ในสุดสัปดาห์นี้จะมีการแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก "โมโต จีพี 2023" รายการ โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2023 ที่จะเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 27-29 ต.ค.66 นี้ ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์
แต่ก่อนการแข่งขันนั้น ทางสยามสปอร์ต ได้มีโอกาสไปสัมภาษณ์ มาร์ค มาร์เกซ เจ้าของแชมป์โลก 8 สมัย และ อเล็กซ์ มาร์เกซ แชมป์โลกโมโต ทู (Moto2) ในเรื่องราวต่างๆทั้งผลงานในและนอกสนามกัน
ซึ่ง ทั้งมาร์ค และ มาเกซ ได้มาทำกิจกรรมชาเลนจ์ Thailand Balance Challenge ครั้งนี้ ซึ่งทางเรดบูลล์ ได้จัดขึ้นที่ไร่สวนปลูก ซึ่งใกล้กับสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ก่อนการแข่งขันโมโตจีพี ในศึกโออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2023 ที่จะเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 27-29 ต.ค.66 นี้
โดยมาร์ค มาร์เกซ แชมป์โลกโมโตจีพี (MotoGP) 8 สมัย และอเล็กซ์ มาร์เกซ น้องชาย ดีกรีแชมป์โลกโมโตทู (Moto2) ได้โชว์ลีลาการขี่รถมอเตอร์ไซค์ สุดโลดโผนแสดงทักษะการทรงตัวที่มีตะกร้าไม้ไผ่กว่า 200 ใบ บรรทุกอยู่ด้วย
มาร์ค มาร์เกซ ได้ออกมาเปิดใจหลังจากทำชาเลนจ์ครั้งนี้ว่า "การมาทำกิจกรรมนี้ เป็นการเอ็นจอย และทำชาเลนจ์กับทาง เรดบูลล์ ซึ่งเป็นสปอนเซอร์หลักของ เรปโซล ฮอนด้า และมาแข่งขันกับ อเล็กซ์ น้องชายของเขาด้วย " ด้าน อเล็กซ์ กล่าวว่า ผมสนุกมากกับ กิจกรรมนี้ที่เรดบูลล์ ได้เตรียมไว้ให้ แล้วก็มาแข่งชาเลนจ์มอเตอร์ไซค์กัน
มาร์ค ยังกล่าวต่อในส่วนผลงานของตัวเองอีกว่า "ผลงานตลอด 16 สนามที่ผ่านมาในปีนี้ เป็นอย่างไรบ้าง ? มาร์ค บอกว่า ปีนี้ผมมี เพอร์ฟอร์แมนซ์ ที่ดีพอสมควรนะ และได้ทำในสิ่งที่ผมต้องการ แล้วผมจะลองอีกครั้งในเรซที่บุรีรัมย์ เพราะผมมีความทรงจำที่ดีมากกับการแข่งขันในสนามแห่งนี้ในปี 2019 ที่ผมสามารถคว้าแชมป์ไปได้สำเร็จ"
"ผมมีความทรงจำที่ดีมากๆ กับการแข่งขันเมื่อปีที่แล้ว มันเป็นชัยชนะที่ยอดเยี่ยมที่สุดของผมเลย แล้วก็ได้เจอแฟนคลับผมในประเทศไทย คนเมืองบุรีรัมย์เป็นคนที่น่ารักแล้วก็สนุกมากๆ แล้วผมก็อยากจะชนะอีกครั้งในปีนี้ให้ได้ ตลอด 3-4 ซีซั่นที่ผ่านมา ผมมีประสบการณ์และ ทำผลงานได้ไม่ดีนักเพราะอาการบาดเจ็บที่หนักหน่วง แต่ก็หวังว่าผมจะกลับมาสู้อีกครั้งเพื่อขึ้นไปอยู่อันดับท็อปให้ได้ และจะทำผลงานให้ดีที่สุดในช่วงที่เหลือของซีซั่นนี้ แม้จะเป็นเรื่องยากก็ตาม"
แต่ก็หวังที่จะทำผลงานให้ดีที่สุดในช่วงที่เหลือของซีซั่นนี้ แล้วผมอยากจะมีความสุขกับการแข่งขันครั้งนี้ และอยากจะมีความทรงจำที่ดีตลอด ก่อนที่จะเจอกับความท้าทายใหม่ในฤดูกาลหน้า กับการย้ายจากทีมเรปโซล ฮอนด้า ที่อยู่ด้วยมา 11 ปี ไปอยู่กับต้นสังกัดใหม่อย่างทีมเกรซินี”
