ไทยฮอนด้า พาชมความยิ่งใหญ่สุดอลังการ ในงานแสดงรถจักรยานยนต์ระดับโลก! Milan Motorcycle Shows หรือ EICMA 2022 ที่กรุงมิลาน ประเทศอิตาลี มีไฮไลท์ที่น่าสนใจจากรถรุ่นใหม่ๆ ที่เปิดมาเปิดตัวในงานนี้โดยเฉพาะ New XL750 Transalp และ New CL500, พร้อมกับเผยโฉม New CB750 Hornet
บริษัท ไทยฮอนด้าจำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย นำโดย มร.โทชิอากิ ทานากะ กรรมการบริหาร พร้อมด้วยทีมผู้บริหาร พาคณะสื่อมวลชนเหินฟ้าสู่ประเทศอิตาลี ชมความยิ่งใหญ่ของบูธรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในงาน EICMA 2022 ซึ่งถือเป็นงานจัดแสดงรถจักรยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่กรุงมิลาน ประเทศอิตาลี และได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมงานอย่างล้นหลาม
ภายในงาน EICMA ฮอนด้ามอเตอร์ยุโรป เปิดตัวบิ๊กไบค์รุ่นใหม่มีไฮไลท์ที่น่าสนใจ ประกอบด้วย New XL750 Transalp, New CL500, New CMX1100T Rebel, Forza350, Forza125 พร้อมกับจัดแสดง New CB750 Hornet อีกหนี่งรุ่นที่เปิดตัวไปได้ไม่นานเมื่อช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมาในงาน INTERMOT ที่ประเทศเยอรมนี พร้อมกันนี้ฮอนด้ายังได้เปิดตัว EM1 e: รถจักรยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของฮอนด้าที่จะวางจำหน่ายในตลาดยุโรปอีกด้วย
เริ่มจากรุ่นไฮไลท์ XL750 Transalpออกแบบโดยศูนย์วิจัยและพัฒนา R&D ของฮอนด้ากรุงโรม ประเทศอิตาลี สืบทอดจิตวิญญาณอันโดดเด่นของ Transalp ในอดีต โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ มาพร้อมกับไฟ LED รอบคัน ตัวรถออกแบบเพื่อรองรับการขับขี่หลากหลายรูปแบบ เปี่ยมด้วยสมรรถนะจากขุมพลังเครื่องยนต์ 755 cc สองสูบเรียง ให้แรงบิดที่ทรงพลังในช่วงรอบต่ำถึงกลาง สามารถเลือกปรับโหมดการขับขี่ได้ถึง 5 โหมด พร้อมระบบควบคุม HSTC (Honda Selectable Torque Control)
XL750 ใช้เฟรมแบบไดมอนด์น้ำหนักเบา ให้ความคล่องตัวสูง มั่นใจในทุกสภาวะการขับขี่ ทั้งบนทางเรียบ และทางฝุ่น รองรับแรงกระแทกด้วยโช้กหน้าโชว่า 43mm และโช้คหลังแบบ Pro-Link พร้อมล้อหน้าขนาด 21 นิ้วที่จับคู่กับล้อหลังขนาด 18 นิ้ว พร้อมระบบเบรก ABS ที่สามารถเลือกปิดการใช้งานที่ล้อหลังได้
XL750 Transalp ติดตั้งหน้าจอสี TFT ขนาด 5 นิ้ว สามารถเชื่อมต่อได้ทั้ง Android และ iOS ผ่านระบบสั่งการด้วยเสียงจากสมาร์ทโฟน (HSVCs) Honda Smartphone Voice Control system พร้อมด้วยไฟฉุกเฉิน (Emergency Stop Signal) ให้เพื่อนร่วมทางรับรู้เมื่อเบรกกระทันหัน
ต่อด้วยรุ่น CL500 ได้แรงบันดาลใจจาก CL Series ในยุคทศวรรษที่ 60 และ 70 CL500 จึงเป็นรถจักรยานยนต์ที่ผสมผสานระหว่างเสน่ห์เรโทรกับความไฮเทคได้อย่างลงตัวในสไตล์ Casual Scrambler สำหรับคนรุ่นใหม่ในเมืองใหญ่ที่ต้องการความโดดเด่น มีดีไซน์ที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ของผู้ขับขี่ คล่องตัวทั้งการเดินทางในชีวิตประจำวัน และท่องเที่ยวสุดสัปดาห์หรือแม้แต่ทางฝุ่นในบางเส้นทาง CL500 มาพร้อมเครื่องยนต์สองสูบ 471cc ให้อัตราเร่งฉับไว ออกตัวได้เร็ว เส้นสายรอบคันสวยงาม ไฟหน้า LED ไฟเลี้ยว LED แฮนด์ยกสูง ระบบกันสะเทือนประกอบด้วยโช้คหน้าขนาด 41 มม. พร้อมยางหุ้ม และโช้คหลังแบบปรับได้ ล้อหน้าขนาด 19 นิ้วและด้านหลังขนาด 17 นิ้ว ผสานกันเป็นลุคใหม่แตกต่างอย่างมีสไตล์
ส่วนรุ่น CB750 Hornet เฉียบคม ร่วมสมัย ผสมผสานเทคโนโลยีเข้ากับความงดงามของเฟรมและตัวรถ พร้อมถังน้ำมันทรงปีกแมลงอันเป็นเอกลักษณ์ เน้นย้ำบุคลิกสปอร์ตของ Hornet ดุดัน สมรรถนะสูง ด้วยเครื่องยนต์สองสูบ 755cc มาพร้อมแรงบิดอันหนักหน่วง ให้อัตราเร่งที่เพลิดเพลินในทุกสถานการณ์การขับขี่ เฟรมน้ำหนักเบาแบบ Diamond Frame โช้คหน้าแบบหัวกลับ พร้อมโช้คหลังแบบ Pro Link มีระบบขับขี่ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกชุดค่าผสมที่ต้องการได้เอง ตามสไตล์การขับขี่ของแต่ละคน
CB750 Hornet มาพร้อมหน้าจอสี TFT ขนาด 5 นิ้ว ซึ่งให้ข้อมูลสำคัญอย่างชัดเจน เชื่อมต่อได้ด้วย HSVCs (Honda Smartphone Voice Control system) ระบบสั่งงานด้วยเสียง และมีระบบหยุดฉุกเฉินหรือ Emergency Stop System เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ นับเป็นการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของ Hornet ในรูปลักษณ์ที่จะเปิดประวัติศาสตร์บทใหม่ให้วงการรถจักรยานยนต์แฟนๆ อดใจรอได้เลย เพราะฮอนด้าเตรียมมีแผนจะทำตลาดบิ๊กไบค์ในไทยปีหน้า
นอกจากนี้ยังมีโมเดล EM1 e: เป็นรถจักรยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกที่ฮอนด้าจะเปิดตัวในยุโรป หลังจากที่ฮอนด้ามอเตอร์ประกาศแผนที่จะเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าไม่น้อยกว่า 10 รุ่นทั่วโลกภายในปี 2025 นับเป็นก้าวแรกที่สำคัญของฮอนด้าสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนEM ย่อมาจาก Electric Moped มีกลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มองหาวิธีเดินทางในเมืองที่ง่ายและสนุกในคราวเดียวกัน รถรุ่นนี้เป็นรถคอมแพคพื้นเรียบ (Flat-Floored) ที่มาพร้อมกับ Smoothed Styling แตกต่างและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร
EM1 e: ถูกออกแบบมาสำหรับการเดินทางระยะสั้นในเมือง และทำให้การเดินทางไปทำงานหรือเรียนนั้นมีประสิทธิภาพ เงียบ และไม่มีมลพิษใดๆ ทำให้รถ EM1 e: กลมกลืนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตการเดินทางของคนเมือง
แบตเตอรี่ของรถ EM1 e: เป็นแบตเตอรี่ Honda Mobile Power Pack e: มีความทนทาน และคุณภาพ จุดเด่นของ Mobile Power Pack (MMP) ถูกออกแบบให้ทนทานต่อสภาพอากาศที่หลากหลาย ทนความชื้น แรงกระแทก และการสั่นสะเทือนนับว่าเป็นก้าวที่สำคัญที่น่าจับตาสำหรับแบรนด์ผู้นำตลาดโลกอย่างฮอนด้า