"ปุ๊งกี๋" ทิรา บุญาณี กิตติกรณ์ สาวสวยคนกีฬารุ่นใหม่ พร้อมผลักดัน-พัฒนาคิกบ็อกซิ่งไทย

 "ปุ๊งกี๋" ทิรา บุญาณี กิตติกรณ์ สาวสวยคนกีฬารุ่นใหม่ พร้อมผลักดัน-พัฒนาคิกบ็อกซิ่งไทย
เชื่อว่าหลายคนคงจะคุ้นหน้าคุ้นตากับสาวสวยนามว่า "ปุ๊งกี๋" ทิรา บุญาณี กิตติกรณ์ เป็นอย่างดี เจ้าตัวโด่งดังและเป็นที่รู้จัก จากออร่าความสวยปังชนิดสื่อต่างประเทศ ต้องดึงตัวมาสัมภาษณ์เจาะลึก ในช่วงการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่เวียดนาม เมื่อเดือนพ.ค.2022 ซึ่งในรอบนั้น เจ้าตัวรับบทเป็นเจ้าหน้าที่ของทีมคิกบ็อกซิ่งไทย มีหน้าที่ในการช่วยประสานงาน พร้อมทั้งอำนวยความสะดวก ให้กับทัพนักกีฬาไทย

จากวันนั้นถึงวันนี้เกือบครึ่งปี ประสบการณ์ในการทำงานที่มีเพิ่มมากขึ้น ทำให้เจ้าตัวได้รับโอกาสทำงานในบทบาทที่ต่างไป กับตำแหน่งอุปนายกและเหรัญญิกสมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งแห่งประเทศไทย  

ล่าสุด "ปุ๊งกี๋" นำทีมนักกีฬาไทย ลงแข่งขันในศึกชิงแชมป์เอเชีย 2022 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ  ที่อาคารกีฬาเวสน์ 1 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) เมื่้อ 10-18 ธ.ค.65 ซึ่งทัวร์นาเมนต์ดังกล่าว ทัพนักกีฬาไทยทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจทีเดียว หลังคว้ามาได้ถึง  12 เหรียญทอง 11 เหรียญเงิน 14 เหรียญทองแดง

"ปุ๊งกี๋" ทิรา บุญาณี กิตติกรณ์ เปิดใจกับทีมข่าวสยามกีฬา ว่า ตนเองโชคดีที่มีคุณแม่ทำงานในวงการกีฬามาก่อน ซึ่งก็ได้เห็น ได้ซึมซับงานด้านนี้ กอปรกับตนได้รับโอกาสจากผู้ใหญ่ในวงการกีฬา ซึ่งไว้ใจให้เข้ามาทำหน้าที่ในตำแหน่งรองเลขาธิการลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทยไปก่อนหน้านี้  

สาวสวยวัย 22 ปี เปิดใจอีกว่า หลังเข้ามาทำงานดังกล่าว ทำให้รู้ว่าตนเองชอบและมีไฟที่อยากจะทำงานด้านบริหารกีฬา ซึ่งก็ประจวบเหมาะกับการที่ตนเองก็เรียนด้านนี้มาด้วย จึงได้ประยุกต์และปรับใช้ความรู้ที่มีกับการทำงานกีฬาได้ 

"หนูเองได้มีโอกาสทำกีฬามวยไทย ก่อนจะเข้ามาช่วยงานในสมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่ง ซึ่งก็เป็นกีฬาชนิดใหม่เพิ่งจะเริ่มตั้งไข่ในเมืองไทย จะว่าไปก็ถือว่ามีความคล้ายคลึงกับมวยไทยเหมือนกัน ทำให้ช่วงหลังๆได้รับการผลักดันมากขึ้นด้วย และนี่ก็กลายเป็นอีกกีฬาทางเลือกของนักกีฬามวยไทย และนักกีฬาที่เล่นกีฬาต่อสู้ประเภทอื่นๆ ซึ่งก็มีคนหันมาเล่นกันมากขึ้นด้วย" 

"ต้องยอมรับตนเองไม่ได้คุ้นเคยกับกีฬามวย หรือกีฬาต่อสู้มากนัก การเข้ามาทำกีฬาคิกบ็อกซิ่ง ทำให้หนูต้องพยายามทำงานหนักมากขึ้น เพื่อจะเรียนรู้ระบบต่างๆ  ตอนนี้กับตำแหน่งของอุปนายกและเหรัญญิกก็ถือว่าได้ทำอะไรหลายๆอย่าง และกับการแข่งขันชิงแชมป์เอเชียที่ผ่านมา ก็ทำให้ได้เรียนรู้งานหลายๆอย่างเช่นกัน ทั้งการจัดงาน บริหารงาน และดูแลนักกีฬาไทย ซึ่งก็ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีของเรา ในการเรียนรู้และพัฒนาตัวเอง" 

"การแข่งขันคิกบ็อกซิ่งเอเชียที่ผ่านมา อยากจะขอบคุณหลายๆสมาคมที่ให้ความช่วยเหลือ ทั้งสมาคมยูยิตสู, เทควันโด และคาราเต้ ที่ต่างก็ส่งนักกีฬาเข้ามาช่วยเรา อนาคตก็อยากจะเห็นนักกีฬาคิกบ็อกซิ่งของเรา พัฒนาตัวเองไปถึงขั้นระดับเวิลด์คลาส ได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันในมหกรรมกีฬาใหญ่ๆ ไปจนถึงคว้าเหรียญในการแข่งขันกลับมาได้ ไม่ว่าจะเป็น ซีเกมส์, เวิลด์เกมส์, เวิลด์คอมแบทเกมส์ หรือชิงแชมป์โลก" 

"ปุ๊งกี๋" กล่าวปิดท้ายว่า สมาคมมีแผนที่จะทำให้กีฬาคิกบ็อกซิ่งอยู่ในสายของกีฬาอาชีพด้วย ซึ่งก็จะคล้ายๆกับมวยเค-วัน ของญี่ปุ่น หรือมวยไทย ก็เชื่อว่าเราสามารถสร้างและทำให้คิกบ็อกซิ่งเป็นกีฬาอาชีพเช่นนั้นได้เหมือนกัน 


ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport