเหตุการณ์อุกอาจในครั้งนั้น เธออาจประสบความสำเร็จในวงการลูกสักหลาดได้มากกว่านี้
กลับมาที่เรื่องอื้อฉาวในสนุกเกอร์โลกอีกครั้ง นับว่ายังดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ จากเหตุการณ์บุกไปโปรยผงสีส้มบนโต๊ะแข่งขัน ทว่าก็ทำให้เกิดเหตุวุ่นตามมาอีกหลายเรื่อง
เริ่มจากคู่ระหว่าง โรเบิร์ต มิลกินส์ กับ โจ เพอร์รี่ ต้องถูกยกเลิกกลางคัน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ต้องเปลี่ยนผ้าสักหลาดในโต๊ะที่ 1 โดย มิลกินส์ - เพอร์รี่ ถูกเลื่อนไปดวลคิวกันในเซสชั่นแรก ช่วงตี 1 ของคืนวันอังคารที่ 18 เมษายน ส่วนเซสชั่น 2 จะแข่งขันในเวลา 15.30 น.ของวันพฤหัสบดีที่ 20 เมษายน ตามเวลาประเทศไทย
หลังจากเปลี่ยนผ้าสักหลาดในโต๊ะที่ 1 คู่ระหว่าง "หมู ปากน้ำ" นพพล แสงคำ มือ 32 ของโลกชาวไทย กับ แจ๊ค ลิซอฟสกี้ มือ 13 ของโลกจากอังกฤษ จะเป็นแมตช์ประเดิมสักหลาดใหม่ในโต๊ะนี้ ซึ่งดวลคิวในเซสชั่นแรกในวันอังคารที่ 18 เมษายน เวลา 16.00 น.
ถิรพัฒน์ ณ ลำปาง