ด้านอเล็กซ์ บอกว่า "ผมพึ่งมาจากการแข่งขันที่ อินโดนีเซีย และ ออสเตรเลีย จากการแข่งขันสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ผลงานค่อยๆดีขึ้น จากการฟื้นตัวจากการผ่าตัด ผมรู้สึกดีขึ้นทุกวัน จะพยายามฟิตร่างกายให้เร็วที่สุด และผมความพร้อมที่จะได้ลงแข่งขันในศึกไทยแลนด์ โออาร์ กรังด์ปรีซ์ 2024 นี้ ด้าน อเล็กซ์ ยังบอกอีกว่า การแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตในทวีปเอเชีย ทุกอย่างนั้นขึ้นอยู่กับ "แพชชั่น" ล้วนๆ
ในแต่ละสนามของโมโตจีพี สิ่งที่สำคัญที่สุด แล้วเป้าหมายของเขาในซีซั้นนี้คือการจบใน 7 อันดับแรกของตารางคะแนนสะสมให้ได้ แต่อาการบาดเจ็บทำให้เป็นเรื่องยาก แต่หวังว่าจะรักษาความฟิตเพื่อเตรียมตัวให้พร้อมเต็มที่สำหรับฤดูกาล 2024”
ทั้งคู่ ยังได้พูดถึง สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ว่า "มันเป็นสนามที่ท้าทายมากๆ รวมไปถึงสภาพอากาศด้วย และโดยเฉพาะโค้ง 12 ที่เป็นโค้งสุดท้าย เป็นที่ท้าทายที่สุดของผม แถมบางครั้งยังมีพายุฝน นอกจากนี้หลายโค้งยังมีความยาก โดยเฉพาะโค้งสุดท้ายเข้าสู่ทางตรงก่อนเข้าเส้นชัย ถ้าคุณกะระยะพลาดเมื่อไรก็มีสิทธิ์หลุดโค้งได้ทุกเมื่อ"
มาร์ค มาร์เกซ ยังได้พูดถึง นักแข่งไทยอย่าง "ก้อง สมเกียรติ จันทรา" ในการขึ้นเป็นแข่งในรุ่นใหญ่ โมโต จีพี ว่า "ในมุมมองของผมเชื่อว่า ก้อง สมเกียรติ จะขึ้นไปอยู่จุดๆนั้นได้อย่างแน่นอน และในอนาคตจะมีนักแข่งจากประเทศไทยขึ้นไปแข่งในรุ่นโมโต จีพีได้ในที่สุด"
มาร์ค ได้พูดถึงหากมีเวลาว่าง "ผมอยากไปเที่ยวในกรุงเทพ เป็นเมืองที่ใหญ่ และมีสถานที่เก่าแก่มากมาย อยากไปกินมื้อเย็นที่นั่น แล้วก็อยากจะไปพักผ่อนที่ชายหาดด้วย กรุงเทพมีสิ่งต่างๆมากมาย แต่ผมยังไม่เคยเข้าไปในย่านใจกลางเมืองเลย ไปไกลที่สุดก็คือ สนามบิน"
สำหรับอาหารไทยนั้น ผมเป็นคนที่ไม่ชอบกินอาหารอะไรก็ได้ที่ไม่เผ็ด แต่ผมชอบข้าวผัดทะเล รสชาติมันใกล้เคียงกับอาหารยุโรปมาก ส่วน อเล็กซ์ นั้นก็บอกว่า ผมชอบเมนู "ผัดไทย" เป็นคนที่กินเผ็ดได้นิดหน่อยครับ
อเล็กซ์ มาร์เกซ เผยว่า "ไอดอลของผม ก็คือ ลิโอเนล เมสซี่ ยอดแนวรุกทีมชาติอาร์เจนตินา ของทีมอินเตอร์ ไมอามี่ ในขณะที่ มาร์ค มาร์เกซ นั้น มี ลิโอเนล เมสซี่ เป็นไอดอลเช่นกัน และ ราฟาเอล นาดาล นักเททนิสชาวสเปน เจ้าของแชมป์แกรนด์สแลม 22 รายการจากสเปน"
สุดท้ายนี้ ทั้งคู่ ขอเชิญชวนแฟนๆมอเตอร์สปอร์ตทั้งไทย และทั่วทุกมุมโลกให้มาเยือนเมืองบุรีรัมย์ในการแข่งขันโมโต จีพี ในศึก “โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2023” ที่จะชิงชัย วันที่ 27-29 ต.ค. ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิตนี้ ส่วนคนที่ไม่สามารถมาสนามได้ ก็สามารถติดตามชมได้ผ่านการถ่ายทอดสดได้เช่นกัน