"ก้อง" ร่วมทีมกับอิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย ในปี 2019 ก่อนจะคว้าชัยชนะครั้งแรกในศึก กรังด์ปรีซ์ ออฟ อินโดนีเซีย ปี 2022 กลายเป็นนักแข่งชาวไทยคนแรกที่คว้าชัยชนะในระดับโมโตทู ก่อนจะสร้างผลงานยอดเยี่ยมต่อเนื่อง และคว้าชัยชนะอีกหนในศึก กรังด์ปรีซ์ ออฟ เจแปน 2023 รวมแล้วเจ้าตัวคว้าชัยชนะ 2 ครั้ง รวมถึงขึ้นโพเดี้ยม 6 ครั้ง และยังได้โพล โพซิชั่นอีก 2 หน ในการลงแข่งขันโมโตทู

ฝีมือการขับที่ไม่ธรรมดา บวกกับผลงานตลอดการลงแข่งขันในโมโตทู ทำให้ในเวลาต่อมาเจ้าตัวได้รับโอกาสสำคัญขึ้นมาแข่งขันในรุ่นสูงสุดของการแข่งขันศึกรถจักรยานทางเรียบชิงแชมป์โลก หรือ "โมโต จีพี" กับทีม ฮอนด้า แอลซีอาร์ (Honda LCR) โดยเจ้าตัวจะได้เริ่มต้นความท้าทายครั้งนี้ตั้งแต่ฤดูกาล 2025 เป็นต้นไป โดยเซ็นสัญญากับทีม 2 ฤดูกาล

แน่นอนว่า การเลื่อนชั้นในครั้งนี้ทำให้ "ก้อง" เป็นนักแข่งชาวไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ ที่ได้ลงแข่งขันศึกมอเตอร์ไซค์ทางเรียบชิงแชมป์โลกรุ่นพรีเมียร์คลาส อย่าง "โมโตจีพี" แบบเต็มฤดูกาลด้วย ซึ่งในรุ่นนี้เจ้าตัวจะได้ปะทะฝีมือกับนักบิดตัวตึง ระดับโลกหลายคน

นักบิดวัย 26 ปี จากชลบุรี เปิดใจกับทีมข่าวกีฬาสยามและสยามสปอร์ต ถึงโอกาสและความท้าทายใหม่ๆที่รออยู่ว่า  ในช่วง 2 ปีแรกอยากจะเรียนรู้กับรถแข่ง เพราะเป็นรุ่นที่ใหญ่ที่สุด และนักแข่งรุ่นนี้ทุกคนค่อนข้างเร็วกันมากตัวเองก็จะพยายามเก็บรายละเอียดรถแข่ง และทีมแอลซีอาร์ เนื่องจากทุกอย่างใหม่หมดซึ่งตนก็เหมือนไปสร้างครอบครัวใหม่ในรุ่นโมโตจีพี

"ตอนช่วงที่ทดสอบรถใหม่ในช่วงปิดฤดูกาลที่ผ่านมา ในช่วงครึ่งวันแรกผมรู้สึกว่าปรับตัวค่อนข้างยาก เพราะว่ารถค่อนข้างแรงครับ แล้วก็ระบบของรถก็เยอะค่อนข้างเยอะ ซึ่งมันซับซ้อนมากๆในการใช้ และมีหลายจุดที่ต้องปรับตัว อย่างไรก็ตามผมเองก็พยายามฝึกใช้ พยายามใช้บ่อยๆจนเราเกิดความเคยชิน ซึ่งพอมาถึงช่วงบ่ายวันเดียวกันที่ทำการทดสอบ ก็เหมือนว่าผมเองเริ่มมีความคุ้นชินมากขึ้น ซึ่งจากนี้จะต้องพยายามใช้งานให้คล่องมากที่สุดครับ"

"ช่วงท้ายปี 2024 ผมต้องเก็บแรงแล้วก็เก็บพลังทุกอย่างครับ ตอนนี้กลับมาไทยก็อยู่กับครอบครัวครับ เพราะว่าเกือบทั้งปีนี้ ผมอยู่ที่ยุโรปค่อนข้างเยอะ ส่วนใหญ่ก็จะอยู่สเปนไม่ค่อยได้กลับบ้าน ก็จะมีเวลาก็คือช่วงนี้แหละครับ ช่วงปีใหม่ ที่จะได้อยู่กับครอบครัว ซึ่งผมก็ตั้งใจจะอยู่กับครอบครัวให้มากที่สุดครับ"

"สำหรับปี 2025 ยังมีงานยากที่ผมต้องเจอครับ ผมเองช่วงไม่มีแข่ง ก็หยุดซ้อมไม่ได้ครับ เพราะว่าพอผมรู้สึกว่าทุกครั้งที่เราหยุดซ้อมหรือหยุดออกกำลังกาย พอเวลาที่เรามาออกกำลังกายหรือซ้อมรถใหม่ มันเหมือนเราเริ่มนับหนึ่งใหม่ ตอนนี้ผมก็พยายามซ้อมรถ หรือว่า พยายามออกกำลังกาย เล่นยิม ปั่นจักรยานอยู่ตลอดครับ เพื่อให้ร่างกายเราคงที่อยู่ตลอดครับ"

สมเกียรติ ยังเผยอีกว่า ในช่วงของการลงเทสต์รถในรุ่นโมโตจีพี ที่บาร์เซโลน่า ทางทีมยังไม่ได้บอกอะไรมาก แต่ให้เน้นหนักในเรื่องการการทำร่างกาย ซึ่งตนก็ยังไม่ได้คุยกับทีมในรายละเอียดมากนัก ซึ่งงานและรายละเอียดทั้งหมด น่าจะเริ่มคุยกันกับทีมช่วงในช่วงเดือนม.ค.2025

"ช่วงแรกของซีซั่นหน้า ปี 2025 อาจจะเป็นช่วงที่ผมต้องปรับตัวค่อนข้างเยอะพอสมควร สนามแรกของเราจะเริ่มที่บุรีรัมย์ครับ อยากให้ทุกคนไปเชียร์กันเยอะๆครับ ผมก็จะสู้แล้วก็ทำอย่างเต็มที่ครับ ผมเข้าใจว่ามันยาก ยากแน่นอนแต่ก็..ถ้าทุกคนไปเชียร์ไปซัพพอร์ตผมเยอะๆผมว่าผมอาจจะทำได้ดีในช่วงการแข่งขันที่บุรีรัมย์ครับ" ก้อง ทิ้งท้าย

สำหรับ สมเกียรติ จันทรา  จะประเดิมแข่งขันในรุ่นโมโตจีพีเป็นครั้งแรกในชีวิตในสนามโฮมเรซ ในรายการ พีที กรังด์ปรีซ์ ออฟ ไทยแลนด์ ซึ่งเป็นสนามที่ 1 สนามเปิดฤดูกาล 2025 ระหว่างวันที่ 28 ก.พ. - 2 มี.ค. 2568 ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์