ในที่สุด "เพชฌฆาตปืนกล" จัดด์ ทรัมป์ นักสอยคิวมือ 4 ของโลกจากอังกฤษ ก็สามารถปลดล็อก คว้าแชมป์แรกในฤดูกาลนี้ได้เสียที
หลังจากเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา นักสอยคิวถนัดซ้ายวัย 33 ปีผู้นี้ จัดการคว้าแชมป์รายการใหญ่ระดับทริปเปิลคราวน์ทัวร์นาเมนต์ อย่างมาสเตอร์ส 2023 ณ อเล็กซานดราพาเลซ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ได้สำเร็จ ด้วยการพลิกสถานการณ์จากตามหลัง 7-8 เฟรม กลับมาคว้าชัยเหนือ “จรวดทางเรียบ” มาร์ค เจ วิลเลียมส์ มือ 7 ของโลกจากเวลส์ไปอย่างสนุก 10-8 เฟรม
อันที่จริงก่อนที่ ทรัมป์ จะประสบความสำเร็จ กับการชูถ้วยพอลฮันเตอร์โทรฟี่ขึ้นเหนือศีรษะในครั้งนี้ เขาเกือบจะจอดป้ายตั้งแต่รอบแรก(รอบ 16 คน) และรอบ 2(รอบ 8 คน)อยู่แล้ว
เนื่องจากทั้งสองแมตช์ดังกล่าว เจ้าตัวแทงได้ทรงอย่างแบดจริงๆ ทั้งในรอบ 16 คนที่โดน ไรอัน เดย์ มือ 15 ของโลกจากเวลส์ขึ้นแท่นนำ 3-5 เฟรม แต่ก็พลิกกลับมาคว้าชัยอย่างหวุดหวิดได้ 6-5 เฟรม
ส่วนในรอบ 8 คนก็ถูก แบร์รี่ ฮอว์กินส์ มือ 13 ของโลกจากอังกฤษขึ้นแท่น 4-5 เฟรม ก่อนจะโกงความตายอีกแมตช์ ด้วยการพลิกกลับมาชนะไปอย่างระทึกในสกอร์เดียวกัน
พอผ่าน 2 เกมอันตรายมาได้ สถานการณ์เริ่มดีขึ้น หลังรอบรองชนะเลิศ ทรัมป์ ไล่กะซวก สจวร์ต บิงแฮม มือ 14 ของโลกจากอังกฤษไปอย่างขาดลอย 6-1 เฟรม ก่อนที่รอบชิงชนะเลิศจะเอาชนะ มาร์ค เจ วิลเลียมส์ ไป 10-8 เฟรม ดั่งที่ได้กล่าวข้างต้น
ความสำเร็จในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นแชมป์มาสเตอร์สหน 2 ต่อจากปี 2019 แล้ว ยังเป็นถ้วยแชมป์รายการใหญ่ระดับทริปเปิลคราวน์ใบที่ 4 ของ จัดด์ ทรัมป์ อีกด้วย(ต่อจากยูเคแชมเปี้ยนชิพ 2011, มาสเตอร์ส 2019 และแชมป์โลก 2019)
อีกทั้งยังทำให้จอมคิวขาวซิ่งดุจสายฟ้าฟาดผู้นี้ คว้าเงินรางวัลก้อนโตมูลค่า 250,000 ปอนด์ หรือประมาณ 10 ล้านบาทไปครอง พร้อมกับได้สิทธิ์ดวลคิวในศึกแชมเปี้ยนออฟแชมเปี้ยนส์ 2023 หรือแชมป์เหนือแชมป์ในซีซั่นหน้าเป็นที่แน่นอนแล้ว
ด้าน มาร์ค เจ วิลเลียมส์ ที่กำลังจะเข้าสู่วัย 48 ปีในอีก 2 เดือนข้างหน้า แม้จะคว้ารองแชมป์ในครั้งนี้ แต่ก็ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2003 ที่เขาผ่านเข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศ ของศึกมาสเตอร์สอีกครั้ง
อดีตแชมป์มาสเตอร์ส 2 สมัยผู้นี้(ปี 1998 และ 2003) มีโอกาสที่จะคว้าแชมป์สมัยที่ 3 เช่นกัน หลังพลิกสถานการณ์จากตามหลัง 4-6 เฟรม กลับมาแซงนำ 8-7 เฟรม
ในช่วงนั้น โมเมนตัมเกมทำท่าว่าจะกลับมาทางกับฝั่ง มาร์ค เจ อยู่แล้ว เนื่องจากเขาออกคิวได้อย่างมั่นใจ เล่นเอา จัดด์ ทรัมป์ ออกอาการสะดุ้งอย่างชัดเจน จนพลาดลูกง่ายหลายช็อต
อย่างไรก็ตาม ด้วยวัยที่สดและหนุ่มกว่าถึง 14 ปี จึงทำให้ จัดด์ ได้เปรียบในเรื่องสภาพร่างกาย ก่อนจะบดคว้าชัยในช่วงท้ายไปในที่สุด 10-8 เฟรม
การคว้าตำแหน่งพระรองในครั้งนี้ ได้ทำให้ มาร์ค เจ วิลเลียมส์ รับเงินรางวัล 100,000 ปอนด์(ราวๆ 4 ล้านบาท)
นอกจากนี้ทั้ง จัดด์ ทรัมป์ กับ มาร์ค เจ วิลเลียมส์ รวมไปถึง ออสเซน วาฟาอี มือ 19 ของโลกจากอิหร่าน ยังได้โบนัสเพิ่มอีกคนละ 5,000 ปอนด์(ประมาณ 2 แสนบาท) หลังจอมคิวทั้ง 3 ต่างทำเบรกสูงสุดในศึกมาสเตอร์สหนนี้ ด้วยผลงาน 143 แต้มเท่ากัน
จึงทำให้เงินรางวัลสำหรับเบรกสูงสุดมูลค่า 15,000 ปอนด์(ประมาณ 6 แสนบาท) ต้องโดนหั่นเป็น 3 ส่วนนั่นเอง
ถิรพัฒน์ ณ ลำปาง