แมตช์ดังกล่าว อดีตแชมป์โลก 4 สมัย สำแดงความเหนือชั้น ด้วยการจัด 3 เซ็นจูรี่เบรก หลังกดไม้เดียว 104 แต้ม, 138 แต้ม และ 120 แต้ม ในเฟรมที่ 1, 2 และ 5 ตามลำดับ จนคู่แข่งหนุ่มจากแดนมังกรออกอาการแทงไม่ทัน

ความสำเร็จในครั้งนี้ ทำให้จอมคิววัย 39 ปีจากเมืองเลสเตอร์ คว้าเงินรางวัล 80,000 ปอนด์(ประมาณ 3.4 ล้านบาท) รับคะแนนสะสมอีก 70,000 คะแนน ยังคงรั้งอันดับ 2 ของโลกเหมือนดิมก็จริง ทว่าไล่จี้ รอนนี่ โอซัลลิแวน อันดับ 1 ของโลกจากชาติเดียวกันใกล้เข้ามาอีก เหลือเพียง 76,500 คะแนนเท่านั้น

นอกจากนี้ นับเป็นแชมป์รายการระดับเวิลด์แรงค์กิ้งทัวร์นาเมนต์ที่ 22 ของเจ้าตัวอีกด้วยและยังเป็นถ้วยแชมป์ใบที่ 2 ในฤดูกาลนี้อีกต่างหาก ต่อจากศึกอิงลิชโอเพ่น 2022 ถือเป็นการคืนฟอร์มเก่งกลับมาอีกครั้ง หลังฤดูกาลก่อน เขาไม่ได้สัมผัสกับโทรฟี่แชมป์เลยแม้แต่รายการเดียว 

อีกทั้งยังเป็นการเรียกความมั่นใจหวนกลับมาอย่างถูกที่ถูกเวลา ก่อนลุย 2 ศึกใหญ่ส่งท้ายในซีซั่นนี้ ได้แก่ทัวร์แชมเปี้ยนชิพ 2023 ในช่วงปลายเดือน และชิงแชมป์โลก 2023 ในเดือนหน้า

จากวีรกรรมการคว้าแชมป์ดับเบิลยูเอสทีคลาสสิคในคราวนี้ ยังทำให้ เซลบี้ มีคะแนนสะสมเฉพาะฤดูกาลปัจจุบัน(one year ranking) ขึ้นไปรั้งอันดับ 3 อีกด้วย 

ส่งผลให้ในรายการต่อไปอย่างทัวร์แชมเปี้ยนชิพ 2023 ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม - 2 เมษายนนี้ ณ เมืองฮัลล์ ประเทศอังกฤษ เขาจะเจอกับงานที่ไม่หนักมากนัก โดยจะโคจรมาดวลกับ ไรอัน เดย์ มือ 19 ของโลกจากเวลส์ ซึ่งมีคะแนนสะสมประเภท one year ranking อยู่ในอันดับที่ 6

สำหรับศึกทัวร์แชมเปี้ยนชิพ 2023 เป็นรายการที่คัดเอาผู้เล่นที่มีคะแนนสะสมเฉพาะฤดูกาลปัจจุบัน(one year ranking) ในอันดับ 1-8 เท่านั้นมาบรรเลงเพลงคิวกัน ซึ่งเมื่อจบศึกดับเบิลยูเอสทีคลาสสิค 2023 ทำให้ได้จอมคิวครบทั้ง 8 คนแล้ว โดยเรียงตามอันดับ one year ranking ดังนี้ 

1.มาร์ค อัลเลน มือ 3 ของโลกจากไอร์แลนด์เหนือ, 2.ฌอน เมอร์ฟี่ มือ 6 ของโลกจากอังกฤษ, 3.มาร์ค เซลบี้ มือ 2 ของโลกจากอังกฤษ, 4.อาลี คาร์เตอร์ มือ 12 ของโลกจากอังกฤษ, 5.ไคเรน วิลสัน มือ 7 ของโลกจากอังกฤษ, 6.ไรอัน เดย์ มือ 19 ของโลกจากเวลส์, 7.โรเบิร์ต มิลกินส์ มือ 16 ของโลกจากอังกฤษ และ 8.ติง จุ้น ฮุย มือ 23 ของโลกจากจีน

สายบน มาร์ค อัลเลน พบ ติง จุ้น ฮุย และ อาลี คาร์เตอร์ พบ ไคเรน วิลสัน ส่วนสายล่าง มาร์ค เซลบี้ พบ ไรอัน เดย์ และ ฌอน เมอร์ฟี่ พบ โรเบิร์ต มิลกินส์ 

ย้อนกลับมาที่ศึกดับเบิลยูเอสทีคลาสสิคกันอีกครั้ง จากวีรกรรมที่ ผาง จุ้น ซู สามารถคว้ารองแชมป์ในครั้งนี้มาครอง ถือครั้งแรกเลยทีเดียว ที่จอมคิววัย 23 ปีผู้นี้ ผ่านเข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศ ในรายการระดับเวิลด์แรงค์กิ้ง นับตั้งแต่เทิร์นโปรเล่นอาชีพเมื่อปี 2020 เป็นต้นมา

แม้จะได้เพียงรองแชมป์ แต่ผลงานการแทงของไอ้หนุ่มเลือดมังกรผู้นี้ ได้หักปากกาบรรดาเซียนทั้งหลายให้หน้าแหกไปตามๆกัน จนกลายเป็นนักแมนรูดาวรุ่งอีกคน ที่มีแนวโน้มว่า จะมีผลงานเฉิดฉายในภายภาคหน้าต่อไป หากไม่คิดออกนอกลู่นอกทางไปเหมือนดั่ง 10 เพื่อนร่วมชาติ ที่ตกเป็นข่าวฉาวเรื่องล้มสนุกเกอร์ไปเสียก่อน

และจากการคว้ารองแชมป์ดับเบิลยูเอสทีคลาสสิค 2023 ทำให้ "มังกรผาง" คว้าเงินรางวัลไป 35,000 ปอนด์(ประมาณ 1.5 ล้านบาท) พร้อมทั้งได้รับคะแนนสะสมเพิ่มอีก 29,500 คะแนน จนมีผลให้อันดับโลกของเขา ทะยานขึ้นถึง 11 ขั้น จากอันดับ 46 ขึ้นมารั้งอันดับ 35 ของโลกแล้ว ซึ่งถือเป็นอันดับโลกที่ดีที่สุดของเขาเลยทีเดียว

เหนือสิ่งอื่นใด แม้จะไปไม่ถึงตำแหน่งแชมป์ ทว่าการเอาชนะ แกรี่ วิลสัน มือ 17 ของโลกจากอังกฤษในรอบรองชนะเลิศแบบฉิวเฉียด 5-4 เฟรม ยังเสมือนเป็นการช่วยรุ่นพี่ร่วมชาติอย่าง ติง จุ้น ฮุย มือ 23 ของโลก ให้ได้สิทธิ์ไปแข่งขันในรายการทัวร์แชมเปี้ยนชิพ 2023 อีกด้วย

เพราะหากแมตช์ดังกล่าว แกรี่ วิลสัน เป็นฝ่ายชนะและเข้าชิงศึกดับเบิลยูเอสทีคลาสสิค 2023 นักสอยคิวที่เคยขับแท็กซี่เลี้ยงชีพผู้นี้ จะมีคะแนนสะสม one year ranking แซงขึ้นมาอยู่อันดับ 8 แล้วได้สิทธิ์แข่งขันทัวร์แชมเปี้ยนชิพ 2023 แทน ติง จุ้น ฮุย นั่นเอง โดยอันดับ one year ranking ของ ติง จุ้น ฮุย(อันดับ 8) ห่างจาก แกรี่ วิลสัน(อันดับ 9) เพียง 500 แต้มเท่านั้น

ถิรพัฒน์ ณ ลำปาง