สาริศ จบ 19 อันเดอร์ฯ หยิบแชมป์วอลโว ไชน่า โอเพ่น

กอล์ฟเอเชียน ทัวร์ รายการ วอลโว่ ไชน่า โอเพ่น ชิงเงินรางวัล 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (54 ล้านบาท) แข่งขันระหว่างวันที่ 2-5 พฤศจิกายน 2566 ที่สนาม ฮิดเดน แกรซ กอล์ฟ คลับ แบบพาร์ 72 ระยะ 7,145 หลา ประเทศจีน โดยนับเป็นหนึ่งในรายการนับคะแนน อินเตอร์เนชั่นเนล ซีรี่ส์ อีกด้วย

จบรอบสุดท้ายเมื่อวันอาทิตย์ที่ 5 พฤศจิกายน 2566 โปรเซฟ สาริศ สุวรรณรัตน์ ออกสตาร์ตตามหลังผู้นำ 3 สโตรค ก่อนพลิกเกมทำ 3 เบอร์ดี้ติดตั้งแต่หลุม 2-4 ขยับขึ้นมานำร่วม ก่อนจะแซงนำหลังทำ 2 เบอร์ดี้ที่หลุม 7 และ 9 แม้ว่าจะเสียโบกี้ที่หลุม 8 แต่ทว่า เฉิน กู่ซิน พลาดเสียดับเบิ้ลโบกี้ที่หลุม 7 มารอบ 9 หลุมสุดท้าย สาริศ ยังรักษาเกมของตัวเองทำเพิ่มอีก 5 เบอร์ดี้ เสียโบกี้ที่หลุม 13 พาร์ 5 จบรอบด้วยสกอร์ 8 อันเดอร์พาร์ 64 จากผลงาน 10 เบอร์ดี้ เสีย 2 โบกี้ ทำสกอร์รวม 19 อันเดอร์พาร์ 269 คว้าแชมป์รายการนี้ไปครองสำเร็จ พร้อมเป็นแชมป์รายการที่ 2 ใน เอเชียน ทัวร์ ของ สาริศ นับตั้งแต่คว้าแชมป์ อินโดนิเซียน มาสเตอร์ส เมื่อเดือนธันวาคมปี 2022

เฉิน กู่ซิน สวิงเจ้าถิ่นจากจีน ผู้นำจากรอบที่แล้ว ออกพลาดทำ 1 โอเวอร์พาร์ 73 รวมสกอร์ 13 อันเดอร์พาร์ 275 รั้งอันดับ 2 ร่วมกับ ไทอิชิ โค นักกอล์ฟหนุ่มจากฮ่องกง เจ้าของเหรียญทอง เอเชียน เกมส์ ที่รอบนี้ทำเพิ่มเข้ามาอีก 7 อันเดอร์พาร์ 65 แบ่งเงินรางวัลกันคนละ 129,750 เหรียญสหรัฐ (4,671,000 บาท) โดยมี ยูเจนิโอ ชาการ์ร่า สวิงชาวสเปน คว้าอันดับ 4 สกอร์รวม 12 อันเดอร์พาร์ 276 รับเงินรางวัล 75,000 เหรียญสหรัฐ (2.7 ล้านบาท)

"โปรเซฟ" วัย 25 ปีเปิดใจถึงการชนะเลิศเอเชียนทัวร์ที่ 2 ในอาชีพว่าเป็นเพราะก่อนมาแข่งรายการนี้ได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นกับครอบครัวทำให้รู้สึกผ่อนคลายขึ้นจากไม่ผ่านตัดตัว 6 จาก 13 รายการฤดูกาลนี้ ติดท็อปแทนครั้งเดียวที่ อินโดนีเซีย โอเพ่น เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา 

"ผมแค่อยากมาเล่นที่นี่ให้สนุกที่สุดเพราะปีนี้เป็นปีที่ยากมาก เล่นแย่ไม่ผ่านตัดตัวเยอะ ผลงานภาพรวมไม่ดี มีปัญหา ทั้งเหล็ก โดยเฉพาะพัตเตอร์ แต่การพัตต์สัปดาห์นี้เหลือเชื่อมาก มันเหมือนผมมองเห็นไลน์หมด รู้ว่าต้องพัตต์ยังไง" สาริศ ซึ่งกลับมาใช้พัตเตอร์อันเดียวกับตอนคว้าแชมป์แรกที่ อินโดนีเซียน มาสเตอร์ส ธันวาคมปีที่แล้ว ทิ้งท้าย

ผลงานนักกอล์ฟไทยคนอื่น ถิรวัฒน์ แก้วศิริบัณฑิต โปรชาวขอนแก่น จบอันดับ 11 ร่วม สกอร์รวม 8 อันเดอร์พาร์ 280 ด้าน ปวิธ ตั้งกมลประเสริฐ, อิทธิพัทธ์ บูรณธัญรัตน์ คว้าอันดับ 13 ร่วมสกอร์รวม 7 อันเดอร์พาร์ 281 ขณะที่ เศรษฐี ประคองเวช, สดมภ์ แก้วกาญจนา และ ภวินทร์ อิงคะประดิษฐ์ จบอันดับ 19 ร่วมสกอร์รวม 6 อันเดอร์พาร์ 282

สำหรับรายการต่อไปของ เอเชียน ทัวร์ เป็นการแข่งขันรายการ ฮ่องกง โอเพ่น ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านเหรียญสหรัฐ (72 ล้านบาท) แข่งขันกัน ณ สนามฮ่องกง กอล์ฟ คลับ แบบพาร์ 70 ระยะ 6,710 หล่ เมือง ฟ่านหลิง ในเขตการปกครองพิเศษฮ่องกง ระหว่างวันที่ 9-12 พฤศจิกายน 2566