"อชิตะ เปี่ยมกุลวนิช"รั้งที่19 ร่วม รอบแรกสวิงเอเชีย-แปซิฟิก

สหพันธ์กอล์ฟเอเชีย-แปซิฟิก (เอพีจีซี), เดอะ มาสเตอร์ส ทัวร์นาเมนท์ และ เดอะ อาร์แอนด์ ณ สนามรอยัล เมลเบิร์น กอล์ฟ คลับ ระยะ 7,055 หลา  พาร์ 71 เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย แชมป์จะได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันรายการ "เดอะ มาสเตอร์ส 2024", รายการ "ดิ โอเพ่น ครั้งที่ 152" และรายการ "อเมเจอร์ แชมเปี้ยนชิพ ครั้งที่ 129" ขณะที่รองแชมป์จะได้สิทธิ์แข่งขันรอบคัดเลือกรอบสุดท้ายในการชิงตั๋วเพื่อเล่นรายการ "ดิ โอเพ่น ครั้งที่ 152" ด้วยเช่นกันโดยศึกครั้งนี้ มีนักกอล์ฟเข้าร่วมแข่งขัน 120 คน จาก 40 ประเทศ แข่งสโตรกเพลย์ 72 หลุม และ ตัดตัวที่ท็อป 60 และเสมอ หลังจบ 36 หลุม

จบการแข่งขันรอบแรกเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2566 อชิตะ เปี่ยมกุลวนิช ทำผลงานดีสุดในบรรดา 7 นักกอล์ฟ ที่สกอร์ 2 โอเวอร์ จากการทำ 2 เบอร์ดี้ 4 โบกี้  ผู้นำเป็นของคาซูม่า โกโบริ นักกอล์ฟนิวซีแลนด์ ที่ทำ 5 อันเดอร์ จาก 5 เบอร์ดี้ โกโบริลงเล่นรายการนี้เป็นครั้งที่ 3 ทำผลงานดีสุดในรายการนี้คืออันดับ 24 ร่วมในการแข่งขันเมื่อปีที่แล้วที่ประเทศไทย โดยนักกอล์ฟวัย 22 ปี รายนี้ถือเป็นหนึ่งในตัวเต็งที่จะคว้าแชมป์รายการนี้หลังจากปีนี้นั้นได้แชมป์ทั้งรายการเวสเทิร์น อเมเจอร์ และ ออสเตรเลียน อเมเจอร์ นอกจากนั้น ยังจบในท็อป 6 ของทั้งรายการ นิวซีแลนด์ โอเพ่น และ นิวซีแลนด์ พีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ

ผลงานอีก 5 นักกอล์ฟไทย มีดังนี้  อาศิษฐ์ อารีพันธ์ ทำ 3 โอเวอร์ จาก 3 เบอร์ดี้ 6 โบกี้  อยู่ที่ 27 ร่วม , ลพัษภล ลิแบร์โต้ เอราช-โกเมซ ทำ 6 โอเวอร์ อยู่ที่ 51 ร่วม, พงศภัค เหล่าภักดี ซึ่งครั้งที่แล้วจบอันดับ 5 ร่วม และ ธนวินท์ ลี ซึ่งสัปดาห์ที่แล้ว คว้าแชมป์กอล์ฟสมัครเล่นชิงแชมป์ประเทศไทย ออกสตาร์ทด้วยการตี 8 โอเวอร์ อยู่ที่ 71 ร่วม เช่นเดียวกับ ส่วน ยูตะ ซูกิอุระ มือ 16 ของโลกจากญี่ปุ่น ซึ่งเป็นมืออันดับโลกที่สูงสุดในรายการนี้ , ธีรวุฒิ บุญสีออ ทำ 9 โอเวอร์ อยู่ที่ 79 ร่วม และ อิงตะวัน หวังรุ่งวิชัยศรี 16 โอเวอร์ อยู่ที่ 113 ร่วม จากนักกอล์ฟทั้งหมด 120 คน

แฟนกอล์ฟชาวไทยสามารถติดตามการถ่ายทอดสดรอบสองวันที่ 27 ตุลาคม ได้ทาง SPOTV ตั้งแต่เวลา 12.00 น. -14.55 น. ส่วนการแข่งขันครั้งต่อไปมีขึ้นที่ สนามไทเฮโย คลับ, โกเตมบะ คอร์ส ประเทศญี่ปุ่น วันที่ 3-6 ตุลาคม 2567  เป็นครั้งที่ 2 ที่การแข่งขันครั้งนี้จะมีขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งแชมป์รายการนี้ก็จะยังได้สิทธิ์เหมือนเดิมคือเข้าร่วมแข่งขัน 2 รายการ คือ เดอะ มาสเตอร์ส 2025 และ ดิ โอเพ่น 2025 ขณะที่รองแชมป์จะได้เล่นรอบคัดเลือกรอบสุดท้ายเพื่อลุ้นตั๋วเข้าไปเล่น ดิ โอเพ่น 2025