“โปรจีน” อาฒยา ฐิติกุล นักกอล์ฟหมายเลข 2 ของโลกชาวไทยแผ่วปลายตีเกิน 2 โอเวอร์พาร์ 74 รอบสุดท้ายศึกบีเอ็มดับเบิ้ลยู เลดี้ส์ แชมเปี้ยนชิพ วันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม เข้าป้ายอันดับ 6 สกอร์รวม 13 อันเดอร์พาร์ 275 อกหักชวดแชมป์แอลพีจีเอทัวร์หน 3 ในอาชีพและปีนี้ ไม่ดีพอจบอย่างน้อยอันดับ 4 เดี่ยว ซึ่งคาดจะทำให้ขยับเป็นมือหนึ่งของโลกคนใหม่ รับเงินปลอบใจ 67,770 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 2.58 ล้านบาท)
ศึกแอลพีจีเอทัวร์รายการ บีเอ็มดับเบิ้ลยู เลดี้ส์ แชมเปี้ยนชิพ ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 76 ล้านบาท) ที่สนามโอ๊ค วัลลี่ย์, คันทรี คลับ ระยะ 6,647 หลา พาร์ 72 ที่ประเทศเกาหลีใต้ วันที่ 20-23 ตุลาคม 2565 แข่งขันแบบสโตรกเพลย์ไม่มีตัดตัวของนักกอล์ฟ 78 คน มี 8 โปรสาวไทยร่วมชิงชัย อาฒยา ฐิติกุล, แพ็ตตี้ ธวัชธนกิจ, ปาจรีย์ อนันต์นฤการ, พรอนงค์ เพชรล้ำ, โมรียา จุฑานุกาล, เอรียา จุฑานุกาล, วิชาณี มีชัย, จัสมิน สุวัณณะปุระ
รอบสุดท้ายวันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม 2565 "โปรจีน" อาฒยา ฐิติกุล ซึ่งกำลังไล่ล่าแชมป์แอลพีจีเอทัวร์รายการที่ 3 ของตัวเอง มีลุ้นเป็นนักกอล์ฟสาวไทยรั้งมือ 1 ของโลกคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์ ถัดจาก เอรียา จุฑานุกาล เคยทำ 3 ช่วง 12-25 มิถุนายน 2017, 30 กรกฎาคม-19 สิงหาคม 2018 และ 29 ตุลาคม 2018 - 3 มีนาคม 2019 รวม 23 สัปดาห์ ถ้าทำผลงานตรงตาม 1 ใน 4 เงื่อนไข 1.คว้าแชมป์ 2. จบอันดับ 2 คนเดียว กับ โค จิน ยอง จบอันดับ 4 คนเดียวหรือแย่กว่า, 3. จบอันดับ 3 คนเดียว, โค จิน ยอง จบอันดับ 10 คนเดียว หรือแย่กว่า และมินจี ลี ไม่ได้แชมป์ และจบอันดับ 4 คนเดียว, โค จิน ยอง จบอันดับ 29 คน
เดียว หรือแย่กว่านั้น และมินจี ลี ไม่ได้แชมป์ โดย โค จิน ยอง โปรมือ 1 ของโลกขวัญใจเจ้าถิ่นที่้ฟื้นตัวจากรักษาอาการบาดเจ็บนิ้วกลับลงแข่งขันครั้งแรกตั้งแต่เดือนสิงหาคมตัดสินใจถอนตัวหลังจบรอบสองตีเกินรวม 15 โอเวอร์พาร์ 159 ยังได้เงินเข้ากระเป๋า 3,840 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 1.46 แสนบาท)
ขณะที่ มินจี ลี โปรมือ 3 ของโลกจากออสเตรเลีย ตีเพิ่ม 1 อันเดอร์พาร์ 71 สกอร์รวม 1 อันเดอร์พาร์ 287 จบเพียงอันดับ 51 ร่วม รับเงินรางวัล 6,727 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 2.56 cloบาท) เท่านั้น
