เป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง เมื่อนักสอยคิวขวัญใจชาวไทยอย่าง "เอฟวัน" เทพไชยา อุ่นหนู มือ 45 ของโลก มิอาจคว้าแชมป์มาให้แฟนสอยคิวชาวไทยได้เชยชม หลังรอบชิงชนะเลิศ ต้านทานความยอดเยี่ยมของ "มังกรผงาด" ดิง จุนฮุย มือ 24 ของโลกจากจีนไม่ไหว แพ้ไป 6-8 เฟรม ในศึกสนุกเกอร์ 6 แดงชิงแชมป์โลก 2023 เมื่อวันเสาร์ที่ 11 มีนาคม 2566 ณ ธรรมศาสตร์ คอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ ภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต จังหวัดปทุมธานี
รายการนี้ ห่างหายจากปฏิทินคิวโลกไปนานกว่า 4 ปี เนื่องด้วยผลกระทบจากโควิด-19 พอได้กลับมาจัดคราวนี้ แฟนสนุกเกอร์ชาวไทยต่างคึกคักเป็นพิเศษ
แถมฝ่ายจัดยังสามารถดึงซูเปอร์สตาร์ตัวพ่อแห่งวงการอย่าง "เดอะร็อกเก็ต" รอนนี่ โอซุลลิแวน มือ 1 ของโลกจากอังกฤษ รวมไปถึง "เพชฌฆาตปืนกล" จัดด์ ทรัมป์ มือ 5 ของโลกจากชาติเดียว มาร่วมบรรเลงเพลงคิวด้วย
จึงทำให้การแข่งขันในแต่ละวัน มีสาวกกีฬาแม่นรูบ้านเรา เดินทางไปชมถึงขอบโต๊ะอย่างหนาตา เพื่อสัมผัสกับจอมคิวระดับโลกแบบตัวเป็นๆ
เรื่องนี้ ต้องยกความดีความชอบให้กับฝ่ายจัดการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย, จังหวัดปทุมธานี และเฟรชแอร์เฟสติวัล ที่นำโดยคุณวินิจ เลิศรัตนชัย เจ้าพ่องานอีเวนต์แห่งสยามประเทศ
เพราะนอกจากจะสามารถทาบทามนักสอยคิวชื่อดังอย่าง รอนนี่ มาแข่งขันในเมืองไทยเป็นครั้งแรกในรอบ 21 ปีแล้ว ยังจัดทัวร์นาเมนต์ได้ยิ่งใหญ่อลังการงานสร้าง ในแบบที่ไม่ใครคาดคิดมาก่อน
ในฮอลแข่งขัน นอกจากจะมีแสงสีเสียงมาสร้างบรรยากาศแล้ว การให้นักกีฬาเปิดตัวในอุโมงค์จอแอลอีดี ช่างดูยิ่งใหญ่ แทบไม่ต่างอะไรจากรายการชิงแชมป์โลก ในสังเวียนครูซิเบิลเธียร์เตอร์ เมืองเชฟฟิลด์ ประเทศอังกฤษเลย
หวังว่าครั้งต่อๆไป ประเทศไทยจะรักษามาตรฐานจัดศึกสอยคิว 6 แดงโลก ให้ดีแบบนี้ไปอีกเรื่อยๆ
และในศึก 6 แดงโลกในปีหน้าเป็นต้นไป ยังจะถูกยกระดับจากรายการประเภท non-ranking ให้กลายเป็นทัวร์นาเมนต์ระดับเวิลด์แรงค์กิ้ง ที่มีผลต่อคะแนนสะสมอันดับโลกอีกด้วย แถมยังเงินรางวัลรวม ยังจะถูกเพิ่มจาก 11 ล้านบาท ขึ้นไปเป็น 20 ล้านบาทอีกต่างหาก
นับเป็นข่าวดีของแฟนสนุกเกอร์บ้านเราเป็นอย่างยิ่ง ที่ประเทศไทย จะได้หวนเป็นเจ้าภาพจัดศึกสอยคิวในรายการระดับเวิลด์แรงค์กิ้งอีกครั้ง
สำหรับการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศที่ "เอฟวัน" ของไทยเราต้องพ่ายไปอย่างน่าเสียดาย ปฏิเสธไม่ได้ว่า ในเกมชี้ชะตาแชมป์แบบนี้ "มังกรติง" ควบคุมความตื่นเต้นได้ดีกว่า เนื่องจากเขาผ่านประสบการณ์เข้าชิงมามากกว่าเรานั่นเอง โดยในศึกชิงแชมป์โลก เขาก็เคยเข้าชิงมาแล้วเมื่อปี 2016 แม้จะได้เพียงรองแชมป์ก็ตาม
จอมแม่นรูจากมณฑลเจียงซู สำแดงให้เห็นว่า เมื่อคู่แข่งพลาดให้ง่ายๆ เขาสามารถสำเร็จโทษได้ทันที โดยไม่ปล่อยให้โอกาสทองมันหลุดลอยไป
การคว้าแชมป์ในคราวนี้ นอกจากจะทำให้ดิง จุนฮุยคว้าแชมป์ 6 แดงโลกเป็นครั้งที่ 2 ต่อจากปี 2016 แล้ว(จากการเข้าชิง 3 ครั้ง) ยังทำให้เขาคว้าเงินรางวัล 4.2 ล้านบาท(ประมาณ 100,800 ปอนด์)ไปครอง พร้อมถ้วยพระราชทานจากในหลวงรัชกาลที่ 10
นอกจากนี้ ยังเป็นถ้วยแชมป์ใบที่ 24 ในการเล่นอาชีพอีกด้วย แบ่งเป็นรายการระดับเวิลด์แรงค์กิ้ง 14 รายการ, minor-ranking 4 รายการ และ non-ranking อีก 6 รายการ
ด้าน "เอฟวัน" ที่เคยคว้าแชมป์รายการนี้เมื่อปี 2015 คว้าเงินรางวัลสำหรับตำแหน่งพระรองไป 1.3 ล้านบาท(ราวๆ 31,200 ปอนด์)
แม้จะไปไม่ถึงตำแหน่งแชมป์ ทว่าการคว้ารองแชมป์ดังกล่าว ก็น่าจะสร้างความมั่นใจให้กับเจ้าตัวได้ไม่น้อย ก่อนจะลงแข่งขันในรายการถัดไป อย่างศึกเวิลด์สนุกเกอร์ทัวร์คลาสสสิค 2023 ณ มอร์นิ่งไซด์อารีน่า เมืองเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษ ระหว่างวันที่ 16-22 มีนาคมนี้
- ถิรพัฒน์ ณ ลำปาง -