ดั่งที่แฟนสนุกเกอร์ทราบกันเป็นอย่างดีว่า สนุกเกอร์ชิงแชมป์โลกจะแบ่งออกเป็น 2 ช่วงด้วยกัน ประกอบด้วยการแข่งขันในรอบคัดเลือกและรอบเมนดรอว์ (รอบ 32 คนสุดท้าย)

ในรอบเมนดรอว์ จะให้สิทธิ์แก่มืออันดับ 1-16 ของโลกเท่านั้น (ยึดอันดับโลกหลังจบศึกทัวร์แชมเปี้ยนชิพ 2023 ในวันที่ 3 เมษายน 2023) เข้าไปรอแข่งขันโดยอัตโนมัติ ที่ครูซิเบิลเธียร์เตอร์ เมืองเชฟฟิลด์ ประเทศอังกฤษ

ส่วนมืออันดับ 17 ของโลกลงไปจนถึงมืออันดับร้อยกว่าๆ รวมไปถึงนักสอยคิวระดับสมัครเล่นที่ได้สิทธิ์ไวลด์การ์ด จำนวนทั้งสิ้น 128 คน จะต้องลงดวลคิวในรอบคัดเลือกเสียก่อน และจะคัดเอาเพียง 16 คนเท่านั้น ผ่านเข้าไปชิงชัยร่วมกับมือท็อป 16 ของโลก ในรอบเมนดรอว์ต่อไป

สำหรับศึกชิงแชมป์โลก 2023 ที่กำลังจะอุบัติขึ้น จอมคิวแห่งแดนขวานทองได้สิทธิ์ลงแข่งขันถึง 5 คน ได้แก่ "หมู ปากน้ำ" นพพล แสงคำ มือ 32 ของโลก, "เอฟวัน" เทพไชยา อุ่นหนู มือ 45 ของโลก, "แจ๊ค สระบุรี" เดชาวัต พุ่มแจ้ง มือ 119 ของโลก, "มิ้งค์ สระบุรี" ณัชชารัตน์ วงศ์หฤทัย มือ 123 ของโลก และ "ใบพัด ศรีราชา" ศิริภาพร นวนทะคำจัน มือสมัครเล่นที่ได้สิทธิ์ไวลด์การ์ดให้มาแข่งขันในฐานะแชมป์โลกหญิงคนล่าสุด

ทั้ง 5 คนดังกล่าว ไม่มีใครติดท็อป 16 ของโลกเลย ดังนั้นจะต้องลงแข่งขันตั้งแต่รอบคัดเลือกกันทั้งหมด ระหว่างวันที่ 3-12 เมษายนนี้ ณ สถาบันกีฬาอังกฤษ (English Institute of Sport) เมืองเชฟฟิลด์ ประเทศอังกฤษ

ระบบการแข่งขันชิงแชมป์โลกรอบคัดเลือกในปีนี้ ยังคงเหมือนกับครั้งก่อนๆ โดยมืออันดับ 81 ของโลกลงไปจนถึงอันดับร้อยกว่า รวมไปถึงบรรดามือสมัครเล่นที่ได้สิทธิ์ไวลด์การ์ด จำนวน 64 คน จะต้องออกสตาร์ทลงแข่งขันตั้งแต่รอบคัดเลือกรอบที่ 1

ผู้ชนะในรอบคัดเลือกรอบที่ 1 จำนวน 32 คน จะเข้าสู่รอบคัดเลือกรอบที่ 2 และจะต้องมาเจอกับมืออันดับ 49-80 ของโลก(จำนวน 32 คน) ที่ได้สิทธิ์มายืนรอในรอบนี้โดยอัตโนมัติ

ถัดมาผู้ชนะในรอบคัดเลือกรอบที่ 2 จำนวน 32 คน จะเข้าสู่รอบคัดเลือกรอบที่ 3 และจะต้องมาพบกับมืออันดับ 17-48 ของโลก(จำนวน 32 คน) ที่ได้สิทธิ์มายืนรอในรอบนี้โดยอัตโนมติ 

จากนั้นผู้ชนะในรอบคัดเลือกรอบที่ 3 จำนวน 32 คน จะเข้ามาเจอกันเองตามสายในรอบคัดเลือกรอบที่ 4 

ผู้ที่ชนะในรอบคัดเลือกรอบที่ 4 จำนวน 16 คน จะได้สิทธิ์เข้าไปประชันเพลงคิวร่วมกับมือท็อป 16 ของโลกที่ได้สิทธิ์มายืนรออยู่ก่อนแล้ว ในศึกชิงแชมป์โลก 2023 รอบเมนดรอว์ ณ สังเวียนครูซิเบิลเธียร์เตอร์ เมืองเชฟฟิลด์ ประเทศอังกฤษ ระหว่างวันที่ 15 เมษายน - 1 พฤษภาคมนี้ต่อไป

ทั้งนี้รอบคัดเลือกทั้ง 4 รอบ จะแข่งขันในระบบ 10 ใน 19 เฟรม (ใครถึง 10 เฟรมก่อนเป็นผู้ชนะ) เหมือนกันทั้งหมด แต่ละรอบจะถูกแบ่งออกเป็น 2 เซสชั่นด้วยกัน (เซสชั่นแรก 9 เฟรม, เซสชั่นที่ 2 แข่งจนจบ)

เมื่อดูจากเงื่อนไขของศึกชิงแชมป์โลก 2023 พอสรุปได้ว่า "หมู ปากน้ำ" มือ 32 ของโลก กับ "เอฟวัน" อันดับ 45 ของโลก จะต้องเอาชนะคู่แข่ง 2 แมตช์(รอบคัดเลือกรอบที่ 3-4) ถึงจะได้เข้าครูซิเบิล

ขณะที่ "แจ๊ค สระบุรี" มือ 119 ของโลก, "มิ้งค์ สระบุรี" มือ 123 ของโลก และ "ใบพัด ศรีราชา" มือสมัครเล่นที่ได้สิทธิ์ไวลด์การ์ด จะต้องเอาชนะคู่แข่งถึง 4 แมตช์(รอบคัดเลือกรอบที่ 1-4) ถึงจะผ่านเข้าไปโชว์เพลงคิวในโรงละครอันศักดิ์สิทธิ์แห่งกีฬาแม่นรู 

ด้านสายการแข่งขันรอบคัดเลือก ได้คลอดออกมาแล้วตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา ปรากฏว่า 2 นักสอยคิวจากดินแดนขนมกะหรี่ปั๊บทั้ง "แจ๊ค สระบุรี" เดชาวัต พุ่มแจ้ง กับ "มิ้งค์ สระบุรี" ณัชชารัตน์ วงศ์หฤทัย ต้องมาเจอกันเอง

มองในแง่ดี จะมีนักสอยคิวไทยหนึ่งคนเข้ารอบคัดเลือกรอบ 2 แน่นอน ทว่าถ้ามองอีกแง่ ก็รู้สึกเสียดายเช่นกันที่จะต้องมี 1 คนที่อกหักตกรอบ โดยผู้ชนะคู่นี้จะเข้าไปเจอกับ แมทธิว สตีเว่นส์ มือ 54 ของโลกจากเวลส์ ที่เคยคว้ารองแชมป์โลกมาแล้ว 2 สมัยเมื่อปี 2000 และ 2005 ในรอบคัดเลือกรอบที่ 2 ต่อไป

ขณะที่ "ใบพัด ศรีราชา" ณัชชารัตน์ วงศ์หฤทัย เจ้าของแชมป์โลกหญิงคนล่าสุดสดๆร้อน จะดวลกับ อาร่อน ฮิลล์ มือ 98 ของโลกจากไอร์แลนด์ ในรอบคัดเลือกรอบที่ 1 ถ้าผ่านได้จะเข้าไปเจอกับ ไมเคิ่ล ไวท์ มือ 77 ของโลกจากเวลส์ ที่ยืนรออยู่ในรอบคัดเลือกรอบที่ 2

ส่วน "หมู ปากน้ำ" นพพล แสงคำ มีโอกาสเจอกับ มาร์โก ฟู มือ 103 ของโลกจากฮ่องกง หรือ จิมมี่ ไวท์ มือ 73 ของโลกจากอังกฤษ ในรอบคัดเลือกรอบที่ 3 หากผ่านได้ก็มีสิทธิ์แย่งตั๋วเข้าครูซิเบิลกับ เสี่ยว กั๊วะ ตง มือ 37 ของโลกจากจีน

ด้าน "เอฟวัน" เทพไชยา อุ่นหนู มีลุ้นดวลกับ มาร์ค จอยซ์ มือ 58 ของโลกจากอังกฤษในรอบคัดเลือกรอบที่ 3 ถ้าผ่านได้ มีโอกาสแย่งตั๋วเข้าครูซิเบิลกับ ริคกี้ วัลเด้น มือ 24 ของโลกจากอังกฤษ 

ถิรพัฒน์ ณ ลำปาง