"โปรจีน" ซึ่งออกสตาร์ตดีเก็บเบอร์ดี้แรกของวันในหลุม 2 พาร์ 5 อย่างไรก็ดีจากนั้นกลับฟอร์มหลุดเองเสีย 4 โบกี้หลุม 5, 7, 9, 13 แม้แก้ตัวทำ 2 เบอร์ดี้ติดหลุม 14 กับ 15 แต่พลาดออกโบกี้ที่ 5 หลุม 16 พาร์ 4 ทำให้จบรอบตีเกิน 2 โอเวอร์พาร์ 74 สกอร์รวม 13 อันเดอร์พาร์ 275 หล่นจบอันดับ 6 เท่านั้น ส่งผลให้พลาดแชมป์แอลพีจีเอทัวร์รายการที่ 3 ในชีวิตและปีนี้ของตัวเองและน่าจะชวดขยับขึ้นแท่นโปรสาวหมายเลข 1 ของโลกที่จะประกาศคะแนนสะสมทางการวันจันทร์ที่ 24 ตุลาคมเวลาสหรัฐอเมริกาแบบน่าเสียดาย รับเงินปลอบใจ 67,770 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 2.58 ล้านบาท)
โดย ลิเดีย โค นักกอล์ฟนิวซีแลนด์เชื้อสายเกาหลีระเบิดฟอร์มกดเพิ่ม 7 อันเดอร์พาร์ 65 สกอร์รวม 21 อันเดอร์พาร์ 267 ซิวแชมป์แอลพีจีเอทัวร์รายการที่ 18 ในอาชีพและครั้งที่ 2 ปีนี้ถัดจาก เกนบริดจ์ แอลพีจีเอแอต โบคา ริโอ รับเงินรางวัลชนะเลิศ 300,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 11.4 ล้านบาท) เอาชนะอันดับสอง อันเดรีย ลี จากสหรัฐอเมริกาที่ตีเข้ามา 3 อันเดอร์พาร์ 69 หายห่วง 4 สโตรก
ส่วน ชเว ฮเย-จิน โปรเกาหลีใต้ที่กำลังลุ้นเบียดแย่งรางวัลนักกอล์ฟหน้าใหม่หรือ รุกกี้ ออฟ เดอะ เยียร์ กับ "โปรจีน" อาฒยา ฐิติกุล เข้าป้ายอันดับ 3 ร่วมกับ คิม ฮโย-จู นักกอล์ฟร่วมชาติ และลิเลีย วู อีกหนึ่งโปรอเมริกัน สกอร์รวม 16 อันเดอร์พาร์ 272
ผลงานนักกอล์ฟไทยคนอื่นๆ เอรียา จุฑานุกาล ตีเพิ่ม 2 อันเดอร์พาร์ 70 สกอร์รวม 12 อันเดอร์พาร์ 276 จบอันดับ 7 รับเงินรางวัล 56,726 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 2.16 ล้านบาท) วิชาณี มีชัย กับจัสมิน สุวัณณะปุระ ทำอีเวนพาร์ 72 สกอร์รวม 7 อันเดอร์พาร์ 281 จบอันดับ 19 ร่วมเท่ากัน รับเงินรางวัล 21,925 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 8.33 แสนบาท)
ปาจรีย์ อนันต์นฤการ ตีเพิ่ม 1 อันเดอร์พาร์ 71 สกอร์รวม 4 อันเดอร์พาร์ 284 จบอันดับ 36 ร่วม รับเงินรางวัล 12,098 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 4.60 แสนบาท) โมรียา จุฑานุกาล ตีเพิ่ม 2 อันเดอร์พาร์ 70 สกอร์รวม 3 อันเดอร์พาร์ 385 จบอันดับ 40 ร่วม รับเงินรางวัล 9,653 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 3.67 แสนบาท) พรอนงค์ เพชรล้ำ ทำอีเวนพาร์ 72 สกอร์รวม 2 โอเวอร์พาร์ 290 จบอันดับ 59 ร่วม รับเงินรางวัล 5,020 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 1.91 แสนบาท) แพ็ตตี้ ธวัชธนกิจ ตีเพิ่ม 1 อันเดอร์พาร์ 71 สกอร์รวม 10 โอเวอร์พาร์ 298 จบอันดับ 73 รับเงินรางวัล 3,967 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 1.51 แสนบาท)