"บีเอ็นไอ-ทีเอ็นอี"ผนึกกำลังจัดดวลสวิงอินโดนิเซียนมาสเตอร์ส

 ถือเป็นรายการแข่งขันกอล์ฟที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของชาติ และเป็นการหวนกลับมาอยู่ในโปรแกรมแข่งขันของ เอเชียน ทัวร์ อีกครั้ง หลังจากหยุดจัดการแข่งขันไปนานกว่า 2 ปี เนื่องจากปัญหาการแพร่ระบาดของ ไวรัส โควิด-19 โดยครั้งนี้จะรวมดาวดังจาก เอเชียน ทัวร์ และระดับโลกเข้าร่วมการแข่งขันกันอย่างคึกคัก

 นอกจากจะเป็นการกลับมาจัดแข่งขันอีกครั้ง ยังมีการเพิ่มเงินรางวัลจากเดิม 750,000 เหรียญสหรัฐ (27.75 ล้านบาท) ในปี 2019 มาเป็นชิงเงินรางวัล 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (55.5 ล้านบาท) แข่งขันกัน ณ สนาม รอยัล จาการ์ต้า กอล์ฟ คลับ ระหว่างวันที่ 1-4 ธันวาคม 2565 นอกจากนั้นแล้วรายการนี้เตรียมที่จะเป็นส่วนหนึ่งของ อินเตอร์เนชั่นเนล ซีรีส์ ในปีหน้าอีกด้วย

 โดยที่ จิมมี่ มาสริน ประธาน เอเชียน ทัวร์ และผู้ก่อตั้งการแข่งขัน อินโดนิเซียน มาสเตอร์ส กล่าวว่า "เราอยากจะขอบคุณ บีเอ็นไอ และ ทีเอ็นอี กับการสนับสนุนในปีนี้ เหมือนเช่นที่ผ่านมาที่ทั้ง บีเอ็นไอ และ ทีเอ็นอี ให้สนับสนุนเราเสมอมา และอยากเห็นการพัฒนาด้านกีฬากอล์ฟใน อินโดนิเซีย คาดว่าปีนี้จะเป็นการแข่งขันที่สนุกตื่นเต้นอย่างแน่นอน"

 ด้าน รอยเก้ ทูลิมาร์ ประธานอำนวยการ บีเอ็นไอ เผยว่า "การคงอยู่ของรายการนี้มาตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ทาง บีเอ็นไอ รู้สึกว่าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเราในการช่วยเหลือพัฒนาการแข่งขันต่อไป และเป็นสิ่งสำคัญในการกระตุ้นการพัฒนากีฬากอล์ฟของประเทศ" ขณะที่ จูบิแลนท์ ฮาร์มิดี้ ประธาน ทีเอ็นอี ที่เดิมทีสนับสนุนการแข่งขันระดับ เอเชียน ดีเวลลอปเมนท์ กล่าวถึงการเข้ามาร่วมสนับสนุนรายการนี้ว่า "รายการนี้เป็นส่วนหนึ่งในประวัติศาสตร์กอล์ฟของ อินโดนิเซีย นับตั้งแต่จัดแข่งขันครั้งแรกเมื่อ 11 ปีก่อน การเข้ามาสนับสนุนครั้งนี้เพื่อกระตุ้นการพัฒนา และหวังว่าจะได้เห็นนักกอล์ฟอินโดนิเซียก้าวขึ้นมาสู่ความสำเร็จในระดับนานาชาติบ้าง"

รายการนี้นอกจากจะมีนักกอล์ฟชั้นนำมาร่วมแข่งขันแล้ว บรรดาอดีตแชมป์รายการนี้อย่าง ลี เวสต์วู้ด (2011, 2012 และ 2015), แบรน์ด ไวส์แบร์เกอร์ (2013), อนีร์บาน ลาห์ฮิรี่ (2014), ภูมิ ศักดิ์แสนศิลป์ (2016 และ 2018) และ แจ๊ส เจนวัฒนานนท์ (2019) พร้อมที่จะกลับมาร่วมแข่งขันรายการนี้ เช่นเดียวกับมือระดับโลกอย่าง แกรม แม็คโดเวลล์ และ แชส เคปก้า ที่จะร่วมแข่งขันด้วย