"โปรปลาย" พัชรจุฑา คงกระพันธ์ สวิงสาวขอนแก่น วัย 31 ปี แท็ปอิน แชมเปี้ยนชิพพัตต์ รอบเพลย์ออฟ โฮล บาย โฮล เฉือนชนะ พรรณรายณ์ มีสมอรรถ สวิงสาวจากชลบุรี คว้าโทรฟี่ Singha Rises พร้อมเงินรางวัล 350,000 บาท นับเป็นแชมป์ที่ 5 ในซีซั่น เป็นแชมป์ที่ 2 ใน ไทย แอลพีจีเอ ทัวร์ปีนี้ และยังรั้งอันดับ1ในอันดับเงินรางวัลสะสม ออร์เดอร์ ออฟ เมอริต อีกด้วย
การแข่งขันกอล์ฟรายการ ไทย แอลพีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ 2023 ชิงเงินรางวัลรวม 2.5 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 9-11 สิงหาคม 2566 ณ สนามรอยัล หัวหิน กอล์ฟ คอร์ส แบบพาร์ 72 ระยะ 6,223 หลา อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ จบรอบวันสุดท้าย เมื่อวันศุกร์ที่ 11 สิงหาคม 2566
สมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพสตรี จัดการแข่งขัน ไทย แอลพีจีเอ ทัวร์ 2023 ด้วยการสนับสนุนจาก การกีฬาแห่งประเทศไทย, กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ, การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (EGAT), บริษัท บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส จำกัด (มหาชน), บริษัท ปทุมธานีกล๊าส อินดัสทรี จำกัด, บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด, เซ็นทรัล กรุ๊ป, บริษัท ลีโอเนียน (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน), บริษัท นิคอน เซลล์ (ประเทศไทย) จำกัด, AIS PLAY, บริษัท เนสทเล่ (ไทย) จำกัด และ รอยัล หัวหิน กอล์ฟ คอร์ส เล่นสโตรคเพลย์ 3 วัน 54 หลุม ระหว่างวันที่ 9-11 สิงหาคม 2566 ตัดตัวนักกอล์ฟที่อันดับ 1-50 และเสมอ เข้าไปเล่นในรอบสุดท้าย โดยที่ไม่รวมผลการแข่งขันของนักกอล์ฟสมัครเล่น แชมป์รับเงินรางวัล 350,000 บาท นับเป็นสนามที่ 9 จากทั้งหมด 10 สนามแข่งขัน ไทย แอลพีจีเอ ทัวร์ 2023 นอกจากชิงเงินรางวัลแล้ว ยังเป็นรายการเก็บคะแนนสะสม ไทย แอลพีจีเอ ทัวร์ ออเดอร์ ออฟ เมอริต ประจำปี 2023 และสะสมคะแนน ไทย แอลพีจีเอ ทัวร์ พอยท์ 2023 และยังมีการคิดคะแนนสะสมอันดับโลก "โรเลกซ์ วีเมนส์ เวิลด์ กอล์ฟ แรงกิ้ง" ให้กับนักกอล์ฟในทัวร์อีกด้วย พิธีมอบรางวัลได้รับเกียรติจาก นายกฤษดา ตัณฑ์วิไล นายกสมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพสตรี ร่วมมอบรางวัลให้กับผู้คว้ารางวัล
เมื่อวันศุกร์ที่ 11 สิงหาคม 2566 จบการเล่น 72 หลุม การลุ้นแชมป์ต้องยืดเยื้อ เมื่อ พัชรจุฑา คงกระพันธ์ สวิงสาววัย 31 ปีจาก ขอนแก่น จบรอบด้วยการทำ 1 โอเวอร์พาร์ 73 รวมสามวัน 3 อันเดอร์พาร์ 213 สกอร์เท่ากับ พรรณรายณ์ มีสมอรรถ นักกอล์ฟสาววัย 19 ปีจากชลบุรี ที่เก็บเพิ่มมาอีก 1 อันเดอร์พาร์ 71 ต้องไปตัดสินแชมป์ด้วยการเล่นรอบเพลย์ออฟ โฮลบายโฮล
รอบเพลย์ออฟมีขึ้นที่หลุม 18 พาร์ 4 ระยะ 371 หลา โดย พรรณรายณ์ เริ่มทีชอตก่อนวางตัวอยู่ในกลางแฟร์เวย์ ขณะที่ พัชรจุฑา เสิร์ฟไปด้านซ้ายของแฟร์เวย์ ต้องขึ้นชอตสองก่อน ชอตขึ้นกรีน พัชรจุฑา ใช้ล็อบเวดจ์ 54 องศา จากระยะ 106 เข้าออนกรีน เหลือระยะพัตต์ 12 ฟุต ขณะที่ พรรณรายณ์ ขึ้นชอตสองตกอยู่ขอบกรีนพัตต์เบอร์ดี้เหลือระยะเซฟพาร์ 2 ฟุต และเซฟพาร์ไม่ลง จบด้วยโบกี้ เปิดโอกาสให้ โปรปลาย ที่พัตต์เบอร์ดี้จากระยะ 12 ฟุต เขามาเหลือห่างหลุมราว 1 ฟุต และแท็ปอินเซฟพาร์ ซิวแชมป์นี้ได้สำเร็จ คว้าโทรฟี่ Singha Rises พร้อมเงินรางวัล 350,000 บาท ขณะที่ พรรณรายณ์ จบเป็นอันดับสอง รับเงินรางวัล 225,000 บาท
นับเป็นแชมป์สัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกันของ พัชรจุฑา ต่อจากการคว้าแชมป์ ไต้หวัน แอลพีจีเอ ทัวร์ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และเป็นแชมป์ที่ 5 ของเจ้าตัวในซีซั่นนี้ด้วย เผยว่า "เป็นอีกแมตช์ที่ต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรคมากมาย และท้าทายตลอดการแข่งขันทั้งสามวัน พอใจกับวิธีการจัดการของตัวเอง และประสบความสำเร็จได้ในที่สุด นับเป็นครั้งที่ 2 ในการเล่นรอบเพลย์ออฟ ยอมรับว่าดีใจ และปีนี้ยังมีอีกหลายทัวร์นาเม้นท์ให้ลงเล่น ที่สำคัญหลังจากนี้ต้องซ้อมอย่างหนักมากขึ้นสู่การกลับไปรับใช้ทีมชาติอีกครั้ง ในกีฬา เอเชียนเกมส์ หวังว่าแชมป์นี้จะทำให้สร้างความมั่นใจมากขึ้น"
ษมาพร แข็งขันธ์ สวิงสาวจากจังหวัดเลย จบด้วยสกอร์ 1 อันเดอร์พาร์ 215 คว้าอันดับ 3 รับเงินรางวัล 162,500 บาท ขณะที่ สุภมาส แสงจันทร์ สวิงสาวจากสุโขทัย และ เฌอมาลย์ สันติวิวัฒน์พงศ์ จากบึงกาฬ คว้าอันดับ 4 ร่วม สกอร์รวม อีเวนพาร์ 216 ด้านนักกอล์ฟสมัครเล่นผลงานดีสุดเป็นของ กฤติชัญญา เก้าพัฒนสกุล นักกอล์ฟสมัครเล่นสาวจาก ชลบุรี จากผลงาน 1 โอเวอร์พาร์ 217
สำหรับการแข่งขันรายการต่อไปของ ไทย แอลพีจีเอ ทัวร์ เป็นการแข่งขันรายการสุดท้ายของฤดูกาล ในรายการ บีจีซี ไทยแลนด์ แอลพีจีเอ มาสเตอร์ส 2023 ชิงเงินรางวัล 4 ล้านบาท เป็นแมตช์ไตรแซงชั่นร่วมกับ ไต้หวัน แอลพีจีเอ และ ดับเบิ้ลยูพีจีเอ ทัวร์ ของ ออสเตรเลีย มีขึ้นระหว่างวันที่ 6-8 กันยายน 2566 สนามแบล็คเมาน์เท่น กอล์ฟ คลับ จ.ประจวบฯ