"ก้อง สมเกียรติ" ผ่านฉลุยโมโตจีพีเรซแรกเจ้าตัวพร้อมเรียนรู้และทำงานหนักขึ้น

"ก้อง สมเกียรติ" ผ่านฉลุยโมโตจีพีเรซแรกเจ้าตัวพร้อมเรียนรู้และทำงานหนักขึ้น
ศึกรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก หรือ โมโตจีพี ฤดูกาล 2025 ผ่านพ้นไปแล้ว เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยสนามเปิดฤดูกาลปีนี้ ประเทศไทยได้รับเลือกให้รับหน้าที่จัดการแข่งขัน ซึ่งก็ยังใช้สนามแข่งขันเดิม อย่าง ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต บุรีรัมย์ ในการดวลความเร็ว

การแข่งขันเรซแรกของโมโตจีพีจบลงด้วยความสำเร็จและรอยยิ้มของ มาร์ค มาร์เกซ แชมป์โลกในรุ่นโมโตจีพี 6 สมัย ที่แซงเอาชนะน้องชาย อเล็กซ์ มาร์เกซ ได้ในช่วง 3 รอบสุดท้ายของสนาม ก่อนจะประเดิมชัยชนะแรกในฤดูกาลนี้ไปครอง ด้วยเวลา 39 นาที 37.244 วินาที  พร้อมกับคะแนนสะสมในตำแหน่งแชมป์อีก 25 แต้ม

โดย มาร์เกซ ผู้พี่ยังได้โบนัสจากการคว้าแชมป์ในการแข่งขันรอบสปรินท์เรซ เมื่อช่วงบ่ายวันเสาร์ ที่ 1 มี.ค.68 ด้วย ทำให้เจ้าตัวเบิ้ลแชมป์ตั้งแต่สนามเปิดฤดูกาล และมีคะแนนนำเป็นอันดับ 1 ในฐานะนักแข่ง ที่ 37 คะแนน

หนึ่งในไฮไลต์ของการแข่งขันในปีนี้ที่แฟนๆกีฬาคนไทยเฝ้าชมและเฝ้าติดตาม คือการประเดิมสนามในรุ่นพรีเมียร์คลาส หรือรุ่นโมโตจีพี ของ "ก้อง" สมเกียรติ จันทรา นักบิดวัย 26 ปี จากชลบุรี ซึ่งปีนี้ได้ขึ้นมาขี่ในรุ่นใหญ่กับ อิเดมิตสึ ฮอนด้า แอลซีอาร์

ฝันที่เป็นจริงของ สมเกียรติ มาพร้อมกับความท้าทายและงานสุดหิน เพราะเพียงแค่สนามแรก เจ้าตัวก็ต้องเจอกับปัญหาและอุปสรรคที่ท้าทายความสามารถไม่น้อย โดยเฉพาะการรอบของการซ้อม สมเกียรติ พลาดไปขับบังไลน์ของ มาร์ก มาร์เกซ ซึ่งก็เป็นผลให้เจ้าตัวถูกลงโทษ ด้วยการลดกริดสตาร์ท 3 กริด ซึ่งก็ทำให้เจ้าตัวถูกลดตำแหน่งสตาร์ทลงไปอยู่ในลำดับสุดท้าย ในรอบแข่งขันจริง

ในวันแข่งขันจริง ช่วงบ่ายวันอาทิตย์ ที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมา สมเกียรติ พยายามต่อสู้อย่างสุดความสามารถ โดยแม้จะต้องออกสตาร์ทในตำแหน่งที่ 22 แต่ฮึดแซงขึ้น และพารถเข้าเส้นชัยในอันดับที่ 18 ได้สำเร็จ โดยทำเวลาตามหลังแชมป์ 31.480 วินาที ทำให้ยังไม่มีคะแนนในสนามนี้ ส่วนในการแข่งขันรอบสปรินท์เรซนั้น "ก้อง" ที่ออกสตาร์ทจากกริดที่ 21 จบด้วยการคว้าอันดับ 19

หลังจบการแข่งขัน สมเกียรติ เปิดใจว่า สำหรับ 26 รอบแรก กับการแข่งขันในระดับโมโตจีพี ถือเป็นการเรียนรู้ที่ดีมาก ซึ่งตนได้เรียนรู้ร่างกายตัวเองว่าใน 26 รอบร่างกายของเราเป็นอย่างไร ทนไหวหรือไม่ ได้เรียนรู้ว่าเราต้องไปเพิ่มในส่วนไหน

"ตอนที่แข่ง 26 รอบ ผมขับตาม ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร่ อดีตแชมป์โลก แล้วก็ มาเวอร์ริค บีญาเลส ซึ่งเราก็ได้รู้เรื่องการใช้ยาง สิ่งที่เห็นได้ชัดว่าอาจจะพลาดไปก็คือเรื่องของการใช้ยาง ซึ่งผมไปบู๊ในช่วงแรกเยอะ ทำให้ในช่วงกลางเกมและท้ายเกม ยางเริ่มหมด ซึ่งก็ทำให้ในช่วงกลางเกมเริ่มจะเกาะกลุ่มข้างหน้าไม่ได้อย่างที่หวัง ช่องว่างในช่วงหลังจากกลางเกมจึงห่างออกไปหน่อย อย่างไรก็ตาม ก็ทำให้ผมได้เรียนรู้ว่า จะต้องมาปรับสไตล์ในการขี่ใหม่ด้วย และต้องเรียนรู้เรื่องของการใช้ยางให้มากขึ้น"

"ในจุดเบรค ช่วงแรกเบรคเย็น ก็ไม่มีปัญหา แต่พอเริ่มร้อนก็เริ่มยากขึ้น มีบางจุดที่เราหยุดรถไม่ได้ ทำให้ต้องไปเพิ่ม เอ็นจิ้น เบรค ทำให้มีปัญหาในช่วงการสไลด์ สำหรับสนามแรก ไทยจีพี ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีครับ แม้จะเก็บคะแนนไม่ได้ แต่โดยรวมถือว่าพอใจกับผลงาน ก่อนเริ่มต้นคิดว่าจะต้องตามกลุ่มนำห่างแน่เลย แต่พอเอาเข้าจริงก็ตามกลุ่มหน้าไม่ไกลกันมาก ส่วนการทำงานกับรถค่อยข้างดีมากๆครับ"

"ก้อง" ทิ้งท้ายว่า นักแข่งในโมโตจีพีแต่ละคนฝีไม้ลายมือไม่ธรรมดา และทุกคนคือของจริงที่เป็นระดับโลกทั้งนั้น สำหรับตนที่คิดเอาไว้ก่อนลงไปแข่งขัน คิดว่าอาจจะมีช่วงเวลาห่างที่ค่อนข้างเยอะ แต่พอลงไปแข่งขันจริงและแข่งจนจบเรซได้ ก็เห็นว่าช่องว่างของเวลากับกลุ่มไม่ได้ห่างกันเยอะอย่างที่คิดเอาไว้ ซึ่งสำหรับตนก็ถือเป็นการบรรลุเป้าอย่างหนึ่งในสนามแรก ดังนั้นสนามหน้าก็จะต้องไปสู้และไปทำในเป้าหมายอื่นให้ดีขึ้นกันต่อไป

สำหรับการแข่งขันศึกโมโตจีพี 2025 สนามที่สองจะโยกไปทำการแข่งขันกันในดินแดนอเมริกาใต้ โดยสนามที่สองจะแข่งขันกันที่อาร์เจนตินา ระหว่างวันที่ 14-16 มี.ค.นี้


ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport