อเล็กซานเดอร์ อัลบอน อังศุสิงห์ นักแข่งฟอร์มูล่า วัน ลูกครึ่งไทย-อังกฤษ เข้าคารวะ นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ที่ทำเนียบรัฐบาล พร้อมประกาศสนับสนุนการจัด Formula 1 ในประเทศไทย หวังสร้างแรงบันดาลใจและเปิดโลกมอเตอร์สปอร์ตให้คนไทยรู้จักมากขึ้น
อเล็กซานเดอร์ อัลบอน อังศุสิงห์ นักแข่งรถฟอร์มูล่า วัน ชาวไทย ได้เข้าเยี่ยมคารวะนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เมื่อช่วงกลางวันของวันอังคารที่ 1 เม.ย.68
สำหรับอเล็กซานเดอร์ อัลบอน อังศุสิงห์ ลูกครึ่งไทย-อังกฤษ ในวัย 29 ปี ซึ่งถือเป็นนักขับชาวไทยคนที่ 2 ที่เคยเข้าร่วมการแข่งขันศึกรถสูตรหนึ่งชิงแชมป์โลก ต่อจากพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพีรพงศ์ภาณุเดช หรือพระองค์พีระ โดยในฤดูกาล 2025 เปิดฉากการแข่งขันรถฟอร์มูล่า วัน ที่สนามอัลเบิร์ต พาร์ค ประเทศออสเตรเลีย และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมโดยจบในอันดับ 5
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ไทยจะเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟอร์มูล่า วัน ในปี 2027 ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนว่าจะจัดในพื้นที่ใด เนื่องจากต้องดูความเหมาะสมของพื้นที่ ขณะที่แนวคิดการจัดแข่งขัน F1 บริเวณสวนจตุจักร หลายฝ่ายมองว่าควรจะทำการศึกษา เพื่อส่งให้สหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ (FIA) พิจารณา
โดย นางสาวแพทองธาร ได้กล่าวชื่นชม ว่า "อเล็กซ์ที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม และถือเป็นแรงบันดาลใจสำคัญให้กับเยาวชนไทยในวงการกีฬายานยนต์ และการที่ อเล็กซ์ใช้สัญชาติไทยและธงชาติไทยในการแข่งขัน ได้สร้างความภาคภูมิใจให้แก่คนไทยทั้งประเทศ"
นายกรัฐมนตรียังเผยถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการผลักดันนโยบายยกระดับประเทศไทยสู่การเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟอร์มูล่า วัน ในอนาคต และความตั้งใจของรัฐบาลที่มีเป้าหมายชัดเจนที่จะใช้กีฬาระดับโลกอย่างเอฟวัน เป็นเครื่องมือยกระดับภาพลักษณ์ประเทศ พร้อมเปิดโอกาสให้เยาวชนไทยได้สัมผัสประสบการณ์การแข่งขันระดับโลก ซึ่งจะเป็นบันไดสำคัญในการสร้างนักกีฬาไทยให้ก้าวสู่เวทีโลกในอนาคต
ทางด้านอเล็กซ์ อัลบอน ได้กล่าวว่า การกลับมาเยี่ยมเยือนบ้านเกิดในครั้งนี้รู้สึกได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากคนไทยและรัฐบาล พร้อมขอมอบกำลังใจให้ทุกคนผ่านพ้นในช่วงยากลำบากจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวนี้ไปได้ และ ผมรู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นตัวแทนคนไทยในการแข่งขันรถ Formula 1 อีกทั้งยินดีอย่างยิ่งที่ได้มีบทบาทสำคัญในการเป็นแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนไทย รวมทั้งหวังว่าจะได้ร่วมกับรัฐบาลเผยแพร่และสร้างการรับรู้ด้านการแข่งรถให้กับคนไทยมากยิ่งขึ